ช้างป่าคลั่งเตะลุงกรีดยางซี่โครงหักสาหัส แตกโขลงจากเขาอ่างฤาไนมาไกลถึงทับลาน

ช้างป่าคลั่งเตะลุงกรีดยางซี่โครงหักสาหัส แตกโขลงจากเขาอ่างฤาไนมาไกลถึงทับลาน

เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงานว่า นายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลานรายงานเหตุด่วน นายธานนท์ โสภิตชา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) กรณีช้างป่าทำร้ายประชาชน ในท้องที่หมู่ 1 บ.ทับไทร ต.แก่งดินสอ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ลงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2566 ความว่า …

ด้วยเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2566 เวลาประมาณ 09.30น. เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลาน ได้รับแจ้งเหตุกรณีช้างป่าทำร้ายประชาชน บริเวณแปลงปลูกยูคาลิปตัส ในท้องที่หมู่ 1 บ.ทับไทร ต.แก่งดินสอ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ผ่านกลุ่มสนทนาชื่อ “เครือข่ายอาสาเฝ้าระวังหลักดันช้างป่าอ.นาดี” บนแอพพลิเคชั่นไลน์ โดยมีบัญชีผู้ใช้ชื่อ วน ฤทธิ์รวน เป็นผู้แจ้งข้อมูลภาพการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บพร้อมทั้งตำแหน่งพิกัดจุดปฐมพยาบาล

หลังรับทราบเหตุ นายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน จึงได้สั่งการให้คณะเจ้าหน้าที่ชุดเตรียมความพร้อมนำกำลังเร่งรุดเข้าไปตรวจสอบยังพื้นที่เกิดเหตุ จากการตรวจสอบพื้นที่เบื้องต้นของคณะเจ้าหน้าที่ ทำให้ทราบว่า บริเวณเกิดเหตุ มีตำแหน่งค่าพิกัด WGS84/UTM ที่ 47P 820833 1559046 ซึ่งมีสภาพเป็นแปลงปลูกยูคาลิปตัส ภายในบริเวณชุมชนบ้านทับไทร โดยขณะนี้ผู้บาดเจ็บได้ถูกนำตัวไปยังโรงพยาบาลนาดี ทราบชื่อภายหลังว่าคือ นายทวีป นามสกุล นามธรรม อายุ 50 ปี ประกอบอาชีพ รับจ้างกรีดยางพารา และพักอาศัยอยู่ภายในกระท่อม/เพิงพัก ในบริเวณสวนยางพาราในพื้นที่

Advertisement

ซึ่งขณะเกิดเหตุ นายทวีปได้รวมกับ “ชุดอาสาสมัครเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า-บ้านทับไทร” ออกปฏิบัติภารกิจผลักดันช้างป่า โดยจัดวางกำลังภายในชุดอาสาฯ ออกเป็นแนวยาวและจุดประทัด เพื่อสร้างเสียงกดดันไม่ให้ช้างป่า ที่ในห้วงก่อนหน้าได้เข้าหากินในบริเวณเขตชุมชนบ้านท่าสะตือ และกำลังถูกผลักดันออกเขตชุมชนบ้านท่าสะตือ โดยมีทิศทางการผลักดันมุ่งหน้ามายังบริเวณเขตชุมชนบ้านทับไทร

ซึ่งในจังหวะการเผชิญหน้าระหว่าง “ชุดอาสาสมัครเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า-บ้านทับไทร” และช้างป่า ซึ่งถูกผลักดันและติดตามโดย “ชุดอาสาสมัครเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า-บ้านท่าสะตือ” นั้น นายทวีปซึ่งประจำยังตำแหน่งที่มีการเผชิญหน้าก็ได้ทำการเข้าผลักดันช้างป่าตัวดังกล่าวเข้าไปยังบริเวณแปลงปลูกยูคาลิปตัส แต่ช้างป่าได้เกิดอาการตกใจจากการถูกล้อมกดดัน จึงหันเข้าทำร้าย นายทวีป ที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่คณะอาสาสมัครจากทั้งสองหมู่บ้านจะช่วยกันขับไล่และนำตัวนายทวีปออกจากจุดเกิดเหตุ พร้อมทั้งแจ้งเจ้าหน้าที่ “ชุดกู้ภัย-อบต.แก่งดินสอ” เพื่อทำการช่วยเหลือและปฐมพยาบาล ก่อนนำส่งโรงบาลนาดี เพื่อทำการตรวจประเมินอาการบาดเจ็บ โดยคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

