ชาวบ้าน อ.สตึก บุรีรัมย์ กว่า 100 คน บุกที่ว่าการอำเภอสตึก ยื่นหนังสือเรียกร้องให้ปลดผู้ใหญ่บ้านออกจากตำแหน่ง ระบุไม่ทำงาน ไม่โปร่งใสหลายกรณี แต่ผู้ใหญ่บ้านมีวาระทำงานถึง 24 ปี วอนรัฐบาลชุดใหม่โดยเฉพาะพรรคก้าวไกล ล้างระบบเปลี่ยนให้ผู้ใหญ่บ้านมีวาระแค่ 5 ปี
เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ชาวบ้านโรงเลื่อย หมู่ 9 ต.นิคม อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ กว่า 100 คน เดินทางมาที่ว่าการอำเภอสตึก เพื่อต้องการยื่นหนังสือข้อร้องเรียน พร้อมแนบเอกสารการลงรายชื่อของชาวบ้านกว่า 340 คน จาก 127 ครัวเรือน และผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 630 คน เพื่อ ต้องการให้ปลดนายสุรชัย ไชยคูบอน ผู้ใหญ่บ้านโรงเลื่อย หมู่ 9 ออกจากการเป็นผู้ใหญ่บ้าน
โดยชาวบ้านทั้งหมด ได้มาปักหลักอยู่หน้าที่ว่าการอำเภอสตึก มีการเขียนป้ายด้วยข้อความโจมตีการทำงานของผู้ใหญ่บ้าน พร้อมกับมีเครื่องกระจายเสียง ป่าวประกาศตำหนิการทำงานของผู้ใหญ่บ้าน ตั้งแต่ได้รับเลือกตั้งมานานกว่า 12 ปี และยังเหลืออายุราชการอีก 12 ปี
ในหนังสือข้อร้องเรียน ถึงนายอำเภอสตึก ได้ระบุการทำงานที่ผิดพลาด และไม่โปร่งใสของผู้ใหญ่บ้านว่า ผู้ใหญ่เอาที่ทำการของผู้ใหญ่บ้าน เป็นที่รวมศูนย์อำนาจบริหาร อำนาจการตัดสินใจไว้กับคน 3-4 คนในวงศ์สายเครือญาติและคนใกล้ชิด, ไม่มีการประชุมประจำเดือน ในห้วง 4 ปีที่ผ่านมา, ไม่ให้ความสำคัญกับงานวัฒนธรรมประเพณีในชุมชน
รวมถึงไม่มีการรายงานผลหรือชี้แจงในเรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการเงิน-การบัญชี ของกลุ่มองค์กรที่ดูแลรับผิดชอบ เช่น กองทุนหมู่บ้านบ้านโรงเลื่อย, กองทุนแม่ของแผ่นดินและกองทุนออมวันละบาท เพื่อจัดสวัสดิการที่ พมจ.บุรีรัมย์ เคยสมทบให้จำนวนเงิน 68,000 บาท, กองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์บ้านโรงเลื่อย (ศพละ 100) และการดำเนินงานของเกษตรแปลงใหญ่ที่ไม่โปร่งใส
นายยงยุทธ ศรีวรรณา อายุ 73 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน ม.9 แกนนำชาวบ้าน กล่าวว่า การรวมตัวของชาวบ้านในครั้งนี้ ไม่ได้เกิดมาจากความขัดแย้งเกลียดชังส่วนตัว หวังแย่งชิงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน หรือมีคนมาจ้างวานแต่อย่างใด แต่ต้องการพัฒนาชุมชนโรงเลื่อยอย่างต่อเนื่อง และเต็มกำลังศักยภาพของชุมชนบ้านโรงเลื่อย
นายยงยุทธกล่าวด้วยว่า ตั้งแต่ นายสุรชัย ไชยคูบอน ได้รับเลือกให้เป็นผู้ใหญ่บ้านโรงเลื่อยเมื่อกลางปี 2554 หรือประมาณ 12 ปีที่ผ่านมา แต่ยังเหลือเวลาทำงานจนกว่าจะเกษียณอายุ อีกประมาณ 12 ปี ชาวบ้านไม่สามารถอดทนต่อความเจ็บปวดจากการทำงานของผู้ใหญ่คนนี้ต่อไปได้อีก
ส่วนตัวอยากจะให้รัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศ โดยเฉพาะพรรคก้าวไกล ล้างระเบียบกฎข้อบังคับใหม่ ให้วาระของผู้ใหญ่บ้านเหลือเพียง 5 ปี เป็นอย่างมาก เพราะเป็นการชี้วัดการทำงานของผู้นำชุมชน หากทำงานไม่ผ่านหรือไม่ทำตามสัญญาที่ให้กับประชาชนไว้ตั้งแต่ตอนหาเสียง ชาวบ้านจะไม่ต้องเลือกเข้ามาทำงานอีก
ต่อมาได้มีนายเดียว ยอรัมย์ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง อำเภอสตึก มารับหนังสือร้องเรียนแทนนายอำเภอ และได้สัญญากับชาวบ้านจะเร่งทำการสอบสวนตามข้อร้องเรียนของชาวบ้านให้เร็วที่สุด ทั้งนี้จะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
