แม่ร้อง หวั่นลูกชาย ไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังถูกมือดีปาระเบิดจนตาซ้ายบอด
เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม นางนิตยา อายุ 44 ปี ออกมาร้องเรียนขอความเป็นธรรม หลังลูกชาย นายเนติพงษ์ มัยวงค์ อ่ยุ 19 ปี ถูกกลุ่มวัยรุ่น ทกร้ายร่ายกาย ได้รับบาดเจ็บ ถูกปาระเบิดปิงปอง บริเวณศีรษะ จนกระทั่งสูญเสียดวงตาข้างซ้าย ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลนครพนมนานเกือบ 1 เดือน เหตุเกิดเมื่อเดือนมกราคม 2566 ที่ผ่านมา จนกระทั่ง ล่าสุดคดียังไม่คืบหน้า จึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมและไม่ได้รับการชดเชยเยียวยา
ล่าสุด จากการตรวจสอบเกี่ยวกับการดำเนินคดี กับทางตำรวจ สภ.ท่าอุเทน จ.นครพนม พบว่าพนักงานสอบสวนได้ดำเนินคดี ตามขั้นตอนแต่ขบวนการตั้งใช้เวลา เนื่องจากมีผู้ต้องหา เป็นเยาวชน อายุ 23 ปี 1 คน รวมถึงเยาวชน อายุไม่ถึง 20 ปี อีก 7 คน จึงต้องมีขบวนการสอบสวนโดยละเอียด โดยแจ้งข้อหาพยายามฆ่า อยู่ระหว่างการสรุปสำนวนส่งอัยการ ในวันที่ 15 กันยายน 2566 ส่วนสาเหตุที่มาเป็นการทะเลาะวิวาท ระหว่างกลุ่มวัยรุ่น ยกพวกตีกัน
ด้าน นางนิตยา เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุที่งานหมอลำในหมู่บ้าน ลูกชายจึงไปดื่มเหล้ากับเพื่อน และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ออกมาจากงานบุญ ถึงท้ายหมู่บ้าน ถูกวัยรุ่นอีกแก๊งยกพวกทำร้ายไม่ทราบสาเหตุ จนได้รับบาดเจ็บ จากแรงระเบิดปิงปอง ถูกศีรษะ บาดเจ็บสาหัส จนเสียดวงตาซ้าย จึงอยากให้มีการเร่งรัดคดี และหาทางช่วยเหลือการชดเชยเยียวยา เชื่อว่าลูกชายไม่ใช่คนหาเรื่องใคร แต่อาจเข้าใจผิด เพราะเพื่อนมีปัญหากับคู่อริ ส่วนคนก่อเหตุทราบภายหลังได้รับบาดเจ็บเช่นกัน ถูกแรงระเบิดนิ้วขาด แต่ทางญาติไม่เคยมาเจรจาไกล่เกลี่ย
สอบถาม นายเอ๋ อายุ 23 ปี หนึ่งในผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ ยืนยันว่า ตนไม่มีเจตนาทำร้ายผู้เสียหาย ยอมรับว่า ช่วงเกิดเหตุ เป็นการยกพวกตีกัน ระหว่างกลุ่มวัยรุ่นต่างหมู่บ้าน ออกมาจากงานหมอลำ โดยไม่รู้ว่าใครเริ่มก่อน จนกระทั่งช่วงชุลมุน มีมือดีปาระเบิดปิงปองเข้ามา ตนเห็นจึงตั้งใจจะปัดให้พ้นตัว แต่ระเบิดใส่มือ และโดนศีรษะคนเจ็บฝ่ายตรงข้ามด้วย ยืนยันไม่มีเจตนาปาระเบิดใส่ ตามที่คนเจ็บเข้าใจ เพราะตนเจ็บด้วย นิ้วมือขวาขาดทั้งสามนิ้ว ส่วนการดำเนินคดี ให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย และให้การตำรวจไปตามข้อเท็จจริงแล้ว