ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาปะช้าง-แหลมขาม ช่วยชีวิตวาฬเบลน์วิลล์ เพศเมีย ตัวใหญ่กว่า 4 เมตร น้ำหนักกว่า 500 กก. ถูกคลื่นซัดมาเกยตื้นริมหากปากบางสะกอม คาดอาจพลัดหลงฝูง หรือบาดเจ็บ จึงถูกคลื่นในหน้ามรสุมซัดมาเกยหาด เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือปฐมพยาบาลแล้ว อาการทรงตัว
เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวานนี้ (2 ธันวาคม) ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาปะช้าง-แหลมขาม อ.เทพา จ.สงขลา ช่วยกันพยุงร่างวาฬตัวหนึ่งที่ลอยมาเกยตื้นบริเวณชายหาดปากบางสะกอม อ.เทพา ให้ลงสู่ทะเลอีกครั้ง ปรากฏว่า เมื่อวาฬว่ายออกไปได้ประมาณ 500 เมตร ก็วนกลับเข้าหาฝั่งอีกครั้ง คาดว่าน่าจะอ่อนแรงและอาจจะบาดเจ็บ ประกอบกับคลื่นลมในทะเลที่ค่อนข้างแรงเป็นระยะ เนื่องจากยังอยู่ในช่วงมรสุมของภาคใต้ จึงถูกคลื่นซัดกลับเข้าหาฝั่งอีกครั้ง
เบื้องต้นมีการประสานเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เข้ามาช่วยดูแลวาฬตัวนี้แล้ว
จากการตรวจสอบพบว่า เป็น วาฬเบลน์วิลล์ (Blainville’s beaked Whale) ชื่อวิทยาศาสตร์ Mesoplodon densirodtris เพศเมีย ความยาวลำตัว 4 เมตร ขนาดรอบลำตัว 2 เมตร น้ำหนักประมาณ 500 กก. สัตวแพทย์ และเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่างทำเปลผ้าใบพยุงร่าวาฬให้ลอยอยู่ในน้ำได้ และใช้ผ้าชุบน้ำคลุมรักษาความชุ่มชื้นของผิวหนัง คอยรดน้ำให้ความชื้นบริเวณครีบหลัง และลำตัว พร้อมกับสับเปลี่ยนกันเฝ้าดูอาการตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งจนถึงวันนี้ (3 ธันวาคม) อาการวาฬยังทรงตัว และหากอาการดีขึ้นก็จะปล่อยกลับคืนสู่ท้องทะเล
สำหรับ วาฬเบลน์วิลล์ ปกติจะอยู่เพียงลำพัง หรือเป็นคู่ แต่อาจรวมฝูง 3-7 ตัว โดยมีเพศผู้เพียงตัวเดียว และเพศเมียหลายตัว และมีการแพร่กระจายค่อนข้างกว้างในเขตร้อนและเขตอบอุ่น ส่วนมากจะพบไกลฝั่งบริเวณที่มีน้ำลึกประมาณ 200-1,000 ม. ประเทศไทยพบเพียงตัวอย่างเดียวเกยตื้นที่บ้านอ่าวน้ำบ่อ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2554 หรือเมื่อ 12 ปี