สามีน้อยใจ แยกกันอยู่กับภรรยา แบ่งเงินขายข้าวให้หมื่นเดียว ดื่มยาฆ่าแมลง ดับกลางป่า
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 17 มิถุนายน ร.ต.อ.สงวน พ่วงพลอย พนักงานสอบสวน สภ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุของ สภ.วัดโบสถ์ ว่ามีผู้พบศพในป่าเชิงเขาบ้านยาง หมู่ 5 ต.ท่างาม อ.วัดโบสถ์ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.วิสุทธิ์ คล้ายแสง ผกก.สภ.วัดโบสถ์ พ.ต.ท.โกศล สวัสดิเทพ รอง ผกก.สส. พญ.ณัฏฐณิชา รัตนาจารย์ แพทย์เวรโรงพยาบาลวัดโบสถ์ พร้อม พ.ต.ท.หญิง เรณุกา หมอนแพร และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 6 รุดเข้าไปตรวจสถานที่เกิดเหตุ พร้อมชุดสอบสวนสืบสวน เพื่อร่วมชันสูตรพลิกศพและหน่วยกู้ภัยพิษณุโลก
ที่เกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิตนอนอยู่บริเวณซอกหิน บริเวณเชิงเขาบ้านยาง เจ้าหน้าที่จึงได้กันพื้นที่เอาไว้เพื่อตรวจสอบพยานหลักฐานไม่ให้ถูกทำลาย
จากการตรวจสอบรายละเอียดเบื้องต้นพบกระเป๋าคาดเอว มีบัตรประชาชนทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายรำเพย อายุ 55 ปี ชาว ต.ท้อแท้ อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก สภาพศพเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 วัน สวมกางเกงขายาวสีดำ เสื้อลายสก๊อตแขนยาว มีกระเป๋าคาดเอว พบเงินสด 2,055 บาท และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ข้างๆ ศพมีขวดน้ำดื่ม พร้อมข้าวเหนียว 2 ห่อ ถุงพลาสติกใสข้างในใส่ขวดน้ำดื่ม ยาสูบและไฟแช็ก 1 อัน นอกจากนั้นพบยากำจัดศัตรูพืชในนาข้าวอีก 1 ขวด ห่างออกไปประมาณ 750 เมตร พบรถจักรยานยนต์ หมายเลขทะเบียนลำพูน จอดอยู่เชิงเขา
จากการสอบปากคำ นายบุญลือ ซึ่งเป็นผู้พบศพคนแรก ให้การว่า ตนได้ออกมาหาเก็บเห็ดในบริเวณป่าดังกล่าว ขณะกำลังเดินก้มหาเห็ดอยู่นั้นตกใจแทบช็อก พบผู้เสียชีวิตนอนอยู่กลางป่า จึงรีบติดต่อผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 ต.ท่างาม ทราบ เพื่อแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบในจุดเกิดเหตุ
เบื้องต้นสอบสวน นางสัมฤทธิ์ ภรรยาผู้เสียชีวิต ให้การว่า ตนกับสามีเกิดเรื่องมีปากเสียงทะเลาะกัน และได้ตกลงแยกกันอยู่ โดยมีการแบ่งทรัพย์สินเป็นเงินสดที่ขายข้าว ซึ่งตนได้ให้ผู้ตายไปเพียง 10,000 บาท หลังจากนั้นไม่พบพูดคุยกันอีกเลย กระทั่งผู้ใหญ่บ้านมาบอกว่า สามีเสียชีวิตอยู่ในป่าเชิงเขาบ้านยาง จึงได้เดินทางมาดู ยืนยันเป็นสามีจริง ส่วนสาเหตุน่าจะน้อยใจที่แยกกันอยู่ และตนแบ่งเงินให้ไปเพียงหมื่นเดียวเท่านั้น กระทั่งมาก่อเหตุดังกล่าว
ทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สันนิษฐานว่าผู้ตายเกิดความน้อยใจ และมีความกลุ้มใจที่ต้องแยกกับภรรยา และได้เงินส่วนแบ่งจากขายข้าวแค่ 10,000 บาท ซึ่งได้นำไปใช้จ่ายเหลือติดตัวเพียง 2,055 บาท รวมทั้งซื้อยาฆ่าแมลงมาดื่ม โดยขี่รถจักรยานยนต์มาจอดทิ้งไว้ที่เชิงเขา ก่อนจะเดินขึ้นเขาเพื่อฆ่าตัวเอง เพราะตรวจสภาพศพเบื้องต้นไม่พบบาดแผลที่ร่างกาย พนักงานสอบสวนจึงได้ส่งศพผู้ตายไปให้แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลพุทธชินราชผ่าพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตเพื่อจะดำเนินตามขั้นตอนกฎหมาย และมอบศพให้กับญาตินำไปบำเพ็ญกุศลต่อไป