อย่างไรก็ตาม ผลจากการตรวจสอบเพิ่มเติมของคณะเจ้าหน้าที่ ทำให้ทราบว่า ช้างป่าตัวดังกล่าวยังคงเดินวนเวียนอยู่ภายในบริเวณชุมชนบ้านท่าสะตืออยู่ คณะเจ้าหน้าที่จึงประสานไปยังผู้นำชุมชนให้ทำการประกาศแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ พร้อมทั้งทำการบินสำรวจ/ค้นหาตำแหน่งของช้างป่าด้วยอากาศยานไร้คนขับ (UAV) เพื่อวางแผนทำการผลักดันช้างป่าตัวดังกล่าวกลับคืนสู่พื้นที่ป่าธรรมชาติ

Advertisement

ขณะนี้คณะเจ้าหน้าที่ ซึ่ง ประกอบด้วยผู้นำชุมชน อุทยานแห่งชาติทับลาน อุทยานแห่งชาติปางสีดา เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน พยายามที่จะตรวจสอบว่าช้างป่าดังกล่าวเป็นช้างป่าที่ออกมาจากป่าทับลาน หรือเป็นช้างป่าที่เดินมาจากพื้นที่ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการวางแผนแก้ไขปัญหาต่อไป ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าประการใด จะเร่งแจ้งให้ทราบโดยด่วน ต่อไป

และกล่าวเพิ่มเติมว่า ภายหลังรับแจ้งเรื่องกรณีช้างป่าทำร้ายนายทวีป นามธรรม ประชาชนในท้องที่ ม. 1 บ.ทับไทร ต.แก่งดินสอ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ขณะทำการผลักดันช้างป่าใตพื้นที่ นั้น

ทั้งนี้ จากการประสานไปยังญาติผู้ป่วยเพื่อสอบถามความคืบหน้าเรื่องของอาการผู้บาดเจ็บ ทราบในเบื่องต้นว่า เมื่อชุดกู้ภัย-อบต.แก่งดินสอ นำส่งผู้บาดเจ็บยังโรงพยาบาลนาดี อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งทางโรงพยาบาลได้ทำการรับตัวและนำส่งผู้ป่วยไปต่อยังโรงพยาบาลกบินทร์บุรีอย่างเร่งด่วน

โดยคณะเจ้าหน้าที่เขตอุทยานแห่งชาติทับลานได้เดินทางติดต่อเข้าเยี่ยมอาการผู้บาดเจ็บยังโรงพยาบาลกบินทร์บุรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี กับทางญาติผู้ป่วย ในเวลา 12.00 น. ซึ่งต่อมาภายหลักเข้ารับการดูแลรักษาและประเมินอาการ อยู่ราว 2 – 3 ชั่วโมง คือเมื่อเวลา 14.40 น. โรงพยาบาลกบินทร์บุรี จึงทำการส่งตัวผู้บาดเจ็บไปเข้ารับการรักษาตัวโดยด่วน ณ โรงพยาบาลชลบุรี อ.เมือง จ.ชลบุรี เพื่อเข้ารับการรักษากับคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าประการใด จะเร่งแจ้งให้ทราบโดยด่วน ต่อไป

เวลา 17.00 น. ผู้สื่อข่าว รายงานเพิ่มเติม ผู้ที่ถูกช้างทำร้ายไปกับเพื่อน 2 คน แยกตัวจากเจ้าหน้าที่คนละฝั่งคลอง ขณะช้างวิ่งเข้าเตะเพื่อน เพื่อนอีกคนวิ่งหนีออกมาจากป่ายูคาบนถนนในหมู่บ้าน ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 20 เมตรร้องขอความช่วยเหลือจากชุดจิตอาสา

