ญาติวอน ‘ปวีณา’ ช่วยลูก-หลาน ถูกหลอกไปทำงานคอลเซ็นเตอร์ที่เมียนมา 9 ราย

ญาติวอน ‘ปวีณา’ ช่วยลูก-หลาน ถูกหลอกไปทำงานคอลเซ็นเตอร์ที่เมียนมา 9 ราย ถูกบังคับให้หลอกลวงคนไทย ถ้าทำยอดไม่ได้จะถูกกักขัง ทำร้ายร่างกาย

ญาติเหยื่อค้ามนุษย์เข้าพบ “ปวีณา” ขอความช่วยเหลือลูกถูกหลอกไปทำงานคอลเซ็นเตอร์ที่เมียนมา 9 ราย ถูกบังคับให้หลอกลวงคนไทยเทรดหุ้น ถ้าทำยอดไม่ได้จะถูกกักขัง ทำร้ายร่างกาย มัดมือแขวนกับขื่อ ไฟฟ้าชอร์ต หนักสุดถูกกักขังเดี่ยวในห้องมืด บังคับให้ทำงาน 9 โมงเช้าถึงตี 5 นอนวันละ 2-3 ชั่วโมง อยู่ที่เมืองเล้าไก่ และเมืองปางซาง อีกราย กรณีสาวไทยถูกหลอกไปทำงานนวดที่ดูไบ 3 วันเสียชีวิตปริศนา ญาติขอช่วยส่งศพกลับไทย ล่าสุด “ปวีณา” ประสานอธิบดีกรมการกงสุล และคนไทยในดูไบรวบรวมเงินช่วยเหลือจะมีการส่งศพกลับมาบ้านเกิดเร็วๆ นี้

เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ญาติเหยื่อ 4 ครอบครัวจาก 4 จังหวัด เชียงราย ลำปาง สระแก้ว ปทุมธานี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ขอความช่วยเหลือ ลูกหลานทั้งหมด 9 คน ถูกหลอกไปทำงานคอลเซ็นเตอร์ หลอกลวงคนไทยร่วมลงทุนเทรดหุ้น ที่เมืองเล้าไก่ และเมืองปางซาง รัฐฉาน ประเทศเมียนมา

นายเอ้ (นามสมมุติ) อายุ 46 ปี ชาว จ.สระแก้ว กล่าวว่า นางสาวป๊อบ (นามสมมุติ) ลูกสาวอายุ 22 ปี ตกงานอยู่ และได้ไปเจอโฆษณาในเฟซบุ๊กเชิญชวนให้ไปทำงานเป็นแอดมินเว็บพนันออนไลน์ที่ประเทศฟิลิปปินส์ โดยแจ้งว่างานสบาย รายได้ดี เดือนละไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นบาท จึงหลงเชื่อเดินทางไปในวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากเดินทางไปทางบ้านก็ไม่สามารถติดต่อได้

ADVERTISMENT

กระทั่งวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา ลูกสาวได้ติดต่อทางแชตเฟซบุ๊กมาบอกว่าถูกกักขังอยู่ในตึก 5 ชั้น เมืองเล้าไก่ ประเทศเมียนมา มีคนคอยคุมไม่ให้ออกไปไหน และบังคับให้ทำงานหลอกคนไทยเทรดหุ้น หากทำยอดไม่ได้ตามเป้าก็จะถูกทำร้ายร่างกาย และถูกไฟฟ้าชอร์ต และขังในห้องมืด นอกจากนี้ ยังมีคนไทยอีกหลายร้อยคนถูกกักขังบังคับให้ทำงานอยู่ในตึกเดียวกัน

ตอนนี้ลูกสาวกับเพื่อนรวม 7 คน ได้รวมตัวกันแจ้งเรื่องให้พ่อแม่มาขอความช่วยเหลือกับนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ จึงได้ติดต่อพ่อแม่เหยื่อที่อยู่ จ.ลำปาง กับ จ.เชียงราย ก่อนนัดหมายกันมาร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือวันนี้ และลูกสาวยังบอกอีกว่ากำลังจะถูกขายต่อไปที่อื่น และเกรงจะไม่ปลอดภัย ขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือด้วย

ADVERTISMENT

ด้านนายเล็ก (นามสมมุติ) อายุ 51 ปี ชาว จ.ปทุมธานี กล่าวว่า ลูกชาย อายุ 26 ปี กับแฟนสาว เดิมทีเป็นไรเดอร์วิ่งรับส่งของแต่รายไม่ดี และได้ไปเจอโฆษณาในเฟซบุ๊กเชิญชวนให้ไปทำงานเป็นแอดมินเว็บพนันออนไลน์ที่ประเทศเมียนมา โดยจะมีรายได้ 25,000 บาทต่อเดือน และได้ค่าคอมมิชชั่น สัญญาจ้าง 8 เดือนจะได้กลับบ้าน จึงพากันเดินไปเมื่อวันที่ 2 ส.ค.66 โดยนั่งรถจากกรุงเทพฯ ไปจ.เชียงราย และมีคนมารับพาเดินทางต่อผ่านช่องทางธรรมชาติไปที่เมืองปางซาง รัฐฉาน ประเทศเมียนมา

ลูกชายกับแฟนสาว ถูกกักขังให้อยู่แต่ในตึก บังคับให้ทำงานโรแมนซ์สแกม หลอกคนไทยให้เทรดหุ้น ตั้งแต่เช้าจนถึงตี 3 ถ้าทำยอดไม่ได้ก็ห้ามนอน ลูกชายกับแฟนสาวไม่อยากทำ จึงถูกเรียกค่าไถ่ตัว คนละ 230,000 บาท ครอบครัวยากจนไม่รู้จะช่วยลูกอย่างไร จึงเข้ามาขอความช่วยเหลือมูลนิธิปวีณาฯ

หลังรับเรื่อง นางปวีณา ช่วยเหลือทันที โดยได้ประสาน นายรุจ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกงสุล ให้เร่งติดตามช่วยเหลือทั้ง 9 คน ที่ขอความช่วยเหลือในวันนี้ และก่อนหน้านี้มีขอความช่วยเหลือที่ถูกกักขังบังคับให้ทำงานอีก 9 คน ทั้งหมดรวม 18 คน พร้อมกันนี้นางปวีณายังได้ประสานทหารคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-เมียนมา (TBC) ให้การช่วยเหลือด้วย

นางปวีณายังได้กล่าวว่า เตือนภัยสำหรับผู้ที่คิดจะเดินทางไปทำงานต่างประเทศ อย่าหลงเชื่อโฆษณาในโลกออนไลน์ งานสบาย รายได้ดีนั้นไม่มีอยู่จริง เมื่อเดินทางไปแล้วเจ้าหน้าที่ก็อาจจะช่วยไม่ได้ทุกคน หลายคนต้องไปตกนรกถูกบังคับทำงานผิดกฎหมาย ถูกทำร้ายร่างกาย เงินก็ไม่ได้ ต้องเป็นหนี้ บางคนก็เอาชีวิตไม่รอด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image