มวลน้ำไหลเข้าเขื่อนลำปาว 4 วัน มากกว่า 230 ล้านลบ.ม. เกินระดับกักเก็บ 100% ต้องระบายวันละ 29 ล้านลบ.ม.

มวลน้ำไหลเข้าเขื่อนลำปาว 4 วัน มากกว่า 230 ล้านลบ.ม. เกินระดับกักเก็บ 100% ต้องระบายวันละ 29 ล้านลบ.ม.

วันที่ 12 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงาน สถานการณ์น้ำเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ ปัจจุบันมวลน้ำยังคงไหลเติมเข้าในอ่างอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 8-11 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมารวม 4 วัน มีปริมาณน้ำไหลเข้ามากถึง 230 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้เขื่อนลำปาวมีปริมาณอยู่ที่ 2,127 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 107.42 เปอร์เซ็นต์ จากความจุระดับกักเก็บ 1,980 ล้านลูกบาศก์เมตร ยังเกินระดับกักเก็บอยู่ 147 ล้านลูกบาศก์เมตร จำเป็นต้องระบายน้ำวันละ 29 ล้านลูกบาศก์เมตร

นายสำรวย อินพิทักษ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว ระบุว่า ก่อนหน้านี้เขื่อนลำปาวได้ปรับลดปริมาณการระบายน้ำลงเหลือวันละ 20 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อลดผลกระทบบริเวณด้านท้ายเขื่อน แต่เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันยังมีฝนตก และมีปริมาณน้ำไหลเข้ามาเติมในอ่างต่อเนื่องทุกวัน โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 8-11 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมารวม 4 วัน มีปริมาณน้ำไหลเข้ามากถึง 230 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้อ่างเก็บน้ำลำปาวมีปริมาณน้ำเกินระดับเก็บกัก 147 ล้านลูกบาศก์เมตร

และยังมีแนวโน้มที่จะมีปริมาณน้ำไหลเข้าสูงต่อไปอีกประมาณ 7 วัน รวมทั้งปริมาณน้ำในแม่น้ำชีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปริมาณฝนที่ตกหนักในเขต จ.ขอนแก่น และเขื่อนอุบลรัตน์จะทำการปรับเพิ่มการระบายน้ำ จากวันละ 3 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นวันละ 5 ล้านลูกบาศก์เมตร เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา และจะทยอยปรับเพิ่มเป็น 15 ล้านลูกบาศก์เมตร ในวันที่ 13 ตุลาคม 2566

ADVERTISMENT

นายสำรวยกล่าวอีกว่า ดังนั้นเพื่อความเสถียรภาพของตัวเขื่อน และรองรับปริมาณน้ำที่ไหลเข้าอ่างเก็บน้ำ ทางโครงการจึงมีความจำเป็นจะต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำเป็น 29.58 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน และจะติดตามสถานการณ์ฝนจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากไม่มีแนวโน้มที่จะเกิดพายุหรือฝนตกหนักในพื้นที่โครงการ จะปรับลดการระบายน้ำให้เข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว ทั้งนี้จากสถานการณ์ดังกล่าวที่มีมวลน้ำไหลเข้ามามากกว่าปกติในระยะเวลาสั้นๆ จะเห็นได้ว่าเขื่อนลำปาวได้ทำหน้าที่ในการรองรับ กักเก็บ หน่วงน้ำ และชะลอมวลน้ำจำนวนมหาศาลไว้ เพื่อป้องกันการเกิดอุทกภัยในพื้นที่ท้ายน้ำได้อย่างดี

อย่างไรก็ตามสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.กาฬสินธุ์ รายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมปัจจุบันได้รับผลกระทบ 10 อำเภอ เป็น 2 สถานการณ์ คือ น้ำท่วมด้านเหนือเขื่อน จากระดับน้ำของเขื่อนลำปาวที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นพื้นที่รอบเขื่อนลำปาว และเป็นเอกสารสิทธิสัญญาเช่าของกรมธนารักษ์ ได้รับผลกระทบ 6 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอท่าคันโท อำเภอหนองกุงศรี อำเภอสหัสขันธ์ อำเภอสามชัย อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ และอำเภอห้วยเม็ก รวม 24 ตำบล 134 หมู่บ้าน 3,799 ครัวเรือน มีบ้านเรือนได้รับผลกระทบ 1,299 หลัง ด้านเกษตรได้รับผลกระทบ 29,445 ไร่ ด้านประมง 95 ไร่ และถนน 183 สาย

ADVERTISMENT

ในส่วนสถานการณ์น้ำท่วมด้านท้ายเขื่อน จากการระบายน้ำของเขื่อนลำปาว ได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ อำเภอร่องคำ อำเภอฆ้องชัย อำเภอยางตลาด และอำเภอกมลาไสย รวม 34 ตำบล 263 หมู่บ้าน 7,339 ครัวเรือน บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 876 หลัง ด้านเกษตรได้รับผลกระทบ 61,923 ไร่ ด้านประมง 374 ไร่ และถนน 64 สาย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image