สาวใหญ่ใจเด็ด คว้าลูกซองยิงหนุ่มบุกบ้านหวังขืนใจ ชี้คิดเองว่าเป็นผัว เพราะเคยจ้างมาปูกระเบื้อง

สาวใหญ่ใจเด็ด คว้าลูกซองยิงหนุ่มบุกบ้านหวังขืนใจ ชี้คิดเองว่าเป็นผัว เพราะเคยจ้างมาปูกระเบื้อง

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 18 สิงหาคม 2566 พ.ต.ท.บำรุง แนบชิดชัย รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งจากกู้ชีพ โรงพยาบาลบ้านผือ มีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่หมู่ 8 บ้านแดง ต.จำปาโมง โดยมีกู้ชีพ อบต.จำปาโมง นำผู้บาดเจ็บส่งห้องฉุกเฉินโรงพยาบาล แต่ผู้บาดเจ็บเสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงพร้อมด้วย พ.ต.ต.นิคม ยะจอม สว.สส.สภ.บ้านผือ นำกำลังรุดไปสอบสวน

พบศพนายมุลตรี สิงห์ทอง อายุ 40 ปี ชาว ต.จำปาโมง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนส์ขายาว ถูกยิงด้วยปืนลูกซองยาว กระสุนเบอร์ 12 กระสุนลูกปรายเข้าที่ท้องน้อย 4 เม็ด กระสุนฝังใน สอบสวนทราบว่า น.ส.พรรณี ภูขำ อายุ 42 ปี เพื่อนบ้านเป็นคนยิง และรอมอบตัวอยู่ที่บ้านพร้อมอาวุธปืน จึงรุดไปที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น ไม้ครึ่งปูน บริเวณหลังบ้านมีคราบเลือดอยู่บนแคร่ไม้ไผ่ และพื้นกระเบื้อง พบ น.ส.พรรณี ภูขำ เจ้าของบ้านผู้ก่อเหตุ นั่งรอมอบตัวกับตำรวจ พร้อมด้วยอาวุธปืนลูกซองยาว เบอร์ 12 จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืน 3 นัด ปลอกกระสุนปืน 1 ปลอก โดยให้การรับสารภาพว่าเป็นคนใช้อาวุธปืนยิงนายมุลตรี จนเสียชีวิตจริง ตำรวจจึงควบคุมตัวพร้อมอาวุธปืนของกลาง ไปโรงพักทำการสอบสวน

Advertisement

โดย น.ส.พรรณีให้การว่า ตนเป็นแม่ม่ายแยกทางกับสามี อาศัยอยู่ที่บ้านกับลูกอีก 2 คน เมื่อ 1 ปี ที่ผ่านมาตนได้จ้างนายมุลตรี ผู้ตายซึ่งเป็นคนบ้านเดียวกันมาปูกระเบื้องพื้นบ้านชั้นล่าง เสร็จแล้วก็จ่ายเงินค่าจ้างไปตามปกติ แต่ผู้ตายหลงรักตน แต่ตนไม่ชอบเพราะผู้ตายชอบเสพยาบ้าและดื่มเหล้าอาละวาดตลอด คนในหมู่บ้านก็รู้ดี ผู้ตายจะขี่รถจักรยานยนต์มาหาตนที่บ้านตลอด ผู้ตายจะอ้างว่าเป็นบ้านตัวเอง คิดเอาเองว่าเป็นผัวตน เพราะเป็นคนสร้างบ้านหลังนี้ จะอยู่บ้านนี้

น.ส.พรรณีให้การต่อว่า ผู้ตายมักจะเมาแล้วมาหาเรื่องตนที่บ้าน ตนแจ้งตำรวจมาระงับเหตุเอาไปควบคุมที่โรงพักหลายครั้ง แต่พอตำรวจปล่อยตัวก็จะมาอีก ทำให้พ่อของตนซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมานอนเป็นเพื่อน ส่วนตนได้เอาปืนลูกซองของพ่อมาไว้ที่บ้านเพื่อป้องกันตัว ก่อนเกิดเหตุ ขณะที่ตนอยู่บ้านคนเดียว ผู้ตายมีอาการเมาแล้วขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่หลังบ้าน แล้วจะเดินเข้ามาตนในบ้าน ตนกลัวแต่วิ่งไปปิดประตูไม่ทัน

น.ส.พรรณีให้การต่ออีกว่า ตนถามผู้ตายว่ามาทำไม ผู้ตายตอบว่าพ่อมึงให้มาหา และจะอยู่ที่นี่ ตนกลัวจึงบอกให้ผู้ตายกลับไป แต่ผู้ตายไม่ยอมกลับ แถมยังเดินเข้ามาหาตน คิดว่าผู้ตายจะมาข่มขืนตน เพราะผู้ตายเคยขู่ตนไว้ว่า “ให้มึงระวังตัวไว้” ตนจึงรีบเอาปืนลูกซองออกมาขู่ให้ผู้ตายออกจากบ้านตนไป แต่ผู้ตายก็ยังเดินเข้ามาคุกคามตน จึงหลับหูหลับตายิงออกไป 1 นัด จนผู้ตายล้มลง เพราะหากผู้ตายแย่งปืนไปได้ตนก็คงจะตายเช่นเดียวกัน ตนจึงต้องป้องกันตัว

Advertisement

นางทองทิพย์ เบ้าแก้ว อายุ 69 ปี เพื่อนบ้าน เล่าว่า ขณะนั่งอยู่ในบ้าน ได้ยินเสียงดังจากบ้านที่เกิดเหตุ จึงบอกให้ลูกชายไปดู ซึ่งเห็น น.ส.พรรณี ถือปืนและร้องบอกว่าผู้ตายถอยออกไป แต่ผู้ตายไม่ถอยแถมยังเดินจะเข้าไปในบ้าน น.ส.พรรณี ก็เลยยิงปืนใส่ 1 นัด ซึ่งผู้ตายเป็นคนชอบดื่มเหล้าเสพยาบ้าอาละวาด และคิดว่าจะชอบ น.ส.พรรณี เคยมาอาละวาดหลายครั้ง จนต้องแจ้งตำรวจมาระงับเหตุ แต่พอตำรวจปล่อยตัว ก็มาอีก กระทั่งมาเกิดเรื่องยิงกัน ในความคิดเห็นถือว่าผู้ตายบุกรุกเพื่อจะข่มขืน น.ส.พรรณี จึงต้องป้องกันตัวเอง

ส่วนนางจันดี บุญฤทธิ์ อายุ 68 ปี แม่ผู้ตายซึ่งหูพิการไม่ค่อยได้ยินเสียง เล่าทั้งน้ำตาว่า ตนอาศัยอยู่กับลูกชาย 2 คน ลูกชายทำงานรับจ้างหาเลี้ยงตน และทราบเรื่องแล้วว่าลูกชายถูกยิงตาย ซึ่งรู้สึกเสียใจ เพราะว่าตนมีลูกคนเดียว รักลูกมาก ลูกอยากได้อะไรตนก็หาให้ ก่อนเกิดเหตุ ลูกชายบอกตนว่าจะไปหาเพื่อน ไม่ได้บอกว่าจะไปหาผู้หญิง ต่อไปคงจะต้องได้อยู่คนเดียว จากนั้นนางจันดีก็ร่ำไห้คร่ำครวญเสียใจ จนญาติต้องมาปลอบใจ

พ.ต.ท.บำรุง แนบชิดชัย รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้แจ้งข้อหา น.ส.พรรณี “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย” ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image