ม.2 ร้อง ‘ครูประวัติศาสตร์’ ไม่ให้เข้าห้องเรียน หลังถกความเห็นการเมือง ‘ไม่ตรงกัน’

แฟ้มภาพ

การเมืองพัทยาเดือด ครูกับนักเรียน ความคิดเห็นไม่ตรงกัน ทำหนังสือร้อง สพป.เขต 3 ขอความช่วยเหลือ ครูไม่อนุญาตให้เข้าห้องเรียน

ส.ส.เขต 9 ยื่นหนังสือด่วนถึง สพป.เขต 3 หลังผู้ปกครอง น.ร.ชั้น ม.2 ร.ร.ชื่อดัง เข้าขอความช่วยเหลือ กรณีถูกครูวิชาประวัติศาตร์ ไม่อนุญาตให้เข้าห้องเรียน หลังเกิดการแสดงความคิดเห็นด้านการเมืองไม่ตรงกัน ด้าน ส.ส.ขีดเส้นตายภายในสัปดาห์นี้หากเด็กยังได้ไม่เข้าเรียนจะเดินทางยื่นหนังสือถึงกระทรวงศึกษาธิการทันที

เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม วันนี้ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 3 นายยอดชาย พึ่งพร ส.ส.เขต 9 จ.ชลบุรี ได้เดินทางมาพร้อมกับ มารดาอายุ 47 ปี แม่ของน้องนักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง และผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายของทีมงานพรรคก้าวไกล ได้เข้ายื่นหนังสือแก่ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษา เขต 3

โดยมี นายลิขิต ศรีวรมย์ รองผู้อำนวยการเขต สำนักงานพื้นที่การศึกษาประภมศึกษาชลบุรี เขต 3 เป็นผู้แทนเขตในการรับมอบหนังสือ เรื่องอนุเคราะห์มาตรการช่วยเหลือนักเรียน โดยมีใจความว่า ทาง ส.ส.ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ ว่า ลูกชายซึ่งเป็นนักเรียนชั้น ม.2 ของโรงเรียนแห่งนี้ ไม่สามารถเข้าเรียนวิชาประวัติศาสตร์ของคุณครูท่านนี้ได้ หลังจากที่นักเรียนได้แสดงความคิดเห็นทางการเมืองที่ไม่ตรงกับครู ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่สมควร อีกทั้งยังเป็นการใช้อำนาจหน้าที่ในการกลั่นแกล้งเยาวชนของชาติ และเป็นการละเมิดสิทธิสมนุษยชนอย่างชัดเจน และอาจจะเป็นสาเหตุให้นักเรียนคนดังกล่าวไม่ผ่านวิชาประวัติศาสตร์

ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง ส.ส.ได้รับเรื่องร้องทุกข์ไปเมื่อเดือนกรกฎาคม และได้ทำการประสานไปยังผู้อำนวยการโรงเรียน เพื่อพาผู้ปกครองนักเรียนเข้าให้ข้อมูล และขอความอนุเคราะห์ทางผู้อำนวยการแก้ไปปัญหาดังกล่าว แต่ก็พบว่าผู้อำนวยการไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้เนื่องจากคุณครูคนดังกล่าวไม่ได้ใส่ใจกับคำตักเตือนของทางผู้บริหารแต่อย่างใด มาในวันนี้ทาง ส.ส.จึงได้มายื่นหนังสือต่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 3 เพื่อให้เกิดความยุติธรรมทั้งสองฝ่าย และเพื่อไม่ให้กระทบต่อสิทธิด้านมนุษยชนของเด็กต่อไป โดยบรรยากาศในการรับมอบหนังสือวันนี้พบว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

ADVERTISMENT

ด้าน แม่ของนักเรียน อายุ 47 ปี ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังถึงประเด็นร้อนนี้ว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเป็นความเห็นต่างในเรื่องของพรรคการเมืองระหว่างครูกับนักเรียน ซึ่งก็น่าจะเคารพกันและกัน ซึ่งทุกคนก็มีสิทธิเห็นต่างได้ แต่ก็ไม่น่าจะต้องถึงขนาดไม่ให้ลูกชายเข้าเรียน ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยพบกับครูคนดังกล่าวเพื่อพูดคุยปัญหากัน โดยมีรอง ผอ.ร่วมในการพูดคุยปัญหา เพราะส่วนตัวก็ไม่อยากจะให้มีปัญหากับทางโรงเรียนอยู่แล้ว

