ปภ.ประจวบฯ ประกาศภัยแล้ง 7 อำเภอ แจกจ่ายน้ำไปแล้ว 6 ล้านลิตร

ปภ.ประจวบฯ ประกาศภัยแล้ง 7 อำเภอ แจกจ่ายน้ำไปแล้ว 6 ล้านลิตร

วันที่ 8 กรกฎาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ภัยแล้งปีนี้เป็นปัญหาที่ค่อนข้างรุนแรง ปัจจุบันมีน้ำอยู่ 24% หรือ 120 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเขื่อนปราณบุรี เป็นอ่างเก็บน้ำที่ใหญ่ที่สุดขณะนี้มีน้ำเหลือน้อย เพียงแค่ 17.24 % หรือ 67.40 ล้านลูกบาศก์เมตร สำหรับปริมาณฝนที่ตก ในปี 2565 มีฝนตกทั้งปีอยู่ที่ 1,812 มิลลิเมตร แต่ปีนี้ผ่านมาครึ่งปี มีฝนตกเพียง 100 มิลลิเมตรเท่านั้น จึงทำให้สถานการณ์ภัยแล้งเกิดขึ้นทุกอำเภอ บางอำเภอที่มีความรุนแรง ได้ประกาศเขตพื้นที่ประสบภัยแล้งใน 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหัวหิน อำเภอปราณบุรี อำเภอเมือง อำเภอสามร้อยยอด อำเภอทับสะแก อำเภอบางสะพาน และอำเภอบางสะพานน้อย ยกเว้นอำเภอกุยบุรี

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ปภ.จังหวัด ได้ใช้รถบรรทุกน้ำของ ปภ.ส่งไปทั้ง 8 อำเภอ ตั้งแต่อำเภอหัวหินถึงอำเภอบางสะพานน้อย แจกจ่ายน้ำไปแล้วมากกว่า 6 ล้านลิตร และใช้เครื่องสูบส่งระยะไกลของ ศูนย์ ปภ.เขต ทั้ง 3 เครื่อง ทำงานเต็มที่ เขตเทศบาลเมืองหัวหิน เทศบาลตำบลบ้านกรูด และที่ประปาร่อนทองสนับสนุนน้ำประปาให้อำเภอบางสะพาน

Advertisement

นายเดชา เรืองอ่อน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ภัยแล้งของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ล่าสุดได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยแล้งแล้ว 7 อำเภอ จาก 8 อำเภอ ยกเว้น อ.กุยบุรี เพียงอำเภอเดียวเท่านั้น แม้ว่ากุยบุรีจะประสบภัยแล้งเช่นเดียวกัน แต่พบว่า เป็นอำเภอที่มีพื้นที่ชลประทานครอบคลุม รวมทั้งหน่วยงานท้องถิ่นมีการประสานความช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้สถานการณ์ภัยแล้งไม่รุนแรงเท่าอำเภออื่น ส่วนอำเภออื่นที่ประกาศพื้นที่ภัยแล้งนั้น เช่นที่ อ.บางสะพาน และ อ.บางสะพานน้อย เป็น 2 อำเภอที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก มีความรุนแรง เพราะฝนน้อย ทิ้งช่วงมานาน

ทำให้น้ำสำหรับผลิตน้ำประปามีไม่เพียงพอ จึงต้องมีการใช้เครื่องสูบส่งระยะไกลไปช่วยสูบน้ำ ระยะทางประมาณ 3-4 กิโลเมตร เพื่อผลิตน้ำประปา ขณะนี้กำลังพยายามหาแหล่งน้ำสำรองเพราะฝนตกน้อยมาก เช่น อ.บางสะพาน ไปประสานกับบริษัท สหวิริยา จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีแหล่งน้ำ ได้ไปขอผลิตน้ำประปา ส่วน อ.บางสะพานน้อย ไปขอน้ำจากบ่อทรายบริษัทเอกชน มาผลิตน้ำประปา ซึ่งขณะนี้ที่ ต.ช้างแรก น้ำใกล้หมดเต็มทีแล้ว ฯลฯ มีความเสียหายด้านพืช กรณีพืชยืนต้นตาย เสียหายอย่างสิ้นเชิง ตามหลักเกณฑ์ของเกษตร จึงต้องประกาศเป็นพื้นที่ภัยแล้ง เพื่อใช้เงินทดลองราชการไปช่วยเหลือเยียวยาประชาชน เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ

