ชาวสวนหนองคายทำเงินตลอดปี ปลูกไผ่-ตะไคร้ ใช้น้ำน้อย มียอดสั่งต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ จากสถานการณ์ภัยแล้งนับวันจะมีความรุนแรงมากขึ้นทุกปี ทำให้เกษตรกรในเขตบ้านนาพิพาน ต.ปะโค อ.เมือง จ.หนองคาย ได้หันมาปลูกไผ่เลี้ยง ซึ่งเป็นพืชที่ใช้น้ำน้อยและให้ผลผลิตตลอดทั้งปี นอกจากขายหน่อแล้วยังสามารถขายลำต้น และต้นพันธุ์ สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรได้ตลอดทั้งปี นอกจากนี้ ยังได้มีการปลูกพืชอีกหลายชนิด โดยเฉพาะพืชที่นำไปเป็นเครื่องแกง สร้างรายได้เสริมให้กับเกษตรกรได้ดีอีกทางหนึ่ง

นายสุวพิษ ศรีวงษ์ อายุ 58 ปี กล่าวถึงสาเหตุที่ปลูกไผ่เลี้ยงว่า ไผ่เป็นพืชที่ใช้น้ำน้อย จะมีการใช้น้ำบ้างในช่วงที่ต้องการเร่งให้มีการออกหน่อ โดยเฉพาะในช่วงเดือนมีนาคม-สิงหาคม ที่หน่อไม้ราคาดี ราคา 60-70 บาทต่อกิโลกรัม จากนั้นในเดือนกันยายน ราคาก็จะเริ่มถูกลง ก็จะเริ่มพักต้น แต่ถ้าจะให้ออกตลอดก็ได้อยู่ที่การบำรุง แต่จะเป็นผลเสีย คือหน่อจะมีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ หากไม่มีการพักต้น และที่สำคัญหากต้นแม่อายุได้ประมาณ 2-3 ปี ต้องมีการตัดออก ไม่เช่นนั้นจะมีการออกดอกและยืนต้นตายได้

นายสุวพิษกล่าวต่อไปว่า ขณะนี้นอกจากจะขายหน่อไม้แล้ว ยังมีการขายต้นพันธุ์ด้วย โดยมีเกษตรกรทั้งชาวไทยและชาวลาวเข้ามาติดต่อซื้อต้นพันธุ์เป็นจำนวนมาก ซึ่งจะมีการตัดตอออกชำเพื่อทำต้นพันธุ์ขาย ขณะนี้ผลิตตอพันธุ์ไม่ทัน เพราะมีการสั่งแต่ละครั้งในปริมาณมาก ๆ ล่าสุดมีการสั่งมากถึง 3,000 ตอพันธุ์ ทำให้ต้องเก็บหน่อไม้ไว้เพื่อใช้ทำตอพันธุ์ให้มากขึ้น ซึ่งตอพันธุ์จะเป็นที่นิยมมากกว่าการใช้ตาพันธุ์ เนื่องจากปลูกเพียง 8 เดือนก็จะให้หน่อไม้แล้ว นอกจากหน่อ ตอพันธุ์ จะขายได้แล้ว ในส่วนของลำต้นก็ขายได้เช่นกัน จะขายตามขนาด 2-3 บาทต่อต้น

201602191156105-20041020104302

ADVERTISMENT

ในเรื่องของตลาดนั้น นายสุวพิษกล่าวว่า ไม่ต้องเป็นห่วง มีทั้งที่ต้มแล้วนำไปขายเองที่ตลาด และมีแม่ค้า-พ่อค้ามาซื้อถึงสวน และถ้าผลผลิตออกมามาก ก็จะแปรรูปเป็นหน่อไม่ดอง เก็บไว้ขายได้ตลอดทั้งปี ซึ่งในส่วนของตนนั้นมีเนื้อที่ปลูกไผ่ประมาณ 3 ไร่ ทำเป็น 2 แปลง ในช่วงที่ออกหน่อจะมีการเก็บหน่อทุกวัน โดยสลับแปลงในการเก็บหน่อ ในแต่ละวันจะเก็บได้ประมาณ 40-60 กก./ ไร่ สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรที่ปลูกเป็นอย่างดี

นายสุวพิษกล่าวในตอนท้ายว่า นอกจากปลูกไผ่เลี้ยงแล้ว ยังอยากให้แนะนำเกษตรกรว่าอย่าแห่ปลูกพืชตามกัน เนื่องจากจะทำให้ราคาตก แต่ให้ปลูกพืชให้หลากหลายชนิด โดยเฉพาะพืชที่ใช้ทำเครื่องแกง เช่น ตะไคร้ ขิง ข่า และใบมะกรูด เป็นต้น ซึ่งจะสามารถขายได้ตลอดทั้งปีเช่นกัน สามารถสร้างได้เสริมให้เกษตร ในช่วงที่ปลูกชนิดอื่นยังไม่ให้ผลผลิต หรือช่วงที่พักต้น ได้เป็นอย่างดี