การเข้ามาพบคุณครูในครั้งนั้นก็เพียงแต่อยากให้ลูกได้เข้าเรียนเหมือนเพื่อน เพราะหากไม่เข้าเรียน ลูกจะผ่านวิชานี้ได้อย่างไร และอาจจะมีผลต่อการเลื่อนระดับชั้นได้ แต่จากการพูดคุยกันในวันนั้นก็ไม่เป็นผล กลับมีการใช้อารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องทั้งสองฝ่าย ซึ่งส่วนตัวคิดว่าหลังจากที่คุนกันวันนั้นก็น่าจะจบ ลูกก็น่าจะได้เข้าเรียน

แต่กลับพบว่ามีบางสัปดาห์ที่ลูกได้เข้าเรียน แต่ครูไม่รับงานของลูก และจากนั้นลูกก็ไม่ได้เข้าเรียนวิชานี้อีก ซึ่งส่วนตัวมองว่าไม่ถูกต้อง ทั้งๆ ที่ลูกก็ได้เข้าไปไหว้ขอโทษคุณครูแล้ว เรื่องก็น่าจะจบ เพราะเด็กก็มาขออโทษแล้ว

แต่ก็พบว่า ณ ปัจจุบันเรื่องก็ยังคงไม่มีความคืบหน้าทั้งๆ ที่ ทาง ผอ.ได้ทำการสั่งสอบเรื่องนี้ไปแล้ว แต่คุณครูก็ไม่ได้สนองต่อคำสั่งของ ผอ.แต่อย่างใด ในวันนี้แม่จึงได้เข้าขอความช่วยเหลือจากทีมงาน ส.ส. และเข้ามาร่วมในการมอบหนังสือแก่สำนักเขตดังกล่าว

นายยอดชาย พึ่งพร ส.ส.เขต 9 พรรคก้าวไกล เปิดเผยต่อหลังจากยื่นหนังสือว่า สำหรับพฤติกรรมของคุณครูคนดังกล่าวเข้าข่ายหมิ่นประมาทพรรคชัดเจน แต่ทางพรรคก็ไม่ได้ติดใจเรื่องนี้ และไม่ประสงค์ดำเนินคดีกับคุณครู แต่สิ่งที่ต้องการคืออยากให้ครูปฎิบัติกับเด็กเหมือนเด็กคนอื่นๆ ซึ่งเด็กต้องมีสิทธิในการรับการศึกษาทุกคน การที่ครูนำความเชื่อของตัวเองที่มีมาถ่ายทอดให้เด็กฟังและพยายามเข้าใจว่าสิ่งที่เด็กเห็นต่างคือเรื่องผิดนั้น

ส่วนตัวมองว่าเป็นการเห็นต่าง เพราะเรื่องของการเมืองไม่มีใครถูกผิด เรื่องนี้ทางทีมก็เคยพูดคุยกับ ผอ.โรงเรียนแล้ว แต่ก็พบว่าไม่มีความคืบหน้า ในวันนี้จึงได้เดินทางมาที่สำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษาชลบุรี เขต 3 เพื่อประสานการดำเนินการแก้ไขปัญหา และหากพบว่าในสัปดาห์นี้น้องยังไม่สามารถเข้าเรียนวิชาดังกล่าวได้ ทางทีมก็จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯเพื่อยื่นหนังสือถึงกระทรวงศึกษาธิการเพื่อทำการหาแนวทางในการช่วยเหลือน้องต่อไป

นายลิขิต ศรีวรมย์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 3 ก็ได้ออกมารับปากว่าจะรีบแก้ไขปัญหาดังกล่าว พร้อมจะดำเนินการประสานกับโรงเรียนดังกล่าวเพื่อแก้ไขปัญหาเป็นการด่วน