‘ปารีณา’ พาชาวบ้านแจ้งความกลับตำรวจ หลังถูกบุกรุกยามวิกาล
จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นชุดปฏิบัติการพิเศษ ปราบปรามทุจริตการเลือกตั้งจากทาง จ.ราชบุรี จำนวน 4 นาย เข้าตรวจสอบที่บ้านหลังหนึ่งในหมู่ 11 ต.เขาชะงุ้ม อ.โพธาราม หลังได้รับแจ้งว่ามีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก ซึ่งอาจจะมีการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งเมื่อเข้าตรวจสอบกลับถูกกลุ่มชายฉกรรจ์เข้ามาล็อกตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งพร้อมกับพยายามที่จะลากเข้าไปในบ้าน และมีการดิ้นรนขัดขืน จนได้รับบาดเจ็บ และอาวุธปืนพกประจำกายหายไปขณะเกิดความชุลมุน ซึ่งที่เกิดเหตุนั้นมีนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี อยู่ในเหตุการณ์ด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการบันทึกคลิปวิดีโอไว้ และเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับชาวบ้านที่ร่วมก่อเหตุไว้ที่ สภ.เขาดิน โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมานั้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม ปารีณา ปะทะเดือด ตร.บุกบ้านชาวบ้านยามวิกาล ฟาดไม่มีหมายค้นระวังผิดกฎหมาย
เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี ได้พานายนพรัตน์ อายุ 40 ปี มาแจ้งความกลับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ สภ.เขาดิน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
ทั้งนี้ น.ส.ปารีณาได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ชุกรี ประดุกา ร้อยเวร สภ.เขาดิน ในข้อหาบุกรุกยามวิกาลและแจ้งความเท็จ
โดย น.ส.ปารีณาให้ข้อมูลว่า หลังจากที่ตนได้รับหมายเรียกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาดิน ให้มาสอบปากคำในฐานะพยาน เพราะอยู่ในคืนที่เกิดเหตุด้วย ซึ่งตนก็ได้มาพบพนักงานสอบสวนแล้วเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา
และมีชาวบ้านมาร้องว่า ถูกออกหมายเรียกให้มาสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหา ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ และกักขังหน่วงเหนี่ยว โดยชาวบ้านคนนี้ได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ซึ่งชาวบ้านคนนี้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลยและมีพยานด้วย จึงมองว่าไม่เป็นธรรม จึงได้พาชาวบ้านมาแจ้งความกลับเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันนี้ ซึ่งได้สอบถามเจ้าหน้าที่แล้วว่าชายฉกรรจ์จำนวน 10 คน ที่มาร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่นั้นมีใครบ้าง
แต่เจ้าหน้าที่ก็ตอบไม่ได้ และเจ้าหน้าที่ได้เรียกชาวบ้านคนที่หน้าคล้ายกับบุคคลในภาพวิดีโอ ซึ่งมีชาย 3 หญิง 3 และเจ้าหน้าที่ 2 คน มาสอบ ส่วนตนนั้นมาสอบในฐานะพยานที่อยู่ในเหตุการณ์แล้ว ซึ่งชาวบ้านที่มาแจ้งความในวันนี้แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ชาวบ้านที่ถูกตั้งข้อกล่าวหา โดยที่ไม่ได้กระทำความผิด และให้การปฏิเสธไปแล้วพร้อมทั้งยินยอมให้ตรวจดีเอ็นเอ ก็จะแจ้งความกลับเจ้าหน้าที่คนนั้น ส่วนตนนั้นจะแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ที่ทำปืนตกในบ้านของผู้อื่น ในข้อหาบุกรุกยามวิกาล
นายนพรัตน์กล่าวว่า ตนนั้นถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจและกักขังหน่วงเหนี่ยว แต่ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ซึ่งในวันที่เกิดเหตุตนขี่รถพาแฟนสาวไปงานวันเกิดเพื่อนของแฟน แต่ตนไม่รู้จักกับเจ้าของวันเกิด และได้ยินเสียงร้องโวยวาย จึงได้ออกมาดู และไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในวันนั้น แต่โดนถ่ายรูปและมาถูกตั้งข้อกล่าวหา วันนี้จึงต้องมาแจ้งความกลับเจ้าหน้าที่ในข้อหาแจ้งความเท็จ
ด้าน พ.ต.อ.จักรพงษ์ ตราบดี ผกก.สภ.เขาดิน กล่าวว่า วันนี้ น.ส.ปารีณามาแจ้งความกลับเจ้าหน้าที่ตำรวจในเคสก่อนหน้านี้ ในเรื่องดังกล่าวได้มีการสอบปากคำไปแล้ว ซึ่งมีความคืบหน้าของคดีเป็นอย่างมาก ส่วนเรื่องแจ้งความกลับก็สามารถทำได้ ทางเจ้าหน้าที่ก็จะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย และต่อไปก็จะเข้าสู่กระบวนการสอบสวน ซึ่งก็อยู่ที่พยานหลักฐานของทั้งสองฝ่ายว่ามีมากน้อยแค่ไหน
