ศรีสะเกษ แรงงานไทยคนแรกซื้อตั๋วเครื่องบินเองหนีตายกลับถึงบ้านเกิดแล้ว ก้มกราบเท้าพ่อแม่ วอนรัฐบาลเร่งการช่วยเหลือแรงงานที่ประเทศอิสราเอลให้เร็วมากกว่านี้ เนื่องจากเมื่อลงทะเบียนแล้วไม่ทราบว่าจะได้บินกลับไทยวันไหนแน่นอน
เมื่อเวลา 20.45 น. วันที่ 16 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านหนองคูเหนือ ต.โพนยาง อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ นายอานนท์ หนุนชู นายอำเภอวังหิน พร้อมด้วย ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวศรีสะเกษ พ.ต.อ.ปรีชา สารถี ผกก.สภ.วังหิน นายสุริยะ สำเภา กำนันตำบลโพนยาง นายสมชาย ศรีทา นายก อบต.โพนยาง และคณะ นำชาวบ้านหนองคูเหนือมารอให้การต้อนรับ นายธนาชัย จันสมุทร อายุ 32 ปี ชาวบ้านหนองคูเหนือที่ไปทำงานด้านการเกษตรอยู่ที่ประเทศอิสราเอล ซึ่งนายธนาชัยได้ซื้อตั๋วเครื่องบินด้วยตนเอง ไม่รอการช่วยเหลือจากรัฐบาลไทยที่จัดส่งเครื่องบินไปรับ และมีกำหนดจะเดินทางกลับมาถึงบ้านในวันนี้ (16 ตุลาคม)
โดยมี นายวิชัย เลิศภัทรนันท์ แรงงานจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย นางทัศนี ขจัดมลทิน จัดหางานจังหวัด นางรังสินี บุญทน สวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน นายชัยรัตน์ ฉัตรศุภกุล ผอ.สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 38 ผู้แทนประกันสังคมจังหวัด พาพ่อแม่และตายายไปรอต้อนรับนายธนาชัยที่สนามบินอุบลราชธานี จากนั้นจะรับนายธนาชัยเดินทางกลับบ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายธนาชัยก้าวลงจากรถตู้ที่ส่วนราชการกระทรวงแรงงานจัดไปรับ ปรากฏว่ามีญาติพี่น้องพากันเข้าไปสวมกอดเพื่อให้การต้อนรับนายธนาชัยอย่างอบอุ่น นายธนาชัยรอดตายจากสงครามและเดินทางกลับมาถึงบ้านอย่างปลอดภัย
จากนั้นนายธนาชัยเดินเข้าไปก้มลงกราบเท้า นายสดชัย จันสมุทร อายุ 55 ปี และ นางทองอินทร์ จันสมุทร อายุ 50 ปี พ่อและแม่ของนายธนาชัย ซึ่งพ่อแม่ได้สวมกอดนายธนาชัยด้วยความรักและห่วงใย จากนั้นพ่อแม่ญาติพี่น้องและคณะทุกคนนำด้ายผูกแขนเพื่อเป็นการต้อนรับนายธนาชัยกลับสู่บ้านเกิด บรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่นมาก
ขณะที่ ดร.กัลยาณี พร้อมด้วยทีมหัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงแรงงานเข้าไปชี้แจงให้นายธนาชัยทราบถึงสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับจากกระทรวงแรงงาน เนื่องจากนายธนาชัยไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
นายธนาชัยกล่าวว่า ไปทำงานที่อิสราเอลตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค.2561 ไปทำงานแล้ว 4 ปีกับอีก 10 เดือน อีกเพียง 5 เดือนก็จะครบตามสัญญา ตนเป็นแรงงานไทยชาวศรีสะเกษคนแรกที่กลับมาถึงบ้านเกิด ดีใจมากที่สามารถเอาชีวิตรอดมาได้ ปกติแล้ววันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ จะเดินทางไปเที่ยวกับพี่เพื่อนใกล้กับฉนวนกาซา แต่วันนั้นนายจ้างสั่งให้ตนมาทำงานในวันเสาร์ซึ่งเป็นวันที่เกิดเหตุการณ์สู้รบพอดี จึงไม่ได้ลงไปกับเพื่อนแรงงานคนอื่นๆ ทำให้ตนโชคดีไม่ได้เข้าไปบริเวณที่มีการสู้รบ
นายธนาชัยกล่าวว่า การซื้อตั๋วเครื่องบินกลับมาเนื่องจากดูสถานการณ์สู้รบแล้วน่าจะไม่ยุติง่าย ข่าวในประเทศไทยก็ออกตลอดทำให้ทางบ้านเป็นห่วงมาก ซึ่งข่าวที่ออกไปตนเห็นว่าคนไทยน่าจะเสียชีวิตมากกว่านี้ อาจจะค้นหายังไม่เจอ เพราะหายไปแบบติดต่อไม่ได้ก็มี ตนซื้อตั๋วเครื่องบินราคา 37,500 บาท หากสงครามสงบแล้วจะไม่กลับไปทำงานอีกอย่างเด็ดขาด เพราะพื้นที่ที่อยู่เสี่ยงมาก ต่อไปภัยการสู้รบอาจจะมาถึงพื้นที่ที่ตนอยู่ได้ โชคดีที่ทหารตำรวจของอิสราเอลสกัดเอาไว้ได้
