ผู้การสระบุรี พร้อมทนาย ผกก. ตั้งโต๊ะแจงหลังสาวอ้างเป็นเมียน้อยร้องถูกผัว ผกก.ทิ้ง

จากกรณีที่มีหญิงวัย 36 ปี อ้างเป็นเมียน้อย ผกก.สภ.แห่งหนึ่ง สังกัด บก.ภ.จว.สระบุรี ตำรวจภูธรภาค 1 จากนั้นบุก สนง.ตร.แฉแอบเปย์สาวเอ็นไม่ยอมส่งเสียลูกจึงร้องพฤติกรรมนายตำรวจดังกล่าว หลังที่ผ่านมาคบหากันจนมีลูกด้วยกันสมัยยังคงตำแหน่งรอง ผกก. แรกๆ ส่งเงินค่าเลี้ยงดูอย่างดีเดือนละ 3-5 หมื่นบาท หลังจากนั้นเลื่อนยศขี้นเป็น ผกก.ให้เดือนละ 1 แสนบาท ก่อนที่จะมาถูกตีจากห่างเหินไป เพราะ ผกก.ไปเปย์เด็กเอ็น เคยไปร้องเรียนผู้บังคับบัญชาแล้วแต่เรื่องเงียบ แถมยังถูกห้ามไปร้องสื่อจนรู้สึกตัวไม่ปลอดภัย เมื่อวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อที่จะขอให้มีการเปลี่ยนคณะกรรมการสอบวินัย ผกก.ดังกล่าว แถมเจ้าตัวยังได้ถูกภรรยาหลวงของ ผกก.นายนี้ฟ้องร้องดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาทและเป็นชู้โดยเรียกเงินค่าเสียหายกว่า 1 ล้านบาท

ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 ก.ค. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี ด้าน พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สระบุรี พร้อมด้วยนายวิชิต วงษ์สุวรรณ ทนายความของ ผกก.ดังกล่าว ร่วมแถลงข่าว โดย ผบก.ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา เผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทางน้องเขาได้มาร้องเรียน เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว ตนในฐานะผู้บังคับบัญชา ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาคุยกันในห้องนี้ ซึ่งครั้งแรกมาพร้อมกัน แต่ทางภรรยาหลวงไม่ได้เข้ามา ได้ซักถามข้อมูลข้อเท็จจริง ก็ปรากฏว่าทาง ผกก.มีภรรยาที่จดทะเบียนสมรสอยู่แล้ว หรือเรียกว่าภรรยาหลวง ส่วนอีกคนไม่ได้จดทะเบียน อยู่กินกันมา 6 ปี และมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน อายุ 2 ขวบ ตอนหลังได้มีปัญหากับทางน้องบ้านที่ 2 พอเรื่องรู้ถึงบ้านที่ 1 ทีนี้ก็เลยทะเลาะกัน หลังจากนั้นปรากฏว่าไม่มีการส่งเสียเลี้ยงดู เพราะมีปัญหากัน ก็ทำให้ตัวท่าน ผกก.ต้องเลือกทางบ้านใดบ้านหนึ่ง และพอมาคุยกันก็ตกลงกันไม่ได้ ซึ่งมันมีอยู่ 2 ประเด็น ประเด็นที่ 1 คือเรื่องตัวเด็ก อายุ 2 ขวบ ได้มีประเด็นว่า ตัว ผกก.เป็นพ่อจริงหรือเปล่า ในฐานะผู้บังคับบัญชาได้ตัดปัญหาโดยการพิสูจน์ ให้ส่งตัวเด็กและตัว ผกก.ไปตรวจดีเอ็นเอ ผลปรากฏว่าตรงกัน ซึ่งตัว ผกก.เขาก็ไม่มีปัญหา ก็รับเป็นพ่อ พร้อมที่จะจดทะเบียนรับรองบุตร ส่วนประเด็นที่ 2 คือ ตัวน้องที่ไปร้องเรียนกับสื่อ เขาเรียกค่าเลี้ยงดู 2 ล้านบาท และให้ส่งรายเดือน เดือนละ 2 แสนบาท ซึ่งตรงนี้ไม่สามารถคุยกันได้ จริงๆ ตัว ผกก.ก็ไม่ได้มีฐานะอะไรมากมาย และเท่าที่คุยกันเขาก็วางแผนที่จะกู้สหกรณ์ กู้สถาบันการเงิน ถ้าเรื่องจบได้ แต่ทีนี้พอเรื่องไม่จบ เขาก็จะเอาเรื่องขึ้นสู่ศาลไปฟ้องในส่วนของทางแพ่งไป ให้ศาลเป็นผู้พิจารณา มันจะได้มีตัวเลขที่แน่นอนตามกำลังที่เขารับได้ ก็มี 2 ประเด็นนี้ และเมื่อคุยกันไม่รู้เรื่อง ตนในฐานะผู้บังคับบัญชา ก็พยายามเจรจาให้ แต่น้องเขาก็ยืนยันที่จะร้องเรียน

