เจ้าอาวาสวัดดัง หอบเงินกฐิน 7 แสนหนี ติดหนี้ชาวบ้านอีก 4 ล้าน ดอดขึ้นบัสหายตัวเงียบ
จากกรณีเจ้าหน้าที่การเงินของวัดแห่งหนึ่งใน ต.ดอนกำยาน อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรีว่า วันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีวัดแห่งหนึ่งได้มีการทอดกฐินสามัคคี ได้ยอดเงินจำนวน 717,186.75 บาท ต่อมาเจ้าอาวาสวัดดังกล่าว ซึ่งยังเป็นเจ้าคณะตำบลด้วย ได้นำเงินไปฝากธนาคารแห่งหนึ่ง สาขาสุพรรณบุรี โดยปกติต้องนำเงินดังกล่าวเข้าบัญชีของวัด ต่อมาในช่วงเย็นวันที่ 17 พฤศจิกายน ได้ตรวจสอบยอดเงินในบัญชีเงินฝากธนาคารแห่งหนึ่งของวัด โดยนำสมุดไปปรับดูยอดเงิน ปรากฏว่าไม่มีเงินกฐินเข้าบัญชีวัดแต่อย่างใด หลังจากนั้น ก็ไม่สามารถติดต่อเจ้าอาวาสดังกล่าวได้ จึงเชื่อว่าเงินกฐินของวัดอยู่ที่เจ้าอาวาส จึงได้แจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินการตามกฎหมาย
ต่อมานายจิตรติ รามเนตร รักษาการนายอำเภอเมืองสุพรรณบุรี และคณะ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าหายตัวไปจริง และไม่สามารถติดต่อได้ ส่วนชาวบ้านผู้เสียหายกว่า 30 รายที่ให้เจ้าอาวาสยืมเงินส่วนตัวเพื่อทำนุบำรุงวัด รวมเป็นเงินประมาณ 4 ล้านบาท เริ่มทยอยออกมาให้รายละเอียด ขอให้เจ้าอาวาสนำเงินมาคืนพวกตน
ความคืบหน้า วันที่ 21 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังวัดดังกล่าว บรรยากาศที่วัดยังเงียบ มีเพียงชาวบ้านบางส่วนและพระลูกวัดที่อยู่ประจำวัด ส่วนใหญ่ไม่ทราบอะไร และไม่ให้สัมภาษณ์
ต่อมานายจิตรติ รามเนตร รักษาการนายอำเภอเมืองสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ประชุมชาวบ้านในพื้นที่ รวมทั้งชาวบ้านที่ให้เจ้าอาวาสยืมเงินไปพัฒนาวัด ไปเมื่อช่วงเย็นวันที่ 20 พฤศจิกายนและมอบหมายให้ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกับพระเลขาฯ ดำเนินการรับแจ้งรวบรวมข้อมูลความเสียหาย โดยทำบัญชีระบุรายชื่อ ที่อยู่ และจำนวนเงินที่ได้ให้กู้ยืม พร้อมพยานหลักฐานการกู้ยืม (ถ้ามี) จากนั้นที่ประชุม ได้พิจารณาด้วยมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยความเห็นชอบร่วมกัน โดยได้กำหนดให้นัดหมายประชุมติดตามกันอีกครั้ง ในวันที่ 30 พฤศจิกายน เวลา 13.30 น. ณ วัดบางปลาหมอ ในระหว่างนี้เราอาจจะมีข้อมูลข้อเท็จจริงมากขึ้น โดยวันที่ 30 พฤศจิกายน จะเชิญหน่วยงานที่รับผิดชอบ ในเรื่องของระเบียบกฎหมาย เช่น อัยการ สำนักงานยุติธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด และศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ มาคุยให้คำแนะนำชาวบ้านในเรื่องของการที่ชาวบ้านให้เจ้าอาวาสยืมเงิน ถ้าจะดำเนินคดีจะต้องทำอย่างไร เตรียมหลักฐานอะไรบ้าง
