หนุ่มเสพยาหลอนกลัวคนมาทำร้าย จุดไฟเผาบ้านป้า อ้างส่งสัญญาณให้ตำรวจมาช่วย
เมื่อเวลา 12.43 น. วันที่ 3 มกราคม 2567 ขณะที่ ร.ต.อ.วิฆเนศ ซื่อตรง รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังตำรวจสายตรวจ 191 ชุดอินทรีย์ ออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบ รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทองว่า มีเหตุชาวบ้านพบกลุ่มควันลอยออกจากบ้านหลังหนึ่งใน ซ.อดุลยเดช 8 ชุมชนทุ่งมั่ง ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงออกไปตรวจสอบพร้อมด้วย จนท.ปภ.ทน.อุดรธานี นำรถดับเพลิง จำนวน 3 คัน รุดตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ พบนางคำภา อายุ 71 ปี เจ้าของบ้าน และนางกองศรี อายุ 63 ปี พร้อมด้วย นางละเอียด อายุ 65 ปี น้องสาวเจ้าของบ้าน นำเจ้าหน้าที่เข้าไปดับไฟที่กำลังลุกไหม้เสื้อผ้าในภาชนะเครื่องครัวต่างๆ บริเวณชั้นล่าง โดยใช้เวลาประมาณ 5 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ก่อนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจะเคลียร์พื้นที่ นำถังแก๊สบนชั้น 2 ออกมาจากบ้าน เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดการระเบิด
พร้อมกับนำเศษชิ้นส่วนเสื้อผ้าที่ถูกไฟไหม้ ออกมากองที่หน้าบ้าน เพราะเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ก่อนพบตัวนายวิโรจน์ หรือต้อย อายุ 41 ปี หลานชายเจ้าของบ้าน ที่อยู่ในอาการหลอนยาในครัวหลังบ้าน ตำรวจควบคุมตัวออกมาหน้าบ้าน พบตามตัวผู้ก่อเหตุมีน้ำมันพืชทั่วตัว และเล่าในอาการหลอนยาว่า ลื่นล้มทับขวดน้ำมันพืช ไม่ได้ใช้น้ำมันพรางตัวแต่อย่างใด ส่วนถังแก๊สตนยกขึ้นไปบนบ้านในห้องนอนเพื่อใช้บังตัวเองเท่านั้น
ผู้ก่อเหตุให้การว่า กลัวเจ้าของยาบ้ามาทวงยาบ้าคืน และทำร้ายร่างกาย หรือตามมาฆ่า หลังจากเมื่อ 4 วันที่ผ่านมา เก็บยาบ้าในถังขยะหน้าบ้านได้จำนวนหลายเม็ด และวันนี้เสพไป 2 เม็ด ส่วนที่เหลือเผาทิ้งหมดแล้ว (เผาคือการเสพยาบ้า) สาเหตุที่เผาเสื้อผ้าในภาชนะเครื่องครัวนั้น เป็นเพียงการส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือจากตำรวจให้มาช่วย
นางคำภา เจ้าของบ้านเล่าว่า ขณะเกิดเหตุตนอยู่ที่ตลาดบ้านห้วย แม่ผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นน้องสาวคนเล็กโทรไปบอกว่า หลานชายหลอนยาจุดไฟเผาเสื้อผ้าในบ้าน โชคดีที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาดับทัน ไม่รู้จะพูดยังไง ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ถึงแม่จะป่วย ตนก็ไม่เอาแล้ว จะเอาไปไหนก็เอาไป เพราะวันๆ เอาแต่กินเหล้ากินยา เวลาเมาแล้วก็อาละวาด และระรานคนไปทั่ว ขนาดบ้านตนเป็นคนสร้างให้น้องสาวอยู่อาศัยกับครอบครัว ก็ยังกล้าทำถึงขนาดนี้ ส่วนตนไปอาศัยกับน้องสาวอีกคนที่บ้านหลังเล็กที่อยู่ข้างหลังบ้านเกิดเหตุ
ด้านนางกองศรี แม่ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ตนมีลูกสาวและลูกชายรวม 2 คน คนก่อเหตุเป็นลูกชายคนเล็ก และแยกทางกับภรรยามาหลายปีแล้ว หลังมีลูกชายด้วยกัน 1 คน โดยบ้านหลังนี้เป็นบ้านพี่สาวที่ให้ตนอยู่อาศัย ลูกชายติดเสพยาบ้าและดื่มเหล้าขาวหนักมาประมาณ 1 ปีกว่า หลังกลับมาอยู่บ้าน เมื่อก่อนทำงานอยู่ที่ จ.ระยอง กระทั่งเมื่อ 3-4 วันที่ผ่านมา สังเกตเห็นลูกชายมีอาการหลอน เดินเอะอะโวยวายรอบบ้าน ไม่ยอมหลับนอน บอกสอนอะไรก็เถียง แต่ไม่ทำร้ายใคร
ขณะตนทำงานเป็นแม่บ้านอยู่ปั๊มน้ำมันในตัวเมืองอุดรธานี เพื่อนบ้านโทรไปบอกว่าบ้านมีควันไฟลอยออกมา จึงรีบมาดู ก็พบว่าเป็นฝีมือลูกชาย รู้สึกเสียใจ อยากให้ตำรวจช่วยนำตัวไปรักษาอาการให้หาย ก่อนปล่อยตัวกลับมาบ้าน และคิดว่าพี่สาวคงไม่เอาความหลานชาย แต่ก็ขึ้นอยู่กับกฎหมายของบ้านเมือง
ร.ต.อ.วิฆเนศ ซื่อตรง รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า ถึงแม้ว่าแม่ผู้ก่อเหตุ และป้าเจ้าของบ้านจะไม่เอาเรื่อง แต่ผู้ก่อเหตุถือว่าเป็นบุคคลอันตราย ซึ่งตามขั้นตอนการจับกุม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมต้องลงบันทึกจับกุมตัว เพราะเป็นเหตุซึ่งหน้า โดยแจ้งข้อกล่าวหา “วางเพลิงเผาทรัพย์คนอื่น และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย” ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป