ปัญหาวัดบางคลานยังไม่จบ เจ้าอาวาสฉีกบันทึกข้อคกลง ที่บิ๊กโจ๊กลงมาแก้ปัญหา ขณะที่เจ้าอาวาสมอบหมายให้ทนายความเตรียมยื่นฟ้องขับไล่โดยตรงกับศาล นายอำเภอแฉ กิตติศักดิ์ ส.ว. นอนกินในวัด ไวยาวัจกรวัดเรียกร้องนายกรัฐมนตรีแก้ปัญหา
วันที่ 15 กันยายน 2566 นายสุมธ เมธีรัตนาพิพัฒน์ นายอำเภอโพทะเล โทรศัพท์ว่า จากกรณีที่เมื่อวันที่ 17 และวันที่ 22 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือบิ๊กโจ๊ก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาแก้ไขปัญหาความขัดแย้งภายในวัดบางคลาน ที่มีความขัดแย้งกันมายาวนานกว่าสิบปี โดยร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งฝ่ายเจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน และฝ่ายอดีตเจ้าอาวาสรูปเก่าที่มรณภาพไปแล้ว ที่มี ส.ว.กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ เป็นแกนนำสร้างความขัดแย้ง โดยมีการเจรจาบันทึกข้อตกลงร่วมกันในการถอยคนละเก้าเพื่อยุติปัญหาและให้วัดบางคลานเกิดความสงบสุขเหมือนในอดีต
นายสุมธ กล่าวอีกว่า แต่ปรากฏว่าปัญหายังไม่จบสิ้นหลังจากที่บิ๊กโจ๊ก เดินทางกลับ พระครูพิสุทธิวรากร เจ้าอาวาสวัดบางคลาน ก็ยังเข้าวัดปฏิบัติศาสนกิจไม่ได้ รวมทั้งไวยาวัจกร คนงาน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิวัดบางคลาน รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะต้องไปดำเนินการเก็บวัตถุพยานหลักฐาน ลายนิ้วมือแฝงต่างที่มีการบุกรุก ทำลายทรัพย์สินต่างๆ ในวัดเนื่องจากยังมีกลุ่มชาวบ้านฝ่ายอดีตเจ้าอาวาสยังคงไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง ซึ่งยังคงปักหลักตั้งเต็นท์ยึดครอบครองวัดอยู่ รวมทั้งตัดกุญแจวิหารหลวงพ่อเงิน กุญแจมูลนิธิวัดบางคลาน และกุญแจกุฏิสามฤดูของเจ้าอาวาส ด้วยซึ่งตรงนี้ทางอำเภอโพทะเล ยังไม่ได้มีการประสานฝ่ายความมั่นคงต่างเพื่อเชิญให้เจ้าอาวาสเข้าวัด
นายสุมธ กล่าวอีกว่า แต่เนื่องจากในเดือนตุลาคมคมนี้จะมีการพิพากษาคดี ซึ่งต้องมีการพูดคุยหลายฝ่ายซึ่งฝ่ายเจ้าอาวาสเองได้ไปยื่นขออำนาจต่อศาลในการใช้สิทธิคุ้มครอง แต่ต้องรอศาลว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงคำสั่งเป็นอย่างหนึ่งอย่างได้หรือเปล่า ซึ่งบรรยากาศภายในวัดยังคงมีกลุ่มต่อต้านหลายสิบคนยังคงปักหลักยึดครองครองวัด โดยมีมาปักหลักนอนภายในวัดเปิดแอร์นอนกันอย่างสบาย ส่วนการดำเนินคดีนั้นเป็นไปด้วยความล่าช้าเนื่องจากตำรวจไม่กล้าทำคดี เนื่องอาจจะมีใหญ่ระดับสูง ให้การสนับสนุนนายกิตติศักดิ์อยู่ จึงทำให้การดำเนินคดีทางกฎหมายค่อนข้างล่าช้า ซึ่งตรงนี้อาจะมีการให้ทนายความฟ้องตรงต่อศาลในการละเมิดบุกรุกวัดบางคลานของ ส.ว.กิตติศักดิ์และบริหารต่อไป
ทนายรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากพระครูสิทธิวรากร เจ้าอาวาสวัดบางคลานเตรียมยื่นฟ้องขับไล่กลุ่มผู้ละเมิดบุกรุกวัดบางคลาน ซึ่งจะเห็นได้ว่าเครสที่ทุกคนทราบกันดีที่คุณกิตติศักดิ์ มีความเกี่ยวข้องจึงพิจารณาดำเนินคดีคุณกิตติศักดิ์ ที่เกี่ยวกับชายชุดดำหลักจากนั้นก็ดูว่า บิ๊กโจ๊กกับคุณกิตติศักดิ์ บิ๊กโจ๊กมาวันพิจิตรวันที่ 17 สิงหาคม 2566 ที่ศาลากลางจังหวัดพิจิตร คุณกิตติศักดิ์ก็มาประชุม วันที่ 22 สิงหาคม ก็มีการบังคับคดีปิดวัดบางคลาน
ตอนนี้สำนวนอยู่ในมือตำรวจ คุณกิตติศักดิ์มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง ส่วนจะถอนประกันก็ถอนไม่ได้เพราะว่าคุณกิตติศักดิ์ไม่ได้ประกันตัว ในกรณีของกฎหมายถ้าเดินไปหาตำรวจแล้วเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง ก็ไม่ต้องทำสัญญาประกันแจ้งข้อหาแล้วก็กลับบ้านได้ ในเรื่องของสำนวน ตอนขึ้นสู่ศาลหรืออัยการว่ามีน้ำหนักเพียงพอหรือไม่ต่อการดำเนินคดีนายกิตติศักดิ์
ด้านนายพร ปั้นเพ็ง ไวยาวัจกรวัดบางคลาน กล่าวว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ในจังหวัดพิจิตรไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือฝ่ายปกครอง ยังไม่สามารถที่จะดำเนินการเบ็ดเสร็จเด็ดขาดได้จากเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2566 ได้นำชายชุดดำเข้ามาทำร้ายกรรมการวัด และวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมาได้นำคนมาทำร้ายเจ้าหน้าที่ปกครองหลายๆ นาย ฝากถึงท่านนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ดำเนินการจัดการกับพวกมีอิทธิพลกลุ่มนี้ให้สิ้นซากไปจากจังหวัดพิจิตร ทุกวันนี้ เจ้าอาวาสวัดเข้าไปบริหารวัดไม่ได้ แต่ต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ให้พวกที่มายึดวัดอยู่กันอย่างสบาย
