วันที่ 20 ธันวาคม 2559 เมื่อเวลา 13.00 น. จากสภาพอากาศในพื้นที่ จ.ลำปาง ในช่วงกลางวันได้ความแตกต่างจากในช่วงกลางคืน เช้ามืด และเช้าตรู่ที่มีสภาพอากาศที่หนาวเย็น โดยในช่วงกลางวันกลับมีสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวจากแสงแดดที่ส่องลงมาอย่างเต็มที่ เนื่องจากไม่มีเมฆบดบัง โดยอุณหภูมิในช่วงบ่ายนี้สถานีอุตุนิยมวิทยาลำปางวัดได้ระหว่าง 30 – 34 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่าเป็นอุณหภูมิที่ร้อนพุ่งสูงขึ้นกว่า 13 – 15 องศาเซลเซียส งจากช่วงเช้าที่หนาวเย็นเฉลี่ย 15 – 18 องศาเซลเซียส อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ในช่วงกลางวันประชาชนชาวลำปางได้พบเห็นหมอกสีขาวจางๆ อยู่ในระยะมองเห็นประมาณ 2 – 3 กิโลเมตร โดยเป็นหมอกที่เกิดขึ้นจากการเผาไหม้ในพื้นที่ ทั้งการเผาเศษใบไม้ ใบหญ้าตามหมู่บ้าน และชุมชน และการเผาพื้นที่การเกษตร ที่ขณะนี้เกิดการเผาขึ้นในหลายพื้นที่ของ จ.ลำปาง จึงทำให้ควันไฟ ซึ่งเป็นฝุ่นละอองขนาดเล็กลอยสะสมอยู่ในพื้นที่ จนเกิดเป็นหมอกสีขาวปกคลุม และสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
จากสภาพอากาศดังกล่าวที่เริ่มมีหมอกสีขาวปกคลุมในช่วงกลางวัน ถือว่าเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงสถานการณ์หมอกควันไฟ ที่กำลังจะเริ่มขึ้นในพื้นที่ จ.ลำปาง แล้ว โดยถือว่าทุกช่วงแล้ง จ.ลำปาง จะประสบปัญหาหมอกควันไฟขึ้นในพื้นที่ โดยทุกปีค่าเฉลี่ยฝุ่นละอองจากหมอกควันไฟในอากาศก็จะเกินค่ามาตรฐาน และถือเป็นสภาพอากาศที่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายของประชาชนที่หายใจในที่โล่งแจ้ง ทำให้ทางจังหวัดเตรียมมาตรการมาใช้ป้องกัน และไขปัญหา ทั้งการขอความร่วมมือ รณรงค์ไม่เผา และมาตรการทางกฎหมายมาบังคับใช้
ล่าสุด นายสุวัฒน์ พรมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้ตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกัน และแก้ไขปัญหาไฟป่า และหมอกควันของ จ.ลำปาง ขึ้นแล้ว เพื่อเป็นศูนย์บูรณาการทุกฝ่ายในการช่วยกันทำงานป้องกันและแก้ไขปัญหา โดยในปีนี้ทางจังหวัดยังได้ประกาศกำหนดการควบคุมห้ามไม่ให้มีการเผาในช่วง 89 วันระวังอันตรายจากการเผาไหม้ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2560 เพราะในห้วงเดือนดังกล่าวของทุกปีจะเป็นช่วงที่ปัญหาหมอกควันไฟเข้าขั้นวิกฤตสุด
