คนขับรถบัสเผยวินาทีเกิดเหตุ ยกมือไหว้ขอโทษผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ไม่ได้ต้องการให้เกิดอุบัติเหตุแต่อย่างใด ขณะที่พนักงานสอบสวนเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน แต่ยังไม่สามารถสอบปากคำผู้บาดเจ็บได้ เนื่องจากยังหวาดผวา
จากกรณีอุบัติเหตุรถบัสรับส่งนักวิ่งเสียหลักแหกโค้งตกเขาทางลงจากจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ หลังจากเข้าร่วมการแข่งขันวิ่งตามเส้นทางภูมิประเทศ SURANAREE TRAIL RUNNING 2023 จัดโดยกองกำลังสุรนารี มีผู้บาดเจ็บ 52 ราย (กระจายรักษาตามโรงพยาบาลต่างๆ) เสียชีวิต 4 ราย (เสียชีวิตจุดเกิดเหตุ 3 ราย ส่งต่อเสียชีวิต 1 ราย) ขณะที่กองกำลังสุรนารีมอบเงินช่วยเหลือค่าทำศพผู้เสียชีวิตเบื้องต้น 4 ราย รายละ 50,000 บาทแล้ว
ด้าน จ.อ.สมควร สิงห์คำ นายอำเภอภูสิงห์ พร้อมด้วยพระครูโกศลสิกขกิจ ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนา เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา และ พ.อ.พยัคฆพล คุ้มแสง รอง ผบ.หน่วยเฉพาะกิจที่ 3 กองกำลังสุรนารีและคณะ นำกระเช้าเครื่องดื่มบำรุงกำลัง เหรียญหลวงปู่สรวง และเงินจำนวนหนึ่งมอบให้ 3 นักวิ่งที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 10 กรกฎาคม ที่โรงพยาบาล (รพ.) ศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ พระครูโกศลสิกขกิจ พร้อมด้วย นายสมยศ พันธ์มา รอง ผอ.วิทยาลัยเทคโนโลยีหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนา และคณะอาจารย์ เดินทางมาเยี่ยมผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถบัสตกเขาที่ถูกส่งตัวมารักษา 11 ราย
พระครูโกศลสิกขกิจนำกระเช้าเครื่องดื่มบำรุงร่างกาย เหรียญหลวงปู่สรวง และเงินสดจำนวนหนึ่งมอบให้ผู้บาดเจ็บ พร้อมเข้าไปเยี่ยม นายธนโชติ คนขับรถบัสคันเกิดเหตุ ซึ่งได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าอกและแพทย์กำลังตรวจว่ากระดูกสันหลังท่อนที่ 5 หักหรือไม่ โดยมี ร.ต.ท.หญิง กัลยาณี วรรณภาสนี ผช.ผอ.รพ.ศรีสะเกษ ด้านกิจกรรมพิเศษ นำคณะแพทย์และพยาบาลมาให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเยี่ยมผู้ป่วยทุกคน
นายธนโชติเล่าถึงวินาทีเกิดเหตุว่า ทำหน้าที่ขับรถบัสรับส่งนักวิ่งและได้จอดรถรอรับนักวิ่งบริเวณเส้นชัยอยู่ที่จุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ เพื่อจะไปส่งนักวิ่งที่ตลาดหน้าวัดไพรพัฒนา ปรากฏว่านักวิ่งพากันขึ้นรถบัสคันที่ตนขับมาจำนวนมากจนแน่นเต็มรถ และได้พากันยืนเบียดในรถบัส แต่ทุกคนสมัครใจกันมาขึ้นรถคันที่ตนขับ บรรยากาศคึกคักสนุกสนาน
นายธนโชติกล่าวว่า ขับรถออกมาอย่างช้าๆ เพราะมีผู้โดยสารจำนวนมาก อีกทั้งรถหนักมาก ก่อนจะมาถึงบริเวณเกิดเหตุเป็นทางลาดชัน ได้ใช้เกียร์ 2 ขับรถมาเรื่อยๆ เมื่อถึงช่วงลงเนินเขาได้เหยียบเบรกเพื่อชะลอความเร็วให้ช้าลงอีก แต่ปรากฏว่าเบรกแข็งมากเหยียบไม่ลง จึงจับพวงมาลัยเอาไว้และยืนขึ้นเพื่อพยายามเหยียบเบรก แต่ว่าเบรกไม่ทำงาน จึงได้ร้องบอกว่า “เบรกไม่อยู่แล้ว”
