อุทาหรณ์เด็กโคราช เล่นปืนลูกดอกยิงหนูกับเพื่อน พลาดทำลูกดอกเสียบใบหน้า เจ็บสาหัส แพทย์ดูแลใกล้ชิด
เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 14 ธ.ค. มูลนิธิพุทธธรรม ฮุก 31 นครราชสีมา ฝ่ายกู้ภัย ได้รับการประสานจากห้องช่วยชีวิตฉุกเฉิน รพ.มหาราชนครราชสีมา ขอรับการสนับสนุนอุปกรณ์เครื่องตัดพลาสม่า (ตัดด้วยระบบลม) ช่วยเด็กชายถูกลูกดอกเจาะข้างโหนกแก้มเข้าบริเวณใกล้เคียงโซนระบบประสาท จึงนำอุปกรณ์เครื่องตัดพลาสม่า พร้อมทีมกู้ชีพกู้ภัย ฮุก 31 เข้าสนับสนุน
เมื่อไปถึง รพ.มหาราชฯ พบเด็กชายที่ได้รับบาดเจ็บ ชื่อ เด็กชายวันวรุณ (สงวนนามสกุล) ตรวจสอบที่บริเวณใบหน้าและดูฟิล์มเอกซเรย์ พบว่า ส่วนหัวของลูกดอกยิงหนู เจาะทะลุที่ขมับด้านซ้าย ปักทแยงเยื้องไปทางโหนกแก้ม หวิดโดนลูกตาและสมอง โดยลูกดอกยังปักคาอยู่ โผล่ให้เห็นเฉพาะส่วนก้านและหางลูกดอกเท่านั้น ซึ่งลูกดอกยิงหนูทำจากเหล็กเส้น มีความยาวประมาณ 2 ฟุต จึงวางแผนกับทีมเพื่อตัดปลายลูกดอกออกให้ปลอดภัยที่สุด เพื่อไม่ให้หัวศรของดูกดอกที่ยังปักคาอยู่ภายในกระทบอวัยวะที่สำคัญไปมากกว่านี้ เมื่อวางแผนเรียบร้อย จึงนำผ้ามาคลุมปิดบริเวณใบหน้าป้องกันไม่ให้สะเก็ดไฟที่เกิดจากการตัดเหล็กกระเด็นถูกใบหน้าจนเป็นบาดแผลเหลือเฉพาะบริเวณที่มีปลายลูกดอกโผล่ออกมาเท่านั้น จากนั้นนำอุปกรณ์เครื่องตัดพลาสม่า มาตัดส่วนก้านและปลายลูกดอกออก ก่อนส่งต่อให้คณะแพทย์นำผู้ได้รับบาดเจ็บเข้าเครื่องซีทีสแกนอีกครั้งเพื่อดูบาดแผล ก่อนทำการผ่าตัดเอาส่วนที่เหลือออก
ซึ่งนายชัยสิทธิ์ ภูผารัตน์ หัวหน้าหน่วยกู้ภัยฮุก 31 นครราชสีมา เปิดเผยว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ทราบเบื้องต้นจากแพทย์ รพ.ห้วยแถลงว่า พ่อแม่ของเด็กชายเป็นผู้นำส่งรักษาที่ รพ.เอง โดยแจ้งว่า เป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นขณะเด็กชายกำลังเล่นกับเพื่อน และน่าจะหยิบลูกดอกยิงหนูของผู้ปกครองออกมาเล่นกัน แต่เกิดยิงพลาดลูกดอกกระเด็นปักไปที่ใบหน้าของเด็กชายได้รับบาดเจ็บ รพ.ห้วยแถลงไม่มีอุปกรณ์ช่วยเหลือที่เพียงพอ จึงรีบส่งต่อมายัง รพ.มหาราชนครราชสีมา เพื่อผ่าเอาลูกดอกออกโดยเร็ว เพราะเคสนี้มีความอันตรายมากกว่าเคสที่เคยเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ เนื่องจากครั้งนี้ ผู้บาดเจ็บยังเป็นเด็ก อายุประมาณ 10 ปีเท่านั้น อีกทั้งครั้งนี้ โชคดีที่ไม่โดนโซนระบบประสาทและสมอง ซึ่งเด็กมีอาการหวาดกลัว ตกใจ และเจ็บที่บาดแผลอย่างมาก ร้องไห้หาพ่อแม่ตลอดเวลา กู้ภัยจึงต้องใช้ความระมัดระวังมากที่สุด แต่ก็ใช้เวลาตัดลูกดอกออกอย่างรวดเร็ว เพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น เพื่อให้กระทบกับบาดแผลน้อยที่สุด โดยตอนนี้เด็กอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดแล้ว
