เสียงสะท้อนชาวนา ฝันถึงชีวิตเกษตรกรเมื่อปี 52-54 อยากกลับมาอยู่ดีกินดี เลี้ยงครอบครัวกันได้ แม้ไร้เงินแจก วอนรัฐบาลชุดใหม่ช่วยสานฝันอีกครั้ง
เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน จังหวัดอุทัยธานี นายสำราญ ทศกัณฐ์ อายุ 74 ปี หนึ่งในเกษตรกร ที่ทำนาปลูกข้าว ในพื้นที่หมู่ 1 ตำบลหนองนางนวล อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี เล่าว่า หลายปีมานี้เกษตรกร ที่ทำนา ทำไร่ ทำสวนนั้นประสบปัญหากันเยอะมากๆ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ที่ทั้งร้อนจัดและแล้งยาวนาน ทำให้เกษตรกรไม่สามารถปลูกพืชผลผลิตกันได้อย่างที่แล้วมา หรือปลูกกันได้ก็ได้ผลผลิตไม่ดีเท่าที่ควร ซ้ำราคาพืชผลการเกษตรต่างๆ ยังตกต่ำตามลงมาด้วยซ้ำอีก จึงทำให้หลายปีมานี้ เกษตรกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่เดือดร้อนด้านการดำรงชีพกันอย่างมาก
อย่างตนเองนั้น ทำนาในเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ ปกติจะทำปีละ 2 ครั้ง แต่หลายปีที่ผ่านมานั้น ในพื้นที่แล้งยาวนาน น้ำไม่เพียงพอที่จะทำนากันได้ แหล่งกักเก็บน้ำก็ใช้ช่วยได้แค่ปีเดียว อย่างปีนี้แม้จะเข้าหน้าฝน แต่ว่าฝนนั้นก็ไม่ได้ตกลงมามากพอที่จะทำนากันได้ จึงทำให้ตอนนี้ต้องปล่อยที่นาทิ้งร้างไปจนกว่าจะมีน้ำเพียงพอทำนา เพราะหากฝืนทำไปก็จะขาดทุนซ้ำหนัก
ที่สำคัญราคาปัจจุบัน ก็ยังคงมีราคาที่ถือว่าต่ำลงมาก บางครั้งต้นทุนทำนาจะพอดีกับราคาข้าวที่ขายได้เลย อีกด้วย
สำหรับตนเองนั้น ยุคที่เกษตรกรทุกคนลืมตาอ้าปาก หมดหนี้หมดสินกันได้ก็คงจะเป็นช่วงปี พ.ศ.2552 ถึง ปี พ.ศ.2554 ที่ราคาข้าวนั้นขายได้ในราคาที่ดีมากๆ ถึงเกวียนละกว่า 15,000 บาทขึ้นไป ทำให้เกษตรกรอย่างเราลืมตาอ้าปากกันได้ทุกบ้าน พอเศรษฐกิจรากหญ้าดี เศรษฐกิจทุกอย่างก็จะดีตามมา เป็นปีที่ชาวไร่ ชาวนา มีเงินส่งลูกหลานเรียนกันได้สบาย เป็นปีที่ไม่มีหนี้สิน สามารถเลี้ยงปากท้องครอบครัวกันได้แม้ไม่มีเงินใดๆแจกจ่าย
“หากเป็นไปได้ ก็อยากจะเห็นเกษตรกรกลับมามีโอกาสแบบนี้กันอีกครั้ง อยากให้รัฐบาลชุดใหม่ที่เข้ามาบริหารประเทศชาติ ช่วยรับฟังเสียงเล็กๆ ของพวกเราบ้าง” นายสำราญกล่าว
