หลานชายเสพยานรกจนคลุ้มคลั่ง ชักปืนจ่อยิงตาเสียชีวิต
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 30 พฤศจิกายน ร.ต.อ.เอกวิทย์ น่วมทอง รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านด่านลานหอย จ.สุโขทัย รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิตในหมู่ 4 ต.วังน้ำขาว อ.บ้านด่านลานหอย จ.สุโขทัย จึงรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นทราบ จากนั้นรุดไปตรวจสอบ พร้อม พ.ต.อ.กิตติพล หลวงใหญ่ ผกก., ชุดสืบสวน, แพทย์เวรจาก รพ.บ้านด่านลานหอย
ที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตสวมเสื้อยืดแขนยาวสีฟ้า กางเกงวอร์มสีดำ ทราบชื่อคือ นายประดิษฐ์ อายุ 68 ปี เจ้าของบ้าน นอนหงายจมกองเลือด มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ชายโครงซ้าย 1 นัด แพทย์ตรวจชันสูตรระบุว่าคมกระสุนถูกอวัยวะสำคัญ ส่วนมือปืนได้หลบหนีไป ทราบชื่อคนร้ายคือ นายยศภัทร อายุ 24 ปี หลานชายแท้ๆ ของผู้ตาย
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายยศภัทร ซึ่งตกเป็นทาสยาบ้า มีปากเสียงกับคนในบ้านจนเกิดอาการคลุ้มคลั่ง ทำลายข้าวของจนตาไล่ลงไปจากบ้าน แต่ปรากฏว่าขณะที่ผู้ตายกำลังจะเดินไปที่รถไถซึ่งจอดไว้หน้าบ้าน นายยศภัทรยังยืนเอะอะโวยวายอยู่ด้านล่างได้เดินปรี่เข้ามา พร้อมกับชักอาวุธปืนไม่ทราบขนาดจ่อยิงไปที่ผู้ตาย 1 นัด จนล้มลง ก่อนจะวิ่งหลบหนีไปพร้อมกับอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ

เจ้าหน้าที่ติดตามเส้นทางหลบหนีจนทราบรายละเอียดและทิศทางหลบหนีของมือปืน พร้อมมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนติดตามจับกุมตัวนายยศภัทรมาดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาต่อไป
ต่อมา ครอบครัวผู้เสียชีวิตเตรียมสถานที่จัดงานสวดพระอภิธรรมให้แก่นายประดิษฐ์ที่บ้านหลังเกิดเหตุ นางวรรณ อายุ 66 ปี ภรรยาของผู้เสีชีวิตและเป็นยายของผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ทั้งตนและสามีเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่แบเบาะ หลานชายเริ่มติดยาตั้งแต่ ป.5 แล้ว งานการไม่ทำ เสพแต่ยาบ้า มักจะมาขอเงินไปซื้อยา บางครั้งก็มาขโมยข้าวที่ตนเก็บเอาไว้ในยุ้งฉางจนหมด ต้องเอากุญแจมาล็อก
นางวรรณกล่าวว่า ล่าสุดเขาโมโห หาว่าดูดข้าวได้แล้วไม่ให้เขา เลยขึ้นไปทะเลาะบนบ้าน จะเอาปืนมายิงยายแต่ลูกสาว (แม่ของหลาน) ห้ามไว้ เขาก็โมโหเตะข้าวของกระจาย ก่อนจะลงไปอาละวาดต่อที่ด้านล่าง ส่วนตาก็ลงจากบ้านเพื่อจะไปเอาหญ้าให้วัว ก็มีปากเสียงกันต่ออีก ไม่มีใครคิดว่าหลานจะชักปืนยิงตา 1 นัด ตาร้องโอยแล้วก็สิ้นใจ หลานคนนี้เคยทำร้ายร่างกายตนบ่อยๆ ทั้งบีบคอ ขู่จะฆ่า ครั้งนี้เกินจะให้อภัย อยากให้เจ้าหน้าที่นำตัวไปลงโทษให้ถึงที่สุด
ด้าน นางมาลัย อายุ 46 ปี แม่ของมือปืน เล่าทั้งน้ำตาว่า ลูกติดยาอย่างหนักจนตนต้องติดกล้องวงจรปิดเพื่อคอยดูพฤติกรรม เมื่อคืนตนนั่งรถทัวร์มาจากกรุงเทพฯกลับบ้านตั้งใจจะพาลูกชายไปเลิกยาเสพติด เพราะลูกติดยามา 10 กว่าปีแล้ว เคยขอความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งแจ้งความว่าลูกชายพยายามทำร้ายตากับยายและพยายามฆ่า เจ้าหน้าที่ก็ได้แค่จับไป 2-3 วันก็ปล่อยตัวกลับมาอีก ไม่คิดว่าการกลับมาบ้านครั้งนี้จะต้องมางานศพพ่อแทน