สาวแรงงานข้ามชาติโร่แจ้งความ ถูกชายอ้างเป็น ตร. ขู่เรียกค่าหัว-ตามยิงถึงร้าน แถมโทรขู่ซ้ำ
ความคืบหน้าเหตุการณ์ชายฉกรรจ์ 2 คน อ้างตัวเป็นตำรวจกับอาสาสมัคร เดินทางมาที่ร้านขายอาหารที่ นางสาวลี่ ทำงานอยู่ เรียกเก็บเงินค่าหัวรายเดือนจาก นางสาวลี่ จำนวน 500 บาท แต่นางสาวลี่ได้ปฏิเสธที่จะจ่ายเงินค่าหัวรายเดือนให้ไป เนื่องจากเห็นว่าปัจจุบันตนมีเอกสารอนุญาตให้ทำงานอย่างถูกต้องแล้ว ทำให้ชายฉกรรจ์ที่อ้างตัวเป็นตำรวจในพื้นที่เกิดความไม่พอใจ และข่มขู่ว่าจะนำตัวนางสาวลี่ไปที่โรงพักแทน พร้อมกับพูดขู่ นางสาวลี่ว่า ถ้ามีปัญหาคุณจะเดือดร้อนมากกว่านี้ ผมทำอะไรได้มากกว่านี้อีกเยอะ ทำให้ทาง นางสาวลี่ โทรศัพท์ติดต่อหาทางนายหน้าที่รับทำเอกสารการทำงานให้กับนางสาวลี่ ก่อนที่นายหน้าคนดังกล่าวจะแนะนำให้ นางสาวลี่จ่ายเงินค่าน้ำมันรถให้กับชายที่อ้างตัวว่าเป็นตำรวจไปเป็นเงินจำนวน 1,000 บาท เพื่อตัดปัญหาและซื้อความสบายใจ หลังจากรับเงินค่าน้ำมันแล้วชายคนดังกล่าวพร้อมคนติดตามอีกคนจึงได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากร้านไป เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้นางสาวลี่ แรงงานหญิงต่างด้าวรายนี้ นำภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกเหตุการณ์ได้ไปร้องขอความช่วยเหลือจากทางเพจกล้าที่จะก้าว ตามที่ข่าวได้นำเสนอไปแล้วนั้น
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 14 สิงหาคม นายอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจกลุ่มกล้าที่จะก้าว พานางสาวลี่ อายุ 43 ปีแรงงานหญิงชาวกัมพูชา เดินทางมาที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี เพื่อเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน เพื่อให้ดำเนินคดีกับชายฉกรรจ์ทั้ง 2 คนตามที่กล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์เอาไว้
นายอธิวัฒน์กล่าวว่า หลังมีทั้งข่าวและคลิปเหตุการณ์ เผยแพร่ออกไปแล้ว ปรากฏว่าเมื่อวานนี้มีชายลึกลับรายหนึ่ง ได้โทรศัพท์มาหาทางเฮียเจ้าของร้าน แต่ภรรยาของเจ้าของร้านได้รับสายแทน ซึ่งชายคนดังกล่าวพูดข่มขู่ในทำนองที่ว่า นางสาวลี่ แรงงานต่างด้าวรายนี้ทำให้เขาเดือดร้อนหนัก เพราะถูกเจ้านายเรียกสอบ โดยเขาถูกคาดโทษเอาไว้ว่า ถ้าภายในวันที่ 19 สิงหาคมนี้ หากเขาไม่สามารถเคลียร์เรื่องนี้จบให้ได้ เขาจะถูกสั่งพักงาน ซึ่งอาจจะทำให้เขาตัดสินใจครั้งสุดท้ายด้วยการบุกไปยิงแรงงานหญิงต่างด้าวรายนี้ ที่เอาเรื่องของเขามาเปิดเผยและยิงตัวตายตามที่หน้าร้าน สร้างความหวาดกลัวให้กับนางสาวลี่ และเจ้าของร้านเป็นอย่างมาก หลังทราบเรื่องจากนางสาวลี่แล้ว ตนจึงตัดสินใจพานางสาวลี่ เดินทางมาเข้าแจ้งความ เพราะนางสาวลี่เกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยในชีวิต
นายอธิวัฒน์กล่าวอีกว่า หลังตนทราบข่าวว่ามีชายปริศนาโทรศัพท์มาข่มขู่แรงงานหญิงต่างด้าวรายนี้แล้ว จึงได้โทรศัพท์ประสานไปยัง ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ และ ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี เพื่อแจ้งเรื่องดังกล่าวให้ทราบ โดยทาง ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ ยืนยันกับตนว่า ในวันที่ 17 สิงหาคมนี้จะนัดหมายเจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวและนางสาวลี่ ผู้เสียหายเดินทางมาพูดคุยหารือเพื่อหาทางออกในเรื่องนี้ด้วยกัน ส่วนทาง ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี ก็ยืนยันว่าได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวนำอาวุธปืนพกประจำตัวมาคืนกับทางต้นสังกัดแล้ว พร้อมกับสั่งย้ายให้ไปทำงานในหน้าที่อื่นแทน โดยไม่ให้เกี่ยวข้องกับงานในพื้นที่อีก นอกจากนี้ ก็พร้อมจะส่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.นนทบุรี ลงพื้นที่ไปดูแลความปลอดภัยให้กับทางผู้เสียหายด้วยในวันนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายตามมา
ด้าน นางสาวลี่กล่าวว่า หลังได้เดินทางมาเข้าแจ้งความเอาไว้แล้วก็รู้สึกสบายใจ ต้องขอขอบคุณทางเพจกล้าที่จะก้าว และทุกๆ หน่วยงานที่ยื่นมือเข้ามาให้ความช่วยเหลือตน เพราะถ้าไม่มีใครเลยมาช่วยเหลือตน ตนก็คงต้องจ่ายเงินแบบนี้ตลอดไปเหมือนที่เคยจ่ายมาหลายปี