ในส่วนของขั้นตอนการปกครอง ทางวินัย ได้มีการตั้งกรรมการสอบสวนไปแล้ว ถ้าผลออกมายังไง จะผิดวินัยร้ายแรงหรือไม่ร้ายแรง เดี๋ยวต้องมาดูอีกทีหนึ่ง ในส่วนความเห็นของคณะกรรมการสอบสวน แต่ถ้าจะผิดวินัยก็น่าจะประพฤติตัวไม่สมควร และถ้ามีการข่มขู่ทำร้ายร่างกาย ก็อาจจะลามไปถึงวินัยร้ายแรง จะมีโทษถึงปลดออก ไล่ออก ตอนนี้อยู่ในระหว่างการสอบสวน ซึ่งเดี๋ยวตัวน้องเขาก็ต้องมาให้การในฐานะผู้ร้อง ขอให้น้องเขารอดูก่อนว่าได้รับความเป็นธรรมไหม ถ้าไม่ได้รับความเป็นธรรม น้องเขาก็ร้องอีกได้ ส่วนเรื่องเงินที่ส่งเสียเลี้ยงดูยอดสูง ตนเองนั้นไม่ทราบ อันนั้นเป็นข้อเท็จจริงที่น้องเขาจะว่าไป และในส่วนของการดำเนินการ ทางเราดำเนินการอยู่แล้ว ในเมื่อน้องเขาประสงค์ที่จะร้องเรียนขอความเป็นธรรม ซึ่งตนก็พยายามไกล่เกลี่ยไม่อยากให้เป็นถึงขนาดนั้น ถ้ามันบานปลายไปถึงสื่อมวลชน จนพี่น้องประชาชนได้รับรู้กันทั่วแบบนี้ การตัดสินใจด้วยอารณ์มันไม่ได้จบแค่ตัวเขา 2 คน ต้องนึกถึงคนที่อยู่ข้างหลังด้วย และอนาคตของลูกคุณด้วย ทางบ้านที่ 2 กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรมและทุกคนมีสิทธิกลัว ซึ่งเขาก็ทำแล้ว ได้ไปร้องกับสื่อแล้วเพราะกลัวไม่เป็นธรรม ตั้งแต่ตนเองมาทำงานเป็นหัวหน้าหน่วยที่นี่ ตลอดระยะเวลาตั้งแต่เดือนตุลาคม จนถึงวันนี้ ประมาณ 8-9 เดือน ที่ผ่านมาตัวท่าน ผกก.เป็นคนที่มีวินัย ไม่มีอะไรด่างพร้อยเรื่องฝีมือการทำงานก็เป็นที่ประจักษ์ และเรื่องปราบปรามยาเสพติดเขาก็สามารถจับกุมได้เยอะแยะมากมายเลย รวมๆ แล้วตั้งแต่เดือนตุลาคมจนถึงขณะนี้ เราจับยาเสพติดล็อตใหญ่ๆ ไปรวมแล้วยาบ้า 39 ล้านเม็ด ไอซ์ก็อีก 900 กิโล สารตั้งต้นก็อีกตันกว่า ซึ่งเป็นผลงานของทีมงาน ผกก.เลย เรื่องงานดีมาก ซึ่งชื่นชมในเรื่องปฏิบัติงาน แต่คนเรามันก็มีหลายมุม และมันก็เป็นเรื่องส่วนตัว ในกรอบของเรื่องการประพฤติเนี่ย เรามีการควบคุมกำกับกันอยู่แล้ว

ในส่วนของการที่ผมถูกพาดพิง ตอนนี้ผมให้ทนายส่วนตัวรวบรวมข้อมูลอยู่ อะไรที่มันเกี่ยวข้อง ข้อมูลที่มันพาดพิงถึงบุคคลภายนอกหรือโดยเฉพาะพาดพิงถึงตัวเรา ตอนนี้ได้ให้ทนายรวบรวมพยานหลักฐานอยู่ และก็คงพิจารณาดำเนินคดีต่อไป เพราะดูแล้วมันทำให้เสื่อมเสียภาพลักษณ์ของหน่วย ซึ่งตรงนี้ให้ความสำคัญมาก และมันกระทบถึงครอบครัวด้วย คงต้องดำเนินคดีเพราะคงยอมไม่ได้ ส่วนทางคุณนาย เขาอยู่กับเรา เขารู้อยู่แล้วว่าเราเป็นคนยังไง เพราะเขาเป็นประธานแม่บ้านจังหวัด ซึ่งตรงนี้ไม่ใช่ปัญหา ปัญหาคือ เอาไปพูดหรือโพสต์ไม่รู้เรื่องรู้ราว อันนี้ล่ะมีปัญหาแน่นอน

