ผู้ประกอบการโรงสี ชี้ ราคาข้าวปรับขึ้นในรอบ 15 ปี มั่นใจ ไม่กระทบผู้บริโภค

ผู้ประกอบการโรงสี ชี้ ราคาข้าวปรับขึ้นในรอบ 15 ปี มั่นใจ ไม่กระทบผู้บริโภค

เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม นายบรรจง ตั้งกิจวัฒนกุล ประธานสภาอุตสาหกรรม เป็นเจ้าของธุรกิจโรงสีใหญ่ 3 แห่งของจังหวัดพิจิตร และเป็นอดีตอุปนายกสมาคมโรงสีข้าวแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่ ทางการประเทศอินเดีย ได้ประกาศเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา ห้ามส่งออกข้าวทุกชนิด ยกเว้นให้แค่เพียงข้าวบาสมาติ (Basmati Rice) ที่ยังส่งออกได้ ส่งผลให้ตลาดข้าวโลกปั่นป่วน เพราะอินเดียเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวอันดับ 1 ของโลก โดยคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 40% ของการค้าข้าวทั่วโลก

นายบรรจง กล่าวต่อว่า เมื่ออินเดียห้ามส่งออกข้าวย่อมส่งผลให้ปริมาณการส่งออกข้าวทั่วโลกลดลง ดันราคาข้าวในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับปรากฏการณ์เอลนีโญ ทำให้สภาพอากาศแห้งแล้ง ฝนตกน้อย สร้างความเสียหายให้กับผลผลิตข้าวของประเทศผู้ปลูกข้าว

นายบรรจง กล่าวอีกว่า เมื่อประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่อันดับ 1 ไม่ส่งออก ทำให้ประเทศไทย กลับมามีตลาดที่ดีขึ้นประเทศไทย เคยส่งออกสูงสุดถึง 10 ล้านตัน ขณะนี้เหลือในเกณฑ์ 8 ล้านตัน ซึ่งขณะน้ำทำนาน้อยลง เกษตรกรมีทุนน้อยลง ใส่ปุ๋ยน้อยผลผลิตลดต่ำลง ทำให้ข้าว ในโลกกระเพื่อมราคาสูงขึ้น ข้าวที่ขึ้นราคาเป็นข้าวเกรดกลางๆ ถือเป็นความโชคดีของชาวนา ที่กำลังเก็บเกี่ยวอยู่ในขณะนี้

Advertisement

นายบรรจง กล่าวอีกว่า ปรากฏการณ์ที่ราคาข้าวเปลือกในประเทศที่ปรับตัวสูง ส่งผลต่อข้าวสารบรรจุถุงที่ผู้บริโภคต้องซื้อไปรับประทาน มีแนวโน้มที่จะปรับราคาขึ้น เพราะข้าวสารถือเป็นต้นทุนวัตถุดิบข้าวเพื่อมาสีแปรและบรรจุถุง ทำให้กระแสข่าวการปรับราคาข้าวถุง ในช่วงสัปดาห์ล่าสุด ราคาข้าวล่าสุด ราคาข้าวเปลือกราคาเพิ่มขึ้นอีก โดยข้าวเปลือกเพิ่มขึ้นมาตันละ 3,000-4,000 บาท โดยฉะเพาะข้าวเปลือกเจ้าขึ้นราคา 12,000-12,500 บาทต่อตัน บาทจากเดิม อยู่ที่ 7,000-8,000บาท ต่อตันข้าว หอมมะลิอยู่ที่ 15,000-16,900 บาทต่อตัน

นายบรรจง กล่าวอีกว่า ราคาข้าวขึ้นมาในปีนี้แต่ไม่เท่าปี 2544 ซึ่งขณะนั้นเคยได้ราคาข้าว 5 เปอร์ ราคาข้าวเปลือก 14,000-15,000 บาทต่อตัน และข้าวหอมมะลิ ได้ 20,000 บาทต่อตัน ซึ่งสมัยนั้น เป็นคุณมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ เป็นรัฐมนตรี แต่ถือว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่ 10-15 ปี จะมีครั้ง ซึ่งการที่ข้าวเปลือกขึ้นราคาครั้งนี้นานเกินไป ข้าวที่ขึ้นราคานั้น ไม่มีผลกระทบกับผู้บริโภคมากนัก ขณะนี้คนบริโภคต่อเดือน ไม่เกิน 6 กิโลโลกรัม ดังนั้น คงต้องรอทีมเศรษฐกิจรัฐบาลใหม่ ที่เข้ามา แก้ปัญหาให้ดีขึ้นกว่านี้

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image