พ่อแม่ร้องผู้การอุดร ลูกชายวัย 17 ถูกอริฟันมือ แต่คดีไม่คืบ-เพื่อนเผยชนวนเหตุเกิดจาก ‘นัดวอ’
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 26 กรกฎาคม ที่ สนง.ผบก.ภ.จว.อุดรธานี นายไกรวุฒิ ชาดวง อายุ 38 ปี และนางลินดา พันธวิทย์ อายุ 38 ปี ชาวตำบลหมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี พานายหนึ่ง นามสมมุติ อายุ 17 ปี ลูกชาย เข้าร้องเรียนต่อ พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.จามร อันดี ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.ศิริมงคล บุญหนุน รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้า สภ.โนนสูง ว่านายหนึ่ง อายุ 17 ปี ลูกชายโดนคู่อริฟันข้อมือซ้ายขาดทำให้พิการ เหตุเกิดเวลา 01.42 วันที่ 2 กรกฎาคม 2566 ที่หน้ารีสอร์ตแห่งหนึ่ง ในเขต ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี โดย พ.ต.ต.เปรม เตรียมตัว สว. (สอบสวน) สภ.โนนสูง อ.เมืองอุดรธานี เป็นพนักงานสอบสวน แต่คดีไม่คืบ
พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี ชี้แจงให้ผู้ปกครองรับทราบว่า คดีนี้มีประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุมากพอสมควร และมีกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน อีกทั้งมีใบรับรองแพทย์ระบุว่าผู้บาดเจ็บได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนการแจ้งข้อกล่าวหา ต้องดูที่พฤติการณ์เป็นตัวบ่งบอกว่ามีเจตนาอะไร จะฟันซ้ำหรือไม่ พยายามฆ่าหรือไม่ จะต้องดูที่หลักฐานว่าจะแจ้งข้อหาใด ซึ่งจะแจ้งข้อหาตามพฤติกรรม เช่น ทำร้ายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และต่อสู้ชุลมุนจนได้รับบาดเจ็บสาหัส หากรู้ว่าใครฟันและสามารถระบุได้ อาจจะแจ้งข้อหาพยายามฆ่า แต่ต้องดูพฤติกรรมก่อน ซึ่งอยากบอกพ่อแม่ผู้บาดเจ็บว่า จะนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีให้ได้
หลังจากนั้น ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ได้ให้ผู้บาดเจ็บไปให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี โดย ผกก.เมืองอุดรธานี พร้อมด้วยชุดสืบสวน และพนักงานสอบสวน ได้ร่วมสอบปากคำอีกครั้ง มีการเรียกเพื่อนในกลุ่มของนายหนึ่งผู้บาดเจ็บ เข้ามาให้ข้อมูล เบื้องต้น ผกก.