Advertisement

ด้านนายวิชิต วงษ์สุวรรณ ทนายความ ออกมาชี้แจงกรณีการส่งเสียบุตรของ ผกก.ดังกล่าว ว่า วันนี้จะมาชี้แจ้งประเด็นของ ผกก.ที่มีข่าวทางทีวี จะมาชี้แจงประเด็นเรื่องของบุตร ซึ่งทาง ผกก.ก็ยินดีที่จะเซ็นรับรองบุตรให้ แต่ว่าเงื่อนไขของการรับรองบุตรทางแม่ของเด็กต้องยื่นคำร้องต่อศาล ซึ่งทางเราก็จะรับรองบุตรให้ ซึ่งค่าเลี้ยงดูปัจจุบันมีการส่งเสียเลี้ยงดูมาตลอดตั้งแต่คลอดบุตรมา เดือนละ 3,000 บาท มีการร้องเรียนและมีการดำเนินคดีจริงที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสระบุรี ก่อนที่ทางน้องเขาจะไปร้องเรียนกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งอยู่ในระหว่างไกล่เกี่ยทางคดีอยู่ และเกี่ยวกับเรื่องการเงินเกี่ยวกับการเลี้ยงบุตรที่ว่า ในช่วงนั้นท่าน ผกก.ได้มีการกู้สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจ เป็นจำนวนเงิน 3 ล้านบาท ซึ่งทางภรรยาก็ไม่ทราบว่ามีการกู้ยืมเงิน พอตอนหลังจึงได้ทราบ ส่วนจำนวนเงินได้มีการให้น้องเขาเป็นค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร เกือบๆ 2 ล้านบาท ทาง ผกก.ได้ส่งเสียตลอดเพราะมีพยานหลักฐาน เพราะเขาก็ยอมรับในศาลเยาวชนเมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา ทางสำนักงานก็ให้ทนายเป็นเจ้าของสำนวนคดีนี้ เพื่อช่วยเหลือแรงกดดันระหว่างเรื่องคดี เราจึงได้ใช้ทนายที่เป็นผู้หญิงในการดำเนินงาน ตอนนี้รอทางศาลพิจารณาคดี ซึ่งคดีอยู่ทางชั้นไกล่เกลี่ยทั้ง 2 คดี ถ้าเกิดมีการละเมิดสิทธิก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง มีการคุกคามของทางครอบครัวฝ่ายภรรยา คุกคามค่อนข้างเยอะมันก็เลยมีปัญหาขึ้นมา ในส่วนของการแจ้งความ ก็คงไม่มีคดีเพิ่มเติม แต่ในส่วนที่มีคดีอยู่แล้วก็ยังดำเนินการต่อไปตามขบวนการของศาล ในส่วนของการเลี้ยงดูบุตรคงไกล่เกลี่ยกันได้เพราะมันเป็นคดีครอบครัว แต่ในส่วนของศาลแขวงเป็นคดีแค่หมิ่นประมาท ส่วนข้อเรียกร้องมันค่อนข้างสูง เพราะเท่าที่ประเมินมา ข้อเรียกร้องมันเกินสัดส่วน ถ้าถามว่าเปิดเผยได้ไหม ก็คือเกินสัดส่วนจำนวนมาก สูงมาก ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ มันเป็นทางรูปคดีเดียวกัน เพราะมันเกินสัดส่วนของการอุปการะเลี้ยงดูเด็กคนนึง

ส่วนตอนที่คลอดบุตรออกมาไม่มีการแจ้งชื่อบิดาในนั้นเลย ในสูติบัตร จึงทำให้เกิดการสงสัยกัน ส่วนการเรียกค่าเลี้ยงดูเป็นรูปคดีเฉยๆ เราไม่ได้เรียกร้องไปขนาดนั้น เพราะวันที่ไกล่เกลี่ยก็ไม่เคยพูดถึงเรื่องเงิน 1 ล้านบาท จะคุยเรื่องค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรเป็นหลัก เพราะว่าเราขอเรื่องคุ้มครองสิทธิ แต่เรื่องตรงนี้เป็นเงื่อนไขเพื่อไม่ให้มีการคุกคามกันเฉยๆ ทางครอบครัวของฝ่ายภรรยา ซึ่งทางบ้านหลังที่ 2 ได้มีการคุกคามในเรื่องความไม่สงบสุข แต่ไม่เคยมีเรื่องการทำร้ายร่างกายกันแต่อย่างใด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image