ชาวสวนลับแลล้มทั้งยืน ไฟป่าผลาญทุเรียนดังกำลังออกดอกผลวอดกว่า 300 ไร่ ร้องทำแนวกันไฟ

วันที่ 18 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธีระ เงินวิลัย ผู้อำนวยการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีไฟไหม้ป่าในเขตพื้นที่ป่าสงวนห้วยปูปลาและห้วยเขาเนียง ระหว่างพื้นที่หมู่ 8 บ้านห้วยใต้ และหมู่ 6 บ้านด่านห้วยใต้ ได้ลุกลามเข้าพื้นที่สวนทุเรียนพันธุ์หลงและพันธุ์หลินลับแล ซึ่งเป็นทุเรียนพันธุ์ที่สร้างชื่อ
เสียงให้กับจังหวัด และสร้างรายได้ให้กับชาวสวนอำเภอลับแลว่า ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้และเจ้าหน้าที่เกษตรอำเภอลับแลพร้อมชาวสวนลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากเหตุการณ์ไฟไหม้ป่าในครั้งนี้ พบพื้นที่ป่าได้รับความเสียหายเป็นจำนวน 2,000 ไร่ พื้นที่การเกษตรของชาวสวนที่ปลูกพืช อาทิ ต้นทุเรียนพันธุ์หลง พันธุ์หลินลับแล รวมถึงต้นลางสาดและต้นลองกอง ได้รับความเสียหายรวมทั้งสิ้น 300 ไร่
นายธีระกล่าวว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นในส่วนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหรือป่าไม้ ทางสำนักงานเตรียมส่งเจ้าหน้าที่เข้าทำการฟื้นฟูป่าหลังได้รับความเสียหายร่วมกับทางอำเภอลับแล ผู้นำท้องถิ่น อบต. เทศบาล กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้าน เนื่องจากพื้นที่ถูกไฟไหม้มีบริเวณกว้างมาก อยู่ในระหว่างประสานงานกับ
ทุกหน่วยงานเพื่อเร่งดำเนินการฟื้นฟูป่าให้กลับมาคงเดิม
ด้านนายสมบูรณ์ นาคบัว ผู้อำนวยการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า ในการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนผลไม้ เบื้องต้นมอบหมายให้ทาง ธ.ก.ส.สาขาลับแล จัดทีมงานเจ้าหน้าที่ตั้งโต๊ะรับเรื่องความเดือดร้อนของชาวบ้านที่ทำการกองทุนหมู่บ้านห้วยใต้หมู่ 8 ซึ่งเป็นลูกค้า ธ.ก.ส. กรณีสวนผลไม้ได้รับความเสียหาย และมีความประสงค์ขอรับการช่วยเหลือ ด้านการขอขยายวงเงินกู้เพื่อการลงทุนเพิ่ม พักหนี้ด้วยการงดชำระเงินกับทางธนาคารชั่วคราวเป็นเวลา 2 ปี หรืองดคิดดอกเบี้ยออกไปประมาณ 5-6 ปี เหตุเพราะพืชผลทางการเกษตรรับความเสียหายและจำเป็นต้องใช้ระยะเวลานาน กว่าผลผลิตจะมีออกสู่ตลาด ทาง ธ.ก.ส.จังหวัดจะนำเรื่องความต้องการของชาวสวนเสนอให้ทาง ธ.ก.ส.ส่วนกลางรับทราบ เพื่อหาทางช่วยเหลือต่อไป เป็นการช่วยเหลือนอกเหนือจากเหตุพิบัติภัยแล้งที่รัฐบาลให้การช่วยเหลืออยู่ เบื้องต้นมีลูกค้ามาลงทะเบียนแล้ว จำนวน 12 ราย จากทั้งตำบล 898 ราย
ขณะที่ นายประวิทย์ หลวงฤทธิ์ อบต.แม่พูล หมู่ 8 กล่าวว่า พื้นที่จำนวน 1 ไร่ ชาวสวนจะปลูกพืชแบบผสมกันระหว่างทุเรียนพันธุ์หลงพร้อมพันธุ์หลินลับแล รวมถึงทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ลางสาด และลองกอง รวมแล้วประมาณ 25-30 ต้น เน้นต้นทุเรียนพันธุ์หลงและพันธุ์หลินมากที่สุด สร้างรายได้มากถึง 300,000 บาทต่อไร่ต่อปี ช่วงนี้ทุเรียนกำลังออกดอกและผลเป็นจำนวนมาก ผลผลิตจะออกสู่ตลาดชุดแรกประมาณเดือนเมษายน-พฤษภาคมนี้ แต่เจอเหตุไฟไหม้เสียก่อน ช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศหนาวจัดปนร้อนที่เปลี่ยนแปลงมาหนหนึ่งแล้ว ดอกร่วงผลผลิตเหี่ยวแห้งคาดออกสู่ตลาดน้อย ครั้งนี้กลับซ้ำหนักถูกเผาวอดทั้งต้น จะหวังรายได้คงไม่มีแถมมีหนี้จากดอกเบี้ยเพิ่มอีกเป็นคราวเคราะห์ซ้ำกรรมซัด บางคนเข้าสวนดูความเสียหายถึงกับเป็นลมล้มทั้งยืนเพราะทำใจไม่ได้ที่ต้องเสียรายได้มหาศาลไป และไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนไปใช้หนี้สินที่มีอยู่
นายประวิทย์ กล่าวว่า ในอดีตชาวสวนเคยประสบพบเจออุทกภัยดินโคลนถล่มมาแล้วปี 2549 ครั้งนี้เจอเหตุไฟไหม้สวนทุเรียน นับเป็นเรื่องเศร้าอีกครั้งหนึ่ง และเป็นบทเรียนที่ยิ่งใหญ่สำหรับชาวสวนทุกคน ที่ต้องหันมาช่วยกันดูแลเรื่องไฟป่า ด้วยการระวังเหตุไม่ให้เกิดไฟป่า สิ่งที่ชาวสวนอยากได้มากที่สุดคือถนนโดยรอบเชื่อมต่อระหว่างบ้านห้วยใต้ หมู่ 8 กับห้วยคำบิ หมู่ 6 ที่ไปบรรจบกับบ้านด่านห้วยใต้ในหมู่บ้านเดียวกัน เหมือนเป็นแนวกันไฟป่าในตัวให้กับป่าไม้ หากมีเหตุไฟป่าเกิดขึ้นอีกการดับไฟจะง่ายและสะดวกขึ้นหลายเท่าตัวเพราะไม่ต้องเดินเท้าไกลหลายกิโลเมตร ทำให้การดับไฟล่าช้าทำให้เสียพื้นที่ป่าเป็นจำนวนมากรวมถึงสวนทุเรียนของชาวบ้านด้วย อยากวิงวอนร้องขอไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ช่วยอนุโลมเรื่องการสร้างถนนเป็นแนวป้องกันไฟป่าให้ชาวสวนด้วย และเพื่อรักษาพื้นที่ป่าไม่ให้ได้รับความเสียหายมากไปกว่านี้อีก