ไม่สน..ชาวนาพิมายเริ่มลักลอบจุดไฟเผาตอซังข้าวหลังเก็บเกี่ยวเสร็จแล้ว สร้างความเดือดร้อนหนัก
วันที่ 20 พฤศจิกายน จังหวัดนครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีการลักลอบจุดไฟเผาตอซังข้าวของชาวนาบางรายในพื้นที่บ้านน้อย ตำบลในเมือง อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา โดยเผาบริเวณกลางทุ่งส่งผลให้มีไฟลุกไหม้ตอซังข้าวเกิดกลุ่มควันไฟลอยโขมง ปกคลุมท้องฟ้าเป็นบริเวณกว้าง ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับเดือดร้อน โดยเฉพาะผู้ที่ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจได้รับผลกระทบอย่างหนัก อาทิ ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ซึ่งเป็นมลพิษที่เกิดขึ้นจากการเผา แม้ว่าทางจังหวัดนครราชสีมา จะออกหนังสือประกาศห้ามเผาในช่วงฤดูหนาวต่อเนื่องฤดูแล้งทุกปี และขอความร่วมมือเกษตรกรและประชาชนทุกพื้นที่ งดเผาเศษซากพืชหรือวัชพืช และเศษวัสดุทางการเกษตร โดยให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชุมชน ประชาสัมพันธ์ผ่านหอกระจายข่าว เพื่อให้ประชาชนรวมถึงเกษตรกรรู้ถึงผลเสียที่เกิดขึ้น โดยให้ทุกพื้นที่กำหนดข้อตกลง กติกา ข้อบังคับ กฎระเบียบ และบทลงโทษผู้ที่ลักลอบเผาเศษซากพืชและเศษวัสดุ และหากพบผู้กระทำผิดจะต้องรับโทษตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด แม้ในพื้นที่อำเภอพิมายจะประกาศรณรงค์และเตือนชาวนาให้หยุดการเผาตอซัง เพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 และมีมาตรการขั้นเด็ดขาดเอาผิดกับผู้ลักลอบจุดไฟเผาตอซังข้าวแล้ว แต่ยังพบการลักลอบเผาตอซังข้าวอย่างต่อเนื่อง สร้างฝุ่นละอองปกคลุมไปทั่ว มีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก
นางสาวรัตติกาล กันทะอุโมงค์ อายุ 37 ปี หนึ่งในชาวบ้านอำเภอพิมายที่ได้รับความเดือดร้อน กล่าวว่า มีเกษตรกรลอบจุดเผาตอซังบ่อยครั้ง สร้างมลพิษทางอากาศ ฝุ่นควันเหม็นกระจายไปทั่ว เศษเขม่าที่เกิดจากการเผายังลอยตามลม ไปติดข้าวของอื่นๆ และเสื้อผ้าที่ตากไว้ด้วย จึงอยากให้เพื่อนเกษตรกรหันไปอัดฟางขายแทนการจุดไฟเผาจะดีกว่า เพราะไม่สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน แถมยังได้เงินอีกด้วย
ขณะเดียวกัน ทางกำนันและผู้ใหญ่บ้าน ยังคงเดินหน้าขอความร่วมมือเกษตรกรงดจุดไฟเผาตอซังข้าวและประกาศเสียงตามสายผ่านหอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน ขอให้ทุกหมู่บ้านงดจุดไฟเผาตอซังข้าว หรือเผาขยะริมทาง เพราะสะเก็ดไฟอาจปลิวไปตามกระแสลม แล้วไปตกตามบ้านเรือนทำให้เกิดอัคคีภัยขึ้นได้ อีกทั้งช่วงหน้าหนาวกระแสลมจะค่อนข้างแรงถ้าเผาและป้องกันไม่ดี อาจเกิดไฟป่าลามไหม้เป็นบริเวณกว้างได้ จึงขอให้ทุกบ้านปฏิบัติตามคำแนะนำกันอย่างเคร่งครัด