คนขับเล่าว่า รถบัสไหลลงไปเรื่อยๆ ตามทางลาดชัน ทำให้ความเร็วรถเพิ่มขึ้น ตนพยายามประคองรถไว้แต่ไม่สามารถเบรกความเร็วลงได้ รถบัสจึงเสียหลักไปพุ่งชนแท่งปูนกั้นขอบทางด้านขวามือ จากนั้นพุ่งไปตกลงเขา คิดว่าตอนนั้นคงจะไม่รอดชีวิตแล้วและได้หน้ามืดสลบไป มารู้สึกอีกทีตอนรถตกอยู่บนพื้นใต้หน้าผาแล้ว และมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำตนส่งไปยัง รพ.ภูสิงห์ และส่งต่อมายัง รพ.ศรีสะเกษ
คนขับเล่าอีกว่า เสียใจมาก ไม่ได้ต้องการให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นมาแต่อย่างใด กราบขอโทษผู้ได้รับบาดเจ็บทุกคน และกราบขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตทุกคนด้วย
ขณะที่ ร.ต.ท.หญิงกัลยาณีกล่าวว่า ในจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสมี นางเพ็ญศรี ตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพชำนาญการ ทำหน้าที่หัวหน้าตึกอุบัติเหตุฉุกเฉิน รพ.ขุนหาญ และเป็นผู้รับผิดชอบโครงการรถเมล์สายสุขภาพ รพ.ขุนหาญ รับส่งผู้ป่วยจาก รพ.ขุนหาญ มาสู่ รพ.ศรีสะเกษ ทุกวัน ได้ร่วมวิ่งครั้งนี้ด้วย ปรากฏว่า นางเพ็ญศรีได้รับบาดเจ็บกระดูกแขนข้างซ้ายโดนของแข็งทับจนแขนข้างซ้ายจากบริเวณข้อศอกมาถึงข้อมือกระดูกแตกละเอียด แต่ว่านางเพ็ญศรียังมีสติดี และได้ร้องบอกให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยไปช่วยผู้ที่ได้รับบาดเจ็บคนอื่นที่มีอาการสาหัสมากกว่าตนเอง เมื่อให้ช่วยเหลือคนอื่นไปแล้ว เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงมารับตัวนางเพ็ญศรีส่งไป รพ.ภูสิงห์ และส่งต่อมายัง รพ.ศรีสะเกษ
ร.ต.ท.หญิงกัลยาณีกล่าวว่า แพทย์ตรวจอาการบาดเจ็บนางเพ็ญศรีแล้วพบว่ากระดูกข้อมือข้างซ้ายแหลกละเอียด จึงตัดแขนข้างซ้ายออก ทำคนที่ทราบข่าวนี้ต่างพากันชื่นชมที่แม้ว่านางเพ็ญศรีจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ยังมีสติและมีความเป็นพยาบาลทุกลมหายใจเข้าออก ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยคนอื่นก่อนจะมาช่วยตนเอง
ด้าน พ.ต.ท.สมภพ ประกอบผล สารวัตรสอบสวน สภ.ภูสิงห์ เจ้าของคดี กล่าวว่า นำคณะเจ้าหน้าที่จากสำนักงานขนส่งจังหวัดศรีสะเกษไปตรวจสภาพรถบัสคันเกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ จากนั้นได้ไปตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุรถบัสตกเขาเพื่อหาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุอีก
พ.ต.ท.สมภพกล่าวว่า ส่วนการดำเนินคดีนี้ขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและกำลังเร่งสอบปากคำพยานในเหตุการณ์ แต่ผู้บาดเจ็บทั้งหมดยังมีอาการหวาดผวา ยังไม่สามารถให้ปากคำได้ ซึ่งจะต้องรอให้เวลาผ่านไปสักระยะหนึ่งเพื่อให้จิตใจของผู้บาดเจ็บเข้าสู่ภาวะปกติ จึงได้เชิญมาให้ปากคำเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ช็อก! รถบัสขนส่งนักวิ่งตกเขาทางลงช่องสะงำ ตาย 4 เจ็บสาหัสกว่า 30 ราย
- เผยชื่อผู้เสียชีวิต เหตุรถรับส่งนักวิ่งตกเขา สาเหตุคาดเกิดจากระบบเบรกขัดข้อง
- กู้ซากขึ้นแล้ว ตร.แจ้งข้อหาหนักคนขับรถบัสตกเขาดับ 4 เจ็บ 49 ราย
- คนใกล้ชิดอาลัย ‘สิบเอก’ รถบัสตกเขา เผยคนขยัน ตั้งใจ แต่ฟ้ากลับรีบพรากจากครอบครัว
- ผู้รอดชีวิตเผย นักวิ่งแน่นรถบัส คนขับคุมรถไม่ได้ก่อนตกเหว นอภ.ระดมแนวทางเยียวยา
