น้องเขยปืนโหด ยิงสยบพี่ชายเมียเสพยาคลั่งอาละวาด ดับคาบ้าน

น้องเขยปืนโหดยิงสยบพี่ชายเมียเสพยาคลั่งอาละวาดดับคาบ้าน

เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 19 สิงหาคม 2566 พ.ต.ท.ยืนยง คำบอน สว.(สอบสวน) สภ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 79 หมู่ 2 ต.บ้านเหล่า อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.กานต์ ตั้งวิจิตร ผกก.สภ.เพ็ญ พ.ต.ท.เศกสันต์ ฤาเวทย์ รอง ผกก.สส.สภ.เพ็ญ พ.ต.ท.นภัทร จูมวันทา รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เพ็ญ แพทย์เวร รพ.เพ็ญ อาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรม จุดอำเภอเพ็ญ รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุมีบ้าน 3 หลังอยู่ในรั้วเดียวกัน บ้านเกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวอยู่ด้านหลัง พบศพ นายธีระยุทธ สุวรรณิกะ หรือยุทธ นอนหงายจมกองเลือดอยู่ระเบียงหน้าบ้าน สภาพศพสวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์ขายาว จากการชันสูตรพบถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองสั้น กระสุนปืนลูกซองเบอร์ 9 เข้าบริเวณแผ่นสะบักหลังขวา กระสุนฝังใน ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายคมศร เฮ้าบุญ อายุ 41 ปี เจ้าของบ้านและเป็นน้องเขยผู้ตาย ยืนถืออาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ และปลอกกระสุนปืนเบอร์ 9 ร้องไห้ รอมอบตัวกับตำรวจ

โดยนายคมศรให้การรับสารภาพว่า เป็นคนใช้ปืนยิงนายธีระยุทธ พี่ชายภรรยาจริง เพราะเวลาดื่มเหล้าเมามาผู้ตายมักจะมาอาละวาดเอะอะโวยวายและหาเรื่องตนอยู่เป็นประจำ ตนก็อดทนอดกลั้น บางครั้งก็จะหลบไปที่อื่น ก่อนเกิดเหตุขณะนอนอยู่ในห้องกับภรรยา ส่วนแม่ยายนอนเฝ้าพ่อตาป่วยอยู่ห้องโถง ผู้ตายซึ่งอาศัยอยู่บ้านใกล้กันเมาอาละวาดส่งเสียงเอะอะโวยวายหน้าบ้าน ภรรยาตนเปิดประตูห้องออกมา ผู้ตายปรี่เข้ามาหาตน จึงหยิบเอาปืนมายิงผู้ตาย 1 นัด เข้าที่สะบักขวา ผู้ตายเดินออกจากบ้านไปล้มลงที่ระเบียงบ้านเสียชีวิต “ถ้าไม่ทำก็ไม่จบ ตอนนี้รู้สึกเสียใจ ขอโทษญาติพี่น้องทุกคนด้วย” ตำรวจจึงแจ้งข้อหานายคมศร “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” นำตัวไปฝากขังศาล

ADVERTISMENT

ต่อมาเวลา 10.30 น. วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปบ้านที่เกิดเหตุ พบญาติพี่น้องและชาวบ้านที่ทราบเรื่องได้เดินทางมาแสดงความเสียใจและช่วยเตรียมงานศพ ซึ่งนางอารมณ์ สุวรรณิกะ อายุ 63 ปี แม่ผู้ตาย และแม่ยายมือปืน เล่าว่า ตนมีลูก 3 คน นายธีระยุทธ ผู้ตาย เป็นลูกชายคนโต พิการเป็นใบ้มาแต่กำเนิด คนกลางเป็นลูกผู้หญิง แต่งงานกับนายคมศร ลูกเขยมือยิงเป็นคนอารมณ์ร้อน ส่วนผู้ตายเป็นพ่อม่ายแยกทางกับภรรยา มีลูกติด 1 คน อยู่บ้านอีกหลังในรั้วเดียวกัน ปกติหากไม่ดื่มเหล้าหรือเสพยาก็จะเป็นคนขยันทำมาหากิน เก็บเงินซื้อรถปิกอัพและส่งลูกเรียนโดยไม่ต้องพึ่งพาใคร แต่พอดื่มเหล้าหรือเสพยาเข้าไปก็จะอาละวาดคนในบ้านประจำ โดยเฉพาะกับน้องเขย แต่น้องเขยก็จะอดทนและหลบหลีกเพื่อไม่ให้เกิดเรื่อง

ก่อนเกิดเหตุตนนอนเฝ้าสามีซึ่งป่วยหนักอยู่ที่บ้านลูกสาว กลางดึกผู้ตายเมาเหล้ามาอาละวาดที่หน้าบ้าน ส่งเสียงดังน่ารำคาญ ลูกสาวจึงเปิดประตูออกมาเพื่อพูดคุยกับพี่ชาย ทราบว่าโทรศัพท์และกระเป๋าเงินหาย หาว่าน้องสาวและน้องเขยลักมา และพยายามบุกเข้าไปทำร้ายน้องเขยภายในห้องนอน จากนั้นตนก็ได้นั่งหันหลังให้ ก็ได้ยินเสียงปืนดัง 1 นัด เห็นผู้ตายเดินออกไปล้มลงเสียชีวิตที่หน้าบ้าน

“รู้มาว่าก่อนหน้านี้ลูกชายคบหากับผู้หญิงคนหนึ่ง หวังจะสร้างครอบครัวด้วยกัน แต่ระยะหลังผู้หญิงตีตัวออกห่างและบอกเลิก คงเพราะลูกชายพิการเป็นใบ้ ทำให้ลูกชายผิดหวัง ระบายออกทางไหนก็ไม่ได้ก็มาระบายกับคนในบ้าน และหันมาเสพยาบ้าและดื่มเหล้าจนร่างกายซูบผอม และมาก่อเหตุเมื่อคืนนี้ ก็รู้สึกเสียใจที่เกิดเหตุขึ้น ต้องสูญเสียลูกชาย หลานสูญเสียพ่อ และลูกเขยติดคุก ครอบครัวจะต้องช่วยกันเลี้ยงหลานกำพร้า 3 คน”

นางแดง พิมพ์พันธ์ อายุ 55 ปี เพื่อนบ้าน เล่าว่า ตนสนิทกับผู้ตายมากที่สุด เพราะว่าตนเข้าใจภาษาใบ้ของผู้ตาย ผู้ตายเป็นช่างเชื่อมฝีมือดี เคยมีภรรยาแต่แยกทางกัน ทำให้ผู้ตายเลี้ยงลูกชายอายุ 16 ปีคนเดียว ซึ่งปกติหากไม่เมาเหล้าผู้ตายจะเป็นคนขยันทำมาหากิน เก็บเงินซื้อรถปิกอัพ 1 คัน มีทองรูปพรรณใส่ ถ้าไม่ติดว่าผู้ตายพิการเป็นใบ้ก็คงจะมีสาวๆ มาชอบเยอะ ผู้ตายเคยบอกตนว่าจะส่งลูกเรียนเป็นตำรวจ หรือไม่ก็จะส่งลูกไปทำงานเมืองนอก โดยทำท่าตะเบะ และเครื่องบินกำลังบิน ซึ่งผู้ตายไม่เคยไปอาละวาดหาเรื่องทะเลาะกับชาวบ้าน แต่จะอาละวาดกับคนในบ้าน รู้สึกสลดใจที่เกิดเรื่องนี้