เมืองอุดรธานี ชี้แจงว่าไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด ทุกขั้นตอนยังอยู่ในระหว่างดำเนินการ ซึ่งทุกอย่างอยู่ในสำนวนหมดแล้ว มีประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุ และต้องตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียงอีกครั้ง ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามสาเหตุในการทะเลาะวิวาทกับกลุ่มเพื่อนของนายหนึ่งผู้บาดเจ็บ แต่ก็ยังไม่ได้ข้อมูลมากนัก ทุกคนต่างก็บอกว่าไม่ทราบว่าเกิดจากเรื่องใด รู้เพียงว่าเพื่อนในกลุ่มชื่อนายมอร์แกน ทะเลาะกับนายอาร์เธอร์ กลุ่มวัยรุ่นบ้านโนนสูง
นายหนึ่ง ผู้บาดเจ็บ แขนซ้ายขาด เล่าว่า คืนเกิดเหตุเพื่อนได้ชักชวนตนไปเคลียร์ปัญหากับกลุ่มคู่อริ ที่ถนนตัดใหม่ทางเข้าหนองทา โดยพวกตนขี่รถจักรยานยนต์ไป 30 คน เมื่อไปถึงที่นัดหมายก็พบกลุ่มคู่อริรออยู่ประมาณ 30 คน แต่ยังไม่ได้พูดคุยไกล่เกลี่ย กลุ่มคู่อริได้ขี่รถจักรยานยนต์มีอาวุธครบมือไล่ฟันกลุ่มตน ซึ่งพวกตนได้ขี่รถหลบหนีไปที่หน้ารีสอร์ตแห่งหนึ่งใน ต.โนนสูง ได้ถูกกลุ่มอริเอามีดฟัน ซึ่งตนได้ยกแขนขึ้นมาป้องกันศีรษะ ทำให้ถูกฟันข้อมือซ้ายขาด และยังหยิบเอามือที่ขาดไปด้วย นอกจากนี้ กลุ่มพวกตนยังถูกกลุ่มอริขับรถปิกอัพพุ่งชนได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 2 คน แล้วหลบหนีไป ซึ่งตนเพิ่งไปกับเพื่อนเป็นครั้งแรก ก็โดนฟันจนมือขาด เพื่อนได้นำตนส่งโรงพยาบาล และแจ้งตำรวจ ซึ่งตนไม่รู้ว่าเพื่อนไปทะเลาะกันเรื่องอะไร พอไปก็ถูกทำร้ายแล้ว
นายไกรวุฒิ พ่อนายหนึ่งผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า ที่พาลูกชายมาพบผู้การวันนี้ ก็เพราะว่าคดีไม่มีความคืบหน้า ลูกชายโดนฟันมือขาดตั้งแต่กลางดึกวันที่ 2 กรกฎาคม และแจ้งความตอนเช้าวันเดียวกัน และไปที่รีสอร์ตจุดเกิดเหตุ เพื่อไปขอดูกล้องวงจรปิด แต่เจ้าของรีสอร์ตแจ้งว่าให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีมาดูและขอภาพกล้องวงจรปิดเอง ให้ไม่ได้เพราะจะเสียรูปคดี และมีผลเสียกับรีสอร์ต ถึงวันที่ 26 กรกฎาคม พนักงานสอบสวนยังไม่เรียกผู้บาดเจ็บไปสอบปากคำ และยังไม่จับกุมคนที่ก่อเหตุฟันมือลูกชายขาด เพื่อนที่รู้จักเห็นว่าคดีล่าช้า ไม่คืบ จึงไปร้องเรียนสื่อมวลชน และนัดหมายเข้ามาพบกับผู้การ
“ลูกชายเรียนจบ ม.3 แล้วไม่เรียนต่อ ไปทำงานที่ร้านเนื้อย่างเกาหลี และรับจ้างทั่วไป ลูกชายไม่ดื่มเหล้า แต่สูบบุหรี่ ตนบอกสอนลูกประจำ หลังเกิดเหตุหมอได้โทรมาแจ้งว่าลูกถูกฟันมือขาด ตนได้ไปหามือของลูกชายที่ถูกฟันขาด แต่ไม่พบ คนก่อเหตุไม่ต้องการให้ต่อมือ รู้สึกว่าใจร้ายมาก รักษาตัวในโรงพยาบาล 4 วัน จากนั้นก็ออกมารักษาตัวอยู่ที่บ้าน ตำรวจไม่เคยโทรเรียกให้ไปพบ และตนก็ไม่เคยไปพบตำรวจ ซึ่งตนเห็นว่าคดีล่าช้า”
