บรรยากาศสุดเศร้า รับร่าง ‘อนุชา’ แรงงานไทยในอิสราเอล กลับถึงบ้านเกิดที่อุดรธานี ญาติพี่น้องรอรับ
จากกรณีกองกำลังฮามาสในปาเลสไตน์ยิงจรวดและบุกโจมตีอิสราเอลทั้งภาคอากาศและภาคพื้นดิน เมื่อเช้าวันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม 2566 ทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก รวมทั้งแรงงานไทยที่ไปทำงานเกษตรในอิสราเอลได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิต และถูกจับเป็นตัวประกัน กระทรวงการต่างประเทศได้นำแรงงานที่ไม่ประสงค์อยู่ต่อกลับประเทศไทยแล้ว 1,560 คน และล่าสุดเช้าวันที่ 20 ตุลาคม ได้นำร่างผู้เสียชีวิต 8 ราย เดินทางกลับถึงประเทศไทย ก่อนนำร่างแยกขึ้นรถตู้ไปส่งให้ญาติถึงภูมิลำเนา
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี เมื่อเวลา 18.22 น. วันที่ 20 ตุลาคม 2566 รถตู้โตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน นจ 3918 นนทบุรี เป็นรถบริษัทสุริยาหีบศพ ซึ่งได้บริการนำส่งร่างแรงงานไทยที่เสียชีวิตในอิสราเอลกลับภูมิลำเนา ได้นำร่าง นายอนุชา โสภากุล อายุ 28 ปี 1 ใน 8 ร่างผู้เสียชีวิตเดินทางกลับมาถึงบ้านเลขที่ 5 หมู่ 10 บ้านเดียม ต.เชียวแหว อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นบ้านเกิด
โดยมี นายปัญญา โสภากุล 46 ปี นางสมพิศ อินทรวิเศษ อายุ 49 ปี นางสนิท โสภากุล อายุ 81 ปี พ่อแม่และย่านายอนุชา ญาติพี่น้อง และชาวบ้านจำนวนมากมารอรับร่าง โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า โดยพ่อและแม่เป็นผู้จุดธูปบอกกล่าวนายอนุชาว่าถึงบ้านแล้ว กลับบ้านแล้วลูก ท่ามกลางเสียงร้องไห้ระงมด้วยความเสียใจ
โดยมี ว่าที่ร้อยโท อนุเทพ ศรีดาวเรือง จัดหางานจังหวัดอุดรธานี ปลัดอำเภอกุมภวาปี ตัวแทนแรงงานจังหวัดอุดรธานี ประกันสังคม จ.อุดรธานี เป็นตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี และรองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี วางพวงหรีดแสดงความเสียใจ โดยมีการมอบเงินกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศจำนวน 40,000 บาท ประกันสังคม 8,000 บาท เนื่องจากนายอนุชาเคยทำงานบริษัทมาก่อน
นายอนุชา ผู้เสียชีวิตเป็นลูกคนโตในจำนวน 3 คน เป็นโสดยังไม่มีครอบครัว เดินทางไปทำงานเกษตรที่ประเทศอิสราเอลได้ 4 ปี ส่งเงินมาจุนเจือครอบครัว ได้ใช้หนี้หมดแล้ว และสร้างบ้านหลังใหม่ 1 หลัง โดยมีแผนว่าเมื่อหมดสัญญาจ้าง 5 ปี เมื่อเดินทางกลับบ้านมาทำไร่นาสวนผสมจะซื้อวัวให้พ่อแม่เลี้ยง ใช้ชีวิตอยู่แบบพอเพียง เนื่องจากตอนที่มีชีวิตอยู่ นายอนุชาเป็นคนนิสัยดี มีจิตอาสา ญาติพี่น้องและชาวบ้าน มักจะมาขอร้องให้นายอนุชาไปอบรมสั่งสอนญาติ หรือเพื่อนบ้านที่เป็นรุ่นน้องที่มีนิสัยเกเร ออกนอกลู่นอกทางให้กลับมาเป็นคนดีของพ่อแม่ ทำให้นายอนุชาเป็นที่รักของชาวบ้าน