ดีเอสไอ ตรวจพบใช้หลักฐานเท็จยื่นขอออกโฉนดที่ดินในเขตนิคมสหกรณ์คลองท่อม จ.กระบี่ กว่า 1,200 ไร่
เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ร.ต.อ.สมัคร จันทร ผู้อำนวยการส่วนคดี ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 1 กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมคณะพนักงานสืบสวน ลงพื้นที่ประสานงานกับเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดิน อำเภอคลองท่อม กรณี กรมส่งเสริมสหกรณ์มีหนังสือขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พิจารณาดำเนินการตรวจสอบหนังสือแสดงการทำประโยชน์ (กสน.5) ในพื้นที่สหกรณ์คลองท่อมจังหวัดกระบี่ จำนวน 316 ฉบับ ซึ่งกรมส่งเสริมสหกรณ์ตรวจพบว่ามีการออกโดยชอบด้วยกฎหมาย อาจมีการนำไปใช้ในการออกโฉนดที่ดินในเขตนิคมสหกรณ์คลองท่อมโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายด้วย ซึ่งจากการลงพื้นที่เบื้องต้นพบว่า มีการนำเอกสาร กสน.5 ดังกล่าว จำนวน 45 ฉบับ ไปประกอบในการยื่นขอออกโฉนดที่ดิน สำหรับหนังสือแสดงการทำประโยชน์ (กสน.5) ส่วนที่เหลืออีกจำนวน 271 ฉบับ คณะพนักงานสืบสวนได้มีหนังสือประสานขอความร่วมมือไปยังสำนักงานที่ดินจังหวัดกระบี่ สาขาคลองท่อม ขอตรวจสอบโฉนดที่ดินและสารบบที่ดินเพิ่มเติม โดยได้ส่งคณะพนักงานสืบสวนเข้าไปบูรณาการกับเจ้าหน้าที่ของสำนักงานที่ดินจังหวัดกระบี่ สาขาคลองท่อม เพื่อร่วมกันตรวจสอบพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้ว
ร.ต.อ.สมัคร จันทร ผู้อำนวยการส่วนคดี ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 1 กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากกรมสอบสวนคดีพิเศษโดยกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ ได้ดำเนินการสอบสวนกรณีการทุจริตและยักยอกทรัพย์ในชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จำกัด โดยตรวจพบว่ามีการนำที่ดินในเขตนิคมสหกรณ์คลองท่อม ซึ่งเป็นที่ดินของหลวงที่ไม่อาจซื้อขายกันได้ ไปขายให้กับชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จำกัด ทำให้สมาชิกสหกรณ์จำนวนมากได้รับความเสียหาย ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้เข้าตรวจสอบพบว่ามีการปลอมเอกสารหนังสือแสดงการทำประโยชน์ (กสน.5) ในเขตนิคมสหกรณ์คลองท่อมเป็นจำนวนมากถึง 316 ฉบับ รวมเนื้อที่ที่ดินกว่า 1,200 ไร่ โดยเป็นการปลอมในกรณีต่างๆ เช่น การแก้ไขรายละเอียดในหนังสือแสดงการทำประโยชน์ (กสน.5) ได้แก่ การแก้ไขจำนวน เนื้อที่ ชื่อผู้ครอบครอง รูปที่ดิน เลขที่หนังสือ เป็นต้น หรือการเป็นสมาชิกนิคมสหกรณ์คลองท่อม จำกัด แต่ไม่ได้เป็นสมาชิกนิคมสหกรณ์คลองท่อม หรือแม้แต่การปลอมเอกสารทั้งฉบับโดยไม่ได้ออกโดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นต้น
กรมส่งเสริมสหกรณ์จึงได้มีหนังสือขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษทำการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว และอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษมีคำสั่งให้ทำการสืบสวนเนื่องจากเป็นเรื่องที่กระทบต่อทรัพยากรคือที่ดินของรัฐว่ามีเหตุที่จะรับไว้ดำเนินการสอบสวนตามพระราชบัญญัติการสอบสวนกรณีพิเศษ พ.ศ.2547 หรือไม่ มีความคืบหน้าเป็นประการใดจะแจ้งให้ทราบต่อไป