จากนั้นจึงจุดประทัดไร่ช้างออกจากจุดเกิดเหตุ แล้วเข้าไปหามร่างผู้ได้รับบาดเจ็บออกมาบนถนนได้เป็นผลสำเร็จ รถกู้ชีพอบต.แก่งดินสอมารับตัวผู้บาดเจ็บนำตัวส่งโรงพยาบาลนาดี สภาพผู้ได้รับบาดเจ็บถูกช้างเตะบริเวณลำตัวร่างกายเต็มไปด้วยโคลนเนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่น้ำขัง ทราบชื่อนายประทีป ทำนาม อายุ 50 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 5 หมู่ 14 ต.ลำนางรอง อ.โดนแดง จ.บุรีรัมย์ โดยนายประทีปมารับจ้างกรีดยางในหมู่บ้าน

นายไพรัช ฤาประสิทธิ์ เจ้าหน้าที่กู้ชีพอบต.แก่งดินสอกล่าวว่า เมื่อช่วงสายที่ผ่านมาได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านว่ามีชาวบ้านถูกช้างทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงไปรับตัวมารักษาที่โรงพยาบาล ผู้ได้รับบาดเจ็บได้รับบาดเจ็บที่บริเวณกราม และถูกช้างเตะและใช้เท้าเขี่ยไปมาอยู่ในโคลนซี่โครงหัก แพทย์ได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและนำผู้ได้รับบาดเจ็บไปเอกซเรย์ และนำตัวส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลกบินทร์บุรีในเวลาต่อมาโดยซี่โครงหัก 3 ซี่

ได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุพบกับนายวิชัย คงทน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 กล่าวว่าหลังจากได้รับแจ้งว่าช้างทำร้ายชาวบ้าน จึงแจ้งผู้ใหญ่บ้านและจัดชุดเฝ้าระวังออกตรวจสอบ ตนเองพร้อมพวกได้ติดตามช้างออกมาจากจุดเกิดเหตุ 2 กิโลเมตรและเห็นตัวช้างอยู่ในป่ายางพารา ยังไม่ทันตั้งตัวช้างออกมาจากป่ายางพารา ซึ่งตนเองได้จอดรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ yamahaสีแดงพึ่งออกมาใหม่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ช้างส่งเสียงร้องและวิ่ง 3-4ก้าวตรงเข้าเตะรถจักรยานยนต์ของตัวเองที่จอดอยู่บนถนนคอนกรีตกระเด็นหมุนคว้างออกไป 4 เมตร ตนตกตะลึง เห็นรถมอเตอร์ไซค์ลอยคว้างออกไปจอดอยู่แต่ไม่ล้ม และช้างได้วิ่งหนีเข้าป่ายางพาราทันที

ต่อมานายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลานได้นำกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานฯ กว่า 10 นายลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมใช้โดนจับความร้อนบินสำรวจแต่ยังไม่พบตัวช้างตัวดังกล่าว เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้ร่วมกับทางฝ่ายอำเภอนาดี และตำรวจกว่า 50 นาย แกะรอยช้างที่อยู่ในป่ายางข้างบ้านเรือนประชาชน แต่ก็ไม่พบตัวช้างตัวดังกล่าวแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่แกะรอยและกระจายกำลังรอบหมู่บ้านเกรงว่าชาวบ้านจะได้รับอันตราย และได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้ว

ขณะเดียวกันทีมผลักดันช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ได้มาร่วมสมทบเนื่องจากได้ติดตามช้างป่าฝั่งอ่างฤาไน 4 ตัว ซึ่งยังหาตัวไม่พบในขณะนี้ ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าช้างป่าที่ทำร้ายชาวบ้านได้รับบาดเจ็บสาหัส เป็นช้างจากอุทยานแห่งชาติทับลานหรือเป็นช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างหรือไน

และขณะนี้ได้เฝ้าระวังและติดตามหาตัวช้างให้พบ ทราบว่าขณะกระจายกำลังแกะรอยช้างป่าตัวดังกล่าว ได้รับแจ้งว่าช้างป่าตัวดังกล่าวได้ลงน้ำในคลองซึ่งมีน้ำในปริมาณมากลอยตามคลองไปท้ายหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่กำลังติดตามแกะรอยยางใกล้ชิด

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image