2 ตายาย หอบหลานหนีตาย หลังโดนพายุลมฝนพัดบ้านพังเสียหายทั้งหลัง
วันที่ 5 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จังหวัดบึงกาฬ มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ช่วง 20.00 น. ของวานนี้ได้มีพายุลมแรง และฝนตกหนัก นานกว่า 1 ชั่วโมง สลับกับฟ้าคะนอง จากนั้นเริ่มเบาลง รินโปรยปรายจนถึงรุ่งเช้า และมีบ้านเรือนของประชาชน รวมไปถึงสวนยางพาราของเกษตรกรหักโค่น ได้รับความเสียหาย
โดยเช้าวันนี้ นายทักษ์สินธ์ ศิริพัฒน์ ผญบ.โคกงาม หมู่ 3 ต.โนนสมบูรณ์ อ.เมืองบึงกาฬ ได้รายงานเหตุวาตภัยที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา เบื้องต้นมีบ้านเรือนของชาวบ้านเสียหายจำนวน 3 หลังคาเรือน ได้แก่ 1.บ้านของนายสมคิด ล้านพุฒิ อายุ 78 ปี หลังคาบ้านเสียหายทั้งหลัง รวมไปถึงต้นยางพาราที่อยู่หลังบ้าน หักโค่นล้มกว่า 70 ต้น ค่าความเสียหายประมาณ 70,000 บาท 2.บ้านของนายวินิจ ล้านพุฒิ ที่อยู่ใกล้กัน หลังคาเสียหายครึ่งหลัง หน้าต่าง 2 บาน ผนังบ้านพังบางส่วน ค่าความเสียหายประมาณ 40,000 บาท 3.นางมนเทียร จอมทิพย์ หลังคาบ้านเสียหายบางส่วน ค่าความเสียหายประมาณ 5,000 บาท
นอกจากนี้ยังมีบ้านเรือนและสวนยางพารา รวมไปถึงพืชผลทางการเกษตรอื่นๆ ได้รับความเสียหายอีก ซึ่งอยู่ระหว่างการสำรวจของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้น อบต.โนนสมบูรณ์ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ช่าง จากงานป้องกัน เข้ามาช่วยเหลือตัดต้นไม้ ที่หักโค่นทับบ้านเรือนประชาชนก่อน และจัดซื้ออุปกรณ์ เช่น สังกะสี ให้ชาวบ้านซ่อมแซมบ้านเรือน ให้กลับมาอาศัยได้ตามปกติ
นายสมคิด ล้านพุฒิ อายุ 78 ปี เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ขณะที่ตัวเองนอนอยู่บนบ้านคนเดียว ช่วง 3 ทุ่มมีฝนตกลงมาอย่างหนักพร้อมกับลมกระโชกแรง พัดเอาหลังคาบ้านชั้นบนปลิวหายไปครึ่งหลัง ตนรีบลุกหอบข้าวของลงมาหายายที่นอนอยู่กับหลานด้านล่าง พบว่าหลังคาบ้านชั้นล่างก็ถูกลมพัดปลิวหายไปครึ่งหลังเช่นกัน ตู้เสื้อผ้า สิ่งของเครื่องใช้ ล้มระเนระนาด ต้องพาหลานหลบเข้าที่ปลอดภัย โชคดีที่หลานอายุ 12 และ 15 ปี และยายไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่ข้าวของภายในบ้านเสียหายหลายอย่างเพราะถูกน้ำฝน
ด้านกรมอุตุ คาดหมายอากาศทั่วไป ระหว่างวันที่ 5-11 มิถุนายน พ.ศ.2566 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมประเทศไทยตลอดช่วง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมชายฝั่งประเทศเมียนมาและมีแนวโน้มจะมีกำลังแรงขึ้น และร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยภาคตะวันออกและภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่
สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนบริเวณทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่มไว้ด้วย ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่ง ตลอดช่วง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- มท. 4 ยัน น้ำไม่ท่วมกรุงเทพฯ เท่าปี 54 ยกเว้นมี พายุหรือฝนตกต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง
- ศศิน เตือนพายุสวิงเร็วแรง คาดมาจริง รุ่งเช้า 19 ก.ย. แนะ 7 จังหวัดเตรียมแผนรับมือ
- อุตุฯ เตือนไต้ฝุ่นยางิ ฉ.12 ขึ้นฝั่งเวียดนามพรุ่งนี้ อัพเดตเส้นทางกระทบไทย 7-8 ก.ย.
- พายุถล่ม ‘หาดใหญ่’ ต้นไม้-เสาไฟฟ้าหัก ปักหัวรถกระบะขับผ่าน รอดตายหวุดหวิด