ส่วนนายมอร์แกน อายุ 19 ปี เพื่อนที่ชักชวนนายหนึ่งผู้บาดเจ็บไปเคลียร์กับกลุ่มอริ เล่าว่า กลุ่มตนมีเรื่องทะเลาะกันในเฟซบุ๊กกับกลุ่มคู่อริชื่อ “อาร์เธอร์ บ้านโนนสูง” จนมีการท้าทายกันและนัดหมายเคลียร์กันที่ถนนตัดใหม่ริมหนองทา บ้านคำกลิ้ง ต.บ้านจั่น ในวันที่ 1 กรกฎาคม ตนจึงชวนนายหนึ่งไปด้วยรวมประมาณ 30 คน ส่วนกลุ่มคู่อริก็ประมาณ 30 คน เมื่อไปถึงไม่ได้คุยเคลียร์กัน ต่างกรูเข้าหากันแบบตะลุมบอนกัน จนถึงวันนี้ยังไม่รู้ว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปสอบถาม นายเอฟ นามสมมุติ อายุ 17 ปี หนึ่งในผู้บาดเจ็บ ก่อนเล่าว่า ตนเป็นวัยรุ่นในพื้นที่ รู้จักกับนายมอร์แกน เป็นเพื่อนในกลุ่มด้วยกัน พวกตนมักจะรวมกลุ่มกันอยู่ริมหนองทา หรือถนนตัดใหม่ ถนนมิตรภาพไปวัดป่าบ้านตาด (ทางหลวงชนบท อด.1076) ส่วนกลุ่มนายอาร์เธอร์ เป็นกลุ่มวัยรุ่นบ้านโนนสูง มักจับกลุ่มกันที่ฝายโนนสูง หรือหนองน้ำหน้า ทม.โนนสูง-น้ำคำ ก่อนหน้านี้นายมอร์แกนกับนายอาร์เธอร์ นัดชกต่อยกัน ภาษาวัยรุ่นเรียกว่า “นัดวอ” วันเกิดเหตุนัดวอกันที่หนองทา ถึงเวลานัดกลุ่มของนายอาร์เธอร์ก็ยังไม่มา ฝั่งนายมอร์แกนจึงชักชวนกลุ่มเพื่อนไปที่ฝายโนนสูง
“ตอนนั้นตนจึงตัดสินใจไปกับกลุ่มเพื่อน ต่างฝ่ายต่างมากันประมาณ 30 คน จนมาตะลุมบอนกันอยู่หน้าวัดสุวรรณุทการาม บ้านโนนสูง ก่อนแตกกระเจิงหนีตายกันออกมา ตนและกลุ่มเพื่อนนัดหมายกลับมาตั้งหลักกันที่หนองทา คาดว่ากลุ่มนายหนึ่งที่ถูกฟันแขน อาจจะออกมาช้ากว่าเพื่อน จึงถูกทำร้ายระหว่างทาง เมื่อตนมาถึงหนองทา ก็เห็นรถกระบะแต่งซิ่ง 4 ประตู สีขาว ขับตามมา เห็นว่ามีคนขับและคนนั่งข้าง 2 คน ข้างหน้า มีคนนั่งหลังกระบะพร้อมอาวุธประมาณ 3 คน ก่อนขับมาเบียด ขับมาไล่ชนกลุ่มพวกตน”
นายเอฟเล่าอีกว่า ตนถูกรถกระบะเบียดกระเด็นไปชนกับเสาไฟฟ้า จนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งตนคิดว่าคนที่ขับรถกระบะมาต้องเป็นกลุ่มรุ่นพี่ของนายอาร์เธอร์ เป็นขาใหญ่อยู่ในพื้นที่ ต.โนนสูง เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บภายใน เนื่องจากเลือดออกในปอด ตับฉีก กระดูกสะโพกเคลื่อน ต้องรักษาตัวอยู่นาน ตอนนี้อาการดีขึ้นแล้ว แต่ก็ยังต้องไปตามที่หมอนัดอยู่ ตอนนี้เข็ดแล้ว ต่อไปนี้จะต้องระมัดระวังตัวเอง ทำอะไรต้องคิดให้มากกว่านี้ และจะไม่ออกไปทำเรื่องเกเรแบบนี้อีกแล้ว