Advertisement

ส่วนเรื่องการทำฝนเทียมนั้น ล่าสุดอธิบดีกรมฝนหลวง ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ซึ่งทาง ปภ.ได้มีหนังสือจากผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไปถึงอธิบดีกรมฝนหลวง เพื่อขอให้ระดมทรัพยากรที่มีช่วยทำฝนเทียมให้กับประชาชน ทั้งนี้ในพื้นที่มีการทำฝนเทียมอยู่แล้วเนื่องจากมีศูนย์ฝนเทียมอยู่ที่ อ.หัวหิน แต่ในพื้นที่โซนใต้ มีฝนน้อยมาก จึงขอให้กรมฝนหลวง ระดมเครื่องมือจากจังหวัดที่มีฝนตกแล้ว มาช่วยทำฝนเทียมในพื้นที่ เพื่อให้พื้นที่มีฝนมากขึ้น ซึ่งขณะนี้มีฝนตกบ้างแล้ว เพียง 5-10 มิลลิเมตร แต่ตกในพื้นที่บ้านเรือนประชาชน พื้นที่การเกษตร ช่วยให้ต้นไม้สดชื่นขึ้นบ้าง แต่ยังไม่ตกลงในอ่างเก็บน้ำหรือเขื่อน ให้ระดับน้ำในพื้นที่ยังมีน้อยมาก อย่างเขื่อนปราณบุรี ขณะนี้มีระดับน้ำอยู่เพียง 17% เศษ เท่านั้น ต้องยอมรับว่าขณะนี้จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อยู่ในสถานการณ์วิกฤตภัยแล้งที่ค่อนข้างหนัก ในรอบหลายๆ ปีที่ผ่านมา

โดยตามระเบียบนั้น พืชผลทางการเกษตรที่ได้รับความเสียหาย ให้อำเภอร่วมกับเกษตรอำเภอในพื้นที่และท้องถิ่น เข้าดำเนินการสำรวจ เกษตรกรที่ได้รับความเสียหายโดยสิ้นเชิง อย่างต้นไม้ยืนต้นตาย เช่นที่ ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน มีพืชผลทางการเกษตรตาย ขณะนี้ได้อนุมัติเงินช่วยเหลือแล้ว 1 ล้าน 3 แสนกว่าบาท อยู่ระหว่างการตั้งวงเงินในระบบของกรมบัญชีกลาง พอเงินออก จะให้ทางอำเภอ ไปดำเนินการจ่ายให้กับประชาชนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

ส่วนอำเภออื่นๆ ได้เริ่มสำรวจและประชุมกันแล้ว มี อ.บางสะพานน้อย ประชุมแล้ว อยู่ระหว่างจัดทำเอกสารมาขออนุมัติจากผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อที่จะโอนเงินทดรองราชการ ไปให้อำเภอเพื่อไปจ่ายให้กับเกษตรกร เป็นการทยอยดำเนินการเนื่องจากพืชผลทางการเกษตร ตายไม่พร้อมกัน อย่าง อ.บางสะพาน ล็อกแรกจ่ายแล้ว แสนกว่าบาท ล็อกที่สองอีก 2แสนกว่าบาท แต่พบว่าฝนยังตกน้อย มีตายเพิ่ม ก็มีการสำรวจเพิ่มเติม เป็นรอบที่สาม ขณะนี้อยู่ในส่วนของกรมบัญชีกลางที่จะอนุมัติโอนเงินไปให้อำเภอเพื่อจ่าย

สำหรับการสำรวจความเสียหายทางจังหวัดได้ขอขยายระยะเวลามาอีก 45 วัน เนื่องจากภัยแล้งยังไม่หมด โดยจะต้องสำรวจให้เสร็จก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ ซึ่งในส่วนของอำเภอที่ดำเนินการแล้ว ทางจังหวัดจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด ที่เซ็นอนุมัติแล้วคาดว่าประมาณสับดาห์หน้าเงินน่าจะออก และส่งมอบให้ทางอำเภอไปจ่ายบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตกรได้ ส่วนอำเภออื่นๆ ก็จะเร่งรัดดำเนินการให้เร็วที่สุดเช่นเดียวกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image