โจรใจบาปขโมยซาเล้งพระ หลังจากพระขี่มาจอดริมถนนเพื่อไปบิณฑบาต
คลิปกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพขณะ 2 โจรวัยรุ่นเดินมาตามถนนก่อนที่จะเห็นซาเล้งจอดอยู่บริเวณหน้าร้านซ่อมรถยนต์ จากนั้น 1 ใน 2 ผู้ก่อเหตุได้เดินเข้าไปที่รถซาเล้งก่อนจะสตาร์ทรถขี่ออกไปรับเพื่อนอีกคนที่เดินไปก่อนหน้า ส่วนพระ 2 รูปที่ขี่ซาเล้งมาจอดก่อนไปบิณฑบาตกลับมาพบซาเล้งหาย งงเป็นไก่ตาแตก โร่ขอความช่วยเหลือร้านซ่อมรถเปิดกล้องวงจรปิด ก่อนไปแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 22 มิถุนายน 2566 ร้อยเวรสอบสวน สภ.ระเบาะไผ่ได้รับแจ้งว่ามีพระ 2 รูปมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันว่าได้ขี่รถซาเล้งไปจอดบริเวณริมถนน 304 หน้าร้าน Cockpit 304 ศูนย์ล้อ ฝั่งพื้นที่หมู่ 3 ตำบลกรอกสมบูรณ์ อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี จากนั้นได้ออกไปบิณฑบาตก่อนกลับมาปรากฏว่ารถซาเล้งที่จอดอยู่อันตรธานหายไป โดยได้นำคลิปกล้องวงจรปิดมามอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อทำการติดตามผู้ก่อเหตุ
จากการสอบถามนางสาวประพิมพรรณ จันขยัน พนักงานในร้านค็อกพิทกล่าวว่า ปกติพระทั้งสองรูปจะมาจอดรถซาเล้งไว้บริเวณหน้าร้านในช่วงเช้าทุกวันก่อนที่จะเดินข้ามถนน 304 ไปบิณฑบาตฝั่งทางโน้น (ตลาดกองไท) เป็นประจำทุกวัน ปรากฏว่าหลังจากที่ไปบิณฑบาตกลับมารถซาเล้งที่มาจอดบริเวณหน้าร้านได้หายไป จากนั้นพระทั้ง 2 รูปได้มานั่งรอที่หน้าร้านและมาขอดูกล้องวงจรปิดบอกเพียงว่ารถที่จอดอยู่หน้าร้านหายไป หลังจากที่เปิดดูกล้องวงจรปิดพบว่ามีชายวัยรุ่น 2 คนเดินมา ก่อนเข้าไปขี่รถซาเล้งของพระออกไป โดยทางช่างที่ร้านบอกว่าชายสองคนที่ก่อเหตุนั้นน่าจะเป็นคนในพื้นที่เพราะลักษณะใกล้เคียงกับที่ช่างเขาเคยเห็นซึ่งตนก็ไม่แน่ใจเพราะเขาใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า
ด้านพระพิชัย พิลา อายุ 52 ปี เผยว่าเมื่อช่วงเช้าตนได้ออกจากวัดเวลาประมาณ 05.30 น.ได้ขี่รถซาเล้งออกไปกับพระอีกรูปหนึ่ง โดยขี่รถซาเล้งไปจอดบริเวณหน้าร้าน Cockpit ริมถนน 304 ตอนประมาณ 05.40 น. ก่อนที่จะข้ามถนนไปบิณฑบาตฝั่งของบ้านคลองรั้ง แถวตลาดกองไท ก่อนกลับมาช่วงเกือบ 07.00 น. พบว่ารถซาเล้งที่จอดอยู่ได้หายไป ทำให้ตนกับพระอีกรูปพากันตกใจ จากนั้นมีชาวบ้านที่มารอใส่บาตรได้ทำการช่วยเหลือพาขึ้นรถมาส่งที่วัด เพราะโดยปกติตนจะขี่รถซาเล้งไปที่หน้าร้าน Cockpit 304 มาแล้ว 3-4 พรรษาและก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ส่วนรถที่หายไปเป็นรถมอเตอร์ไซค์ยี่ห้อ Honda Wave 100 สีแดงดำ ทะเบียนจำได้แค่หมายเลขคือหมายเลข 29 ซึ่งตนก็ไม่ได้คิดติดใจเอาความ แค่อยากจะให้คนที่ก่อเหตุหรือคนที่เอารถไปนั้น นำรถกลับมาคืน หากคิดได้ก็อยากให้เอามาคืนพระ เดี๋ยวมันจะเป็นตราบาปให้กับคนที่เอาไป เดี๋ยวจะเป็นเวรเป็นกรรมซึ่งมันเป็นรถของส่วนรวมที่ทางญาติโยมเขานำมาถวายพระ
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนของ สภ.ระเบาะไผ่ได้ลงพื้นที่ติดตามเส้นทางของผู้ที่ก่อเหตุโดยพบว่าที่กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพได้อีกจุดหนึ่ง ซึ่งเป็นหอพักทางเข้าหมู่บ้านวังทะลุโดยห่างจากจุดที่ก่อเหตุนั้นประมาณ 300 เมตร และคาดว่าจะสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ในเร็วๆ นี้