ผู้ว่าฯปราจีนบุรีลงพื้นที่ พบโขลงช้างป่าฤาไนกว่า 130 เชือกบุกข้ามถิ่น เตรียมผลักดันกลับ
กรณีที่มีเหตุการณ์โขลงช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนจำนวนมากกว่า 130 เชือก ออกนอกเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ข้ามฝั่งจากแปดริ้ว หรือ จ.ฉะเชิงเทรา เข้าไปในพื้นที่ทำกินของชาวบ้านซึ่งเป็นไร่อ้อย บริเวณหมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 11 ต.วังท่าช้าง เขตรอยต่อกับ ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี สร้างความเสียหายให้แก่เกษตรกรและชาวบ้านเป็นอย่างมาก
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มอบหมายให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ประสานร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
ในวันนี้ (6 ธ.ค.66) นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี, นางมาละนี จินดารัตน์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปราจีนบุรี ร่วมกับ สำนักงาน กอ.รมน.จังหวัดปราจีนบุรี องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อบต.วังท่าช้าง อบต.เขาไม้แก้ว ได้ลงพื้นที่ บ้านวังกวาง หมู่ที่ 11 ตำบลวังท่าช้าง ที่พบโขลงช้างมาทำลายพืชผลการเกษตรมากว่า 1 สัปดาห์แล้ว เพื่อรับทราบข้อมูลจากหน่วยงานและชุมชนในพื้นที่เพื่อแก้ปัญหาต่อไป จากการใช้โดรนขึ้นสำรวจ ยังพบฝูงช้างอยู่ในป่าอ้อยของชาวบ้าน
ในช่วงบ่ายมีการสนธิกำลังจากสำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) จำนวน 100 นาย และสำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) จำนวน 100 นาย องค์การบริหารส่วนตำบลวังท่าช้างและองค์การบริหารส่วนตำบลเขาไม้แก้ว 50 นาย รวมทั้งสิ้น 250 นาย ลงพื้นที่ที่พบช้างเพื่อผลักดันช้างออกจากพื้นที่ต่อไป
นายประยูร สมโภช นายก อบต.เขาไม้แก้ว กล่าวว่า ทำการผลักดันและนำปัญหาจากทีมงานจิตอาสาที่ทำการผลักดัน และมีปัญหาที่มีการผลักดันสวนกลับมา ในส่วนเรื่องของการเยียวยาให้แก่เกษตรกรที่ช้างต้องผ่าน เกษตรกรให้เราผลักดันช้างกลับพื้นที่ ก็ขอฝากให้ประชาชนเฝ้าระวังเรื่องของช้างและจะต้องจัดฝึกอบรมในวิธีการที่ชาวบ้านต้องมีความรู้ว่า ถ้าช้างมาและพบกับช้างแล้วต้องทำอย่างไรบ้าง และมีจิตอาสาที่คอยเฝ้าระวังทั้งกลางวันและกลางคืนและช่วยกันผลักดัน