นายกเล็กมหาสารคาม หนุนกระจายอำนาจ ให้สิทธิประชาชนร่วมบริหาร
นายภาคิน ติระพงษ์ไพบูลย์ นายกเทศมนตรีเมืองมหาสารคาม เปิดเผยว่า นโยบายของพรรคก้าวไกล เรื่องการกระจายอำนาจในท้องถิ่น เท่าที่ดูก็มีความค่อนข้างชัดเจน ทั้งในเรื่องของการเพิ่มบุคลากร การบริการประชาชน งบประมาณที่ได้รับ อย่างเช่น อบ. เพิ่ม 50 ล้าน ส่วนเทศบาลเมืองก็ประมาณ 100 ล้าน อบต. ประมาณ 20 ล้าน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดี การกระจายอำนาจจริงๆ แล้วก็ควรที่จะให้ประชาชนในพื้นที่ได้มีสิทธิที่จะคิด แล้วก็มีสิทธิที่จะมาบริหารเมืองร่วมกับผู้บริหารที่เขาเป็นคนเลือก ก็ถือว่าเป็นความถูกต้อง เป็นการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยที่ทุกคนที่มีส่วนร่วมที่จะคิดแล้วก็จะสร้างไปในทิศทางที่ตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่
เท่าที่ดูก็จะมีอยู่ประมาณ 3-4 เรื่อง เรื่องแรกก็คือเรื่องของอำนาจหน้าที่ที่ชัดเจนอันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญ ณ ปัจจุบันนี้บางอย่างเรามีหน้าที่ แต่อำนาจในการทำไม่สามารถที่จะทำได้ แล้วก็เป็นพื้นที่ที่มีการทับซ้อนกับส่วนราชการหลายๆ อย่าง การทำงานระหว่างของส่วนกลางที่ส่งออกมาในภูมิภาคทำงานร่วมกับท้องถิ่น และปัจจุบันก็ยังมีการทำงานร่วมกันอยู่ ในเรื่องของการใช้บุคคล แต่ก็ยังเป็นเรื่องของงบประมาณที่ค่อนข้างที่จะไม่มีการซัพพอร์ต แต่ในเรื่องด้วยท้องถิ่นเราเองจะมีเรื่องของความเป็นนิติบุคคลอยู่แล้ว แต่ในการทำงานนี้เรามีทั้งหมดบุคลากรมีทั้งเงินทุน ในเรื่องของการทำงานของเราจะค่อนข้างจะสะดวกกว่า แล้วก็ถือว่าถ้าเกิดมีการกระจายอำนาจจริงๆ ในส่วนที่ผ่านมาชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ส่วนที่ 2 เรื่องงบประมาณ ณ ปัจจุบัน ตามข้อกำหนดในอดีตจะได้เงินจัดสรรประมาณ 35% แต่ ณ ปัจจุบัน คำนวณมาแล้วได้ที่ 29% รายได้บางอย่างส่งมาเป็นแค่เงินผ่าน ไม่ใช่รายได้จริงๆ ที่ส่งมาให้เรามาบริหารงาน แต่ทางพรรคก้าวไกล บอกว่าจะส่งงบเข้ามาท้องถิ่นเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 50% จากที่ได้รับทราบข้อมูลมาก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะเงินส่วนนี้ก็จะได้เอามาบริหารจัดการในพื้นที่อย่างแท้จริง คิดว่าจะนำมาซึ่งความเจริญของ อบต. หรือเทศบาลเมืองหรือเทศบาลตำบลก็จะมีความเจริญก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น
ในเรื่องของบุคลากร ถึงแม้ว่าบุคลากรจะมีมาก แต่ด้วยภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ ถือว่ายังไม่เพียงพอ ต้องเพิ่มปริมาณบุคลากร เพื่อบริการสาธารณะให้กับประชาชนให้ได้มากยิ่งขึ้น เพราะว่าเราเป็นด่านหน้าที่อยู่กับประชาชนตลอด และก็ต้องทำงานในทุกๆ มิติที่เราจะต้องดูแล
ท้ายสุดก็เรื่องของการมีส่วนร่วมที่ประชาชนอาจได้มีการเสนอแนวคิดหรือว่ามีวิธีการที่อยากจะพัฒนาเมืองอย่างไร การประชาคมของเมืองเป็นสิ่งที่สำคัญ เทศบาลก็ทำหน้าที่ในส่วนของการประชาคมเมือง แล้วก็มีส่วนร่วมเรื่องของการออกแบบเมือง สร้างเมืองไปด้วยกัน อันนี้ก็เป็นแนวทางหลักอยู่แล้วในเรื่องของอำนาจ ซึ่งส่วนตัวคิดว่าเป็นเรื่องที่ดี ถ้านโยบายของพรรคก้าวไกลสามารถปฏิบัติได้จริง แล้วก็สามารถที่จะขับเคลื่อนได้หาความเจริญของประเทศไทย ก็เริ่มต้นที่ท้องถิ่นก่อนถ้าท้องถิ่นมีความเข้มแข็ง มีเงินทุนในการบริหารจัดการตนเอง หรือว่าอยู่ด้วยตนเองได้ พึ่งตนเองได้ ภาครัฐส่วนกลางก็จะสบาย ไม่ต้องกังวลในเรื่องของความเป็นอยู่เรื่องของด้านสุขภาพ ด้านการศึกษา ก็จะทำให้ทุกอย่าง ยกระดับทั่วประเทศทำให้ประเทศเรามีความเข้มแข็งในทุกๆ ด้าน
ต่อไปก็ให้เป็นนโยบายภาพใหญ่ ก็คือเรื่องของมหาภาค ก็เป็นหน้าที่ของทางรัฐบาลที่จะวางกลไกในเรื่องของการควบคุม ซึ่งก็น่าจะทำงานไปด้วยกันได้ทั้ง 2 ภาคส่วน ก็คือภาคภูมิภาคและส่วนกลาง