ส่วนด้าน นางกานดา สุนทรพิพัฒน์ ชาวบ้านในพื้นที่กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เจ้าอาวาสวัดยืมเงินตนไป 30,000 บาท จะนำไปเป็นค่าใช้จ่ายภายในวัด ทำศาลาการเปรียญ และบอกว่าหลังกฐินจะให้ พอหลังประมาณวันที่ 14 พฤศจิกายน ได้ทวงถาม และได้คืนมา 6,000 บาท หลังจากนั้นก็ไม่อ่านไลน์ ปิดเฟซ ติดต่อไม่ได้อีกเลย ส่วนที่ตนให้ยืมเพราะเห็นว่าท่านเป็นพระที่พัฒนาวัด ไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสียอะไร ชาวบ้านรักใคร่ศรัทธา ก็คิดว่าจะนำเงินมาพัฒนาวัด และเจ้าอาวาสบอกว่าถ้าได้เงินกฐินก็จะนำมาคืนให้ ตนก็เลยให้ยืม และที่ผ่านมาตนเคยให้ยืมไปครั้งหนึ่ง ก็นำมาคืน เลยคิดว่าครั้งนี้ก็น่าจะได้คืน พอติดต่อไม่ได้ ก็ตกใจมาก ไม่นึกว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเพราะเป็นถึงเจ้าอาวาส เจ้าคณะตำบล
เรื่องของคดี พ.ต.อ.ธัชชัย ทิพเนตร ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างพนักงานสอบสวนเรียกสอบพยานที่เกี่ยวข้องต่างๆ ทั้งคณะกรรมการวัด และชาวบ้านที่เจ้าอาวาสยืมเงินประมาณ 30 ราย และชุดสืบสวนติดตามเจ้าอาวาสเพื่อมาให้ปากคำข้อเท็จจริง ว่าเข้าข่ายคดีอาญาหรือไม่ เมื่อสอบปากคำพยานครบทุกปาก และถ้าเข้าข่ายก็จะดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากลงพื้นที่สอบถามชาวบ้าน ส่วนใหญ่ยังศรัทธาเจ้าอาวาสองค์ดังกล่าว เพราะพัฒนาวัดจนเจริญ ไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสีย ช่วยเหลือสังคมทุกด้าน ที่ผ่านมาก็ทำนุบำรุงวัด สร้างศาลาวัด หอสวดมนต์ เมรุใหม่ เวลาท่านมาขอยืมเงินชาวบ้าน 50,000-100,000 บาท ชาวบ้านก็ให้ ไม่ต้องมีหนังสือสัญญา ให้ยืมปากเปล่าเลย เพราะคิดว่าท่านทำเพื่อวัด เราก็ยินดีกัน พอทราบเรื่องตกใจกันหมด ใช่หรือ จริงหรือ เบื้องต้นก็ยังคิดว่าท่านจะกลับมา ก็ให้เวลาหน่อย สักสิ้นเดือน อย่าเพิ่งไปฟันธง ให้โอกาสเขากลับมา ส่วนปัญหาในครั้งนี้ เจ้าอาวาสไม่เคยเล่าให้ใครฟังถึงปัญหาส่วนตัวแต่อย่างใด ส่วนเรื่องจะมีปัญหาหนี้สินอะไรนั้น คงต้องรอให้ทางเจ้าอาวาสมาชี้แจงต่อไป
ส่วนล่าสุด ได้มีภาพวงจรปิด ที่สถานี บขส.สุพรรณบุรี เห็นภาพขณะเจ้าอาวาสคนดังกล่าว เดินทางมาที่ บขส.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน เวลา 13.30 น. ก่อนที่ชาวบ้านผู้เสียหายจำนวนมากจะนำเรื่องไปแจ้งความ หลังติดต่อเจ้าอาวาสคนดังกล่าวไม่ได้อีกเลย จนถึงขณะนี้
ต่อมาในช่วงเย็นวันที่ 17 พฤศจิกายน ได้ตรวจสอบยอดเงินในบัญชีเงินฝากธนาคารแห่งหนึ่งของวัด โดยนำสมุดไปปรับดูยอดเงิน ปรากฏว่าไม่มีเงินกฐินเข้าบัญชีวัดแต่อย่างใด
หลังจากนั้น ก็ไม่สามารถติดต่อเจ้าอาวาสดังกล่าวได้ จึงเชื่อว่าเงินกฐินของวัดอยู่ที่เจ้าอาวาส จึงได้แจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินการตามกฎหมาย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เจ้าอาวาสวัดดัง โร่พบ ตร. ยันไม่ได้หอบเงินหนี แค่ไปพักสมอง 2-3 วัน นัดชี้แจงทุกคน 25 พ.ย.นี้