ผปค.แบกไม่ไหว เลิกส่งลูกเรียนเอกชน ยอดลดฮวบ ร.ร.รายเล็กอยู่ไม่ได้ปิดตัวต่อเนื่อง

นายกสมาคมโรงเรียนเอกชนโคราช เผยหลังโควิดนักเรียนลดลงฮวบ โรงเรียนเอกชนขนาดเล็กปิดตัวต่อเนื่อง หวั่นรัฐขึ้นเงินเดือนครู และขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ได้รับผลกระทบหนัก วอนรัฐบาลช่วยเหลือความเดือดร้อน

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 16 ธันวาคมที่ห้องเอ็มซีซีฮอลล์ ชั้น 3 ห้างสรรรพสินค้าเดอะมอลล์ นครราชสีมา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้เป็นประธานในพิธีเปิดมหกรรมการศึกษาเอกชนจังหวัดนครราชสีมา ครั้งที่ 1 หรือ “KORAT EDUCATION EXPO 2023” โดยมีผู้ร่วมพิธีเปิดงาน ประกอบไปด้วย นายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา, นายมณฑล ภาคสุวรรณ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน, นายชาญวิทย์ ทับสุพรรณ อดีตผู้ตรวจราชการ กระทรวงศึกษาธิการ, ดร.สุภชัย จัมปุ่ม ศึกษาธิการภาค 13, นายกฤตพล ชุติกุลกีรติ ศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา, ผศ.ดร.ศุภเสฏฐ์ คณากูล นายกสมาคมสถานศึกษาเอกชน จังหวัดนครราชสีมา, ครู, ผู้ปกครอง และนักเรียนโรงเรียนเอกชนในพื้นที่ จ.นครราชสีมา กว่า 150 แห่ง

สำหรับงานมหกรรมการศึกษาเอกชนจังหวัดนครราชสีมา ครั้งที่ 1 หรือ “KORAT EDUCATION EXPO 2023” จัดขึ้นโดยสมาคมสถานศึกษาเอกชน จ.นครราชสีมา ระหว่างวันที่ 16-17 ธ.ค.66 โดยจัดขึ้นพร้อมกันใน 3 ห้างดังของโคราช ได้แก่ เดอะมอลล์ นครราชสีมา, เซ็นทรัลพลาซ่า นครราชสีมา และเทอร์มินอล 21 นครราชสีมา ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านวิชาการ การเรียนการสอน ระหว่างโรงเรียนภาคเอกชนด้วยกัน พร้อมกับเป็นการเปิดโอกาสให้มีการต่อยอดความรู้ในทุกมิติ สู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของชาติในอนาคต

Advertisement

โดย ผศ.ดร.ศุภเสฏฐ์ คณากูล นายกสมาคมสถานศึกษาเอกชน จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ตั้งแต่สถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ก็ทำให้โรงเรียนภาคเอกชนที่ได้รับผลกระทบในช่วงโควิด-19 ลดลง เนื่องจากผู้ปกครองของนักเรียน สามารถไปทำงานหาเงินจ่ายค่าเทอมบุตรหลานที่เข้าโรงเรียนเอกชนได้ จากเดิมที่ผู้ปกครองเคยค้างจ่ายค่าเทอมโรงเรียนเอกชนทั่วประเทศ เป็นเงินกว่า 1 หมื่นล้านบาท ถึงอย่างไรก็ตามจำนวนนักเรียนที่เข้าเรียนในโรงเรียนเอกชน ก็ยอมรับว่าลดลงกว่า 20,000 รายเลยทีเดียว โรงเรียนเอกชนขนาดเล็กจึงอาจจะอยู่ไม่ได้ ส่วนโรงเรียนขนาดกลางและขนาดใหญ่ พออยู่ได้ แต่ก็ต้องปรับตัวอย่างหนัก โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีการจัดการเรียนการสอนใหม่ๆ เข้ามาใช้เพิ่มขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของโลกยุคปัจจุบัน

ส่วนกรณีที่รัฐบาลได้มีการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการทั่วประเทศ โดยเฉพาะข้าราชการครู ซึ่งทางโรงเรียนภาคเอกชนก็ยึดตามนโยบายของรัฐบาลอยู่แล้ว ปัจจุบันเงินเดือนปริญญาตรี 15,000 บาท ในช่วงต้นปีหน้า ก็ปรับขึ้นเป็น 16,500 บาท ซึ่งรัฐบาลก็ต้องจัดสรรเงินช่วยเหลือส่วนนี้ด้วย ขณะที่การปรับขึ้นเงินเดือนอีกรอบในช่วงเดือนพฤษภาคม 2568 วุฒิปริญญาตรี เป็น 18,000 บาท ตอนนี้ทางกระทรวงศึกษาธิการ ก็กำลังพิจารณา เพื่อเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม.เพื่อของบกลางมาอุดหนุนต่อไป ดังนั้นเรื่องขึ้นเงินเดือน ถ้ารัฐบาลให้เงินช่วยเหลืออุดหนุนก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่จะมีปัญหากับเงินค่าแรงขั้นต่ำของผู้ที่ไม่ใช่ข้าราชการครู

เนื่องจากโรงเรียนเอกชนแต่ละแห่งก็จะมีลูกจ้างรายวันจำนวนมาก ถ้ามีการปรับขึ้นเงินค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งแต่ละพื้นที่ก็จะขึ้นไม่เท่ากัน ก็อาจจะทำให้โรงเรียนเอกชนได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก รวมทั้งเรื่องของค่าอาหารกลางวันโรงเรียนเอกชน ซึ่งทุกวันนี้ยังได้ไม่ถึง 100% ดังนั้นจึงอยากฝากถึงรัฐบาลให้พิจารณาช่วยเหลือแก้ปัญหาเรื่องเหล่านี้ด้วย

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image