นายธนาชัยกล่าวต่อไปว่า ทำงานอยู่บริเวณเมืองเนติวูด หากไม่มีทหาร หรือตำรวจของอิสราเอลไปสกัดไว้การสู้รบก็จะถึงแคมป์ของตน แคมป์ที่อยู่ข้างหน้าของตนก็โดนกลุ่มฮามาสบุกเข้ามาไล่ยิงหมดแล้ว ไล่ยิง โดยไม่เลือกว่าเป็นใคร หรือชาติไหน กลุ่มฮามาสที่บุกเข้ามาจะยิงทิ้งหมด
“คนไทยที่อยู่ในแคมป์ด้วยกันก็ขวัญเสียหมดแล้ว ต้องการกลับบ้านมาก แต่บางคนก็ไม่อยากกลับบ้าน เพราะต้องหาเงินไปส่งค่างวดรถ ค่าบ้าน และเป็นเสาหลักในการทำมาหาเลี้ยงครอบครัว หากกลับมาประเทศไทยก็ไม่รู้ว่าจะไปหางานอะไรทำ เอาอะไรกิน ไม่มีงานทำ รายได้ก็อาจจะไม่เยอะเท่ากับทำงานอยู่ที่ประเทศอิสราเอล
“ขอฝากไปถึงรัฐบาลว่าขอให้การช่วยเหลือเร็วกว่านี้ด้วย ให้ช่วยเหลือประชาชนชาวไทยที่อยู่ตรงนั้นให้รีบออกมาเร็วกว่านี้ เนื่องจากแรงงานจำนวนมากไปลงทะเบียนแล้ว ไม่ทราบว่าจะได้บินกลับประเทศไทยวันไหน รัฐบาลจะมารับวันไหน แล้วจะเช็กชื่อตรงไหน
“มีการประกาศจำนวนออกมาว่า 4-5,000 คน เราลงทะเบียนลำดับไหนเราเองก็ยังไม่รู้ ทุกคนต้องการเป็นแบบเรียลไทม์ พอกดลิงก์เข้าไปจะสามารถรู้ได้ทันทีว่าชื่อ หรือเลขบัตรประชาชนเราขึ้นลำดับใดขึ้นมา ซึ่งแรงงานไทยต้องการอยากรู้แบบนั้น เพียงแค่รู้ว่าแรงงานไทย 4-5,000 คนอยากเดินทางกลับไทย แล้วจะตรวจเช็กยังไงว่าจะได้เดินทางกลับวันไหน อยู่ลำดับที่เท่าไร ซึ่งแรงงานไทยจำนวนมากไม่รู้เรื่องนี้ ขอฝากรัฐบาลไทย และต้องขอขอบคุณรัฐบาลไทยที่พยายามประสานงานช่วยเหลือในเรื่องนี้” นายธนาชัยกล่าว
ด้านนางทองอินทร์ แม่ของนายธนาชัย กล่าวว่า ดีใจมากที่ลูกชายเดินทางกลับมาบ้านเกิดได้อย่างปลอดภัย ช่วงเกิดการสู้รบกันที่ประเทศอิสราเอลตนกินไม่ได้นอนไม่หลับ เนื่องจากเป็นห่วงความปลอดภัยของลูกชาย หากการสู้รบที่อิสราเอลสงบแล้วจะไม่ให้ลูกชายกลับไปทำงานที่อิสราเอลอีก ทำมาหากินอยู่ที่บ้านเราเองปลอดภัยกว่า
นางทัศนี จัดหางานจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า นายธนาชัยเดินทางกลับจากประเทศอิสราเอลก่อนสิ้นสุดสัญญา มีสิทธิประโยชน์จากกองทุนบริหารแรงงานต่างประเทศของกรมการจัดหางาน เบื้องต้นจะได้เงินช่วยเหลือฉุกเฉิน จำนวน 15,000 บาท สามารถยื่นติดต่อขอรับเงินได้ที่จัดหางานจังหวัดศรีสะเกษได้เลย วันนี้จัดหางานจังหวัดศรีสะเกษนำเอกสารมาให้ นายธนาชัยได้กรอกข้อมูลและพร้อมจะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้เร็วที่สุด เพราะก่อนหน้านี้ก็ลงมาสัมภาษณ์เพื่อเก็บข้อมูลจากพ่อแม่ของนายธนาชัยเอาไว้แล้ว ส่วนราชการสังกัดกระทรวงแรงงาน จ.ศรีสะเกษ โดยการอำนวยการของ นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผวจ.ศรีสะเกษ มีความห่วงใยมาก จึงได้มอบหมายให้ส่วนราชการสังกัดกระทรวงแรงงานเข้ามาดูแลในเรื่องนี้อย่างเต็มที่
นางทัศนีกล่าวถึงกรณีนายธนาชัยซื้อตั๋วเครื่องบินเดินทางกลับมาเองว่า จากการติดตามข้อมูลข่าวสารแล้วสิทธิที่จะได้รับคือ สามารถเบิกค่าตั๋วเครื่องบินคืนได้จากกระทรวงการต่างประเทศ ค่าเดินทางที่เดินทางมาจากสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อมาถึงบ้าน ในส่วนของนายธนาชัยนี้ทาง ผวจ.ศรีสะเกษได้มอบหมายให้กระทรวงแรงงานจัดรถไปรับที่สนามบินอุบลราชธานีและนำมาส่งที่บ้านเกิด อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ จึงไม่มีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ส่วนค่าตั๋วเครื่องบินจากอิสราเอลมาประเทศไทยเบิกได้แน่นอน ได้แจ้งให้นายธนาชัยเก็บหลักฐานทุกอย่างเอาไว้เพื่อประกอบการเบิกจ่ายเงินค่าตั๋วเครื่องบินคืนให้ต่อไปแล้ว