เฒ่าวัย 80 แทงหนุ่มรุ่นลูกดับคาที่ ตื่นมาบนโรงพักถึงกับงง เกิดอะไรขึ้น
เมื่อวันที่ 21 มกราคม พ.ต.อ.สุมิตร นันสถิตย์ ผกก.สภ.ศรีบุญเรือง พร้อม พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ อัครฮาต รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ศรีบุญเรือง พ.ต.ท.ประวิทย์ อุลานันท์ รอง สว.(สอบสวน) ร้อยเวร สภ.ศรีบุญเรือง และ นายสุรัตน์ กอดแก้ว ทนายความ ร่วมกันสอบปากคำ นายจุ้ย อันนคร วัย 80 ปี บ้านเลขที่ 22 หมู่ 5 บ้านโนนประดู่ ต.หนองแก อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู หลังฟื้นจากฤทธิ์สุราเมื่อคืนที่ผ่านมา ถามตนเองมานอนที่โรงพักได้อย่างไร
สืบเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อคืนวันที่ 20 มกราคม 2567 เวลาประมาณ 23.45 น. พ.ต.ท.ประวิทย์ อุลานันท์ รอง สว.(สอบสวน) ร้อยเวร สภ.ศรีบุญเรือง ขณะที่ปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวรสอบสวน รับแจ้งจากศูนย์วิทยุศรีบุญเรือง ว่ามีเหตุคนในหมู่บ้านโนนประดู่ นอนอยู่ชาวบ้านคิดว่าเมาจึงจะปลุกให้ไปนอนเพราะว่าเป็นเวลาดึกแล้ว เพราะปกติเมาแล้วจะนอนไม่เป็นที่ ชาวบ้านเห็นว่าดึกและอากาศหนาว เลยไปปลุกให้กลับบ้าน แต่เมื่อชาวบ้านจะแบกขึ้นบ่าเห็นบริเวณหน้าท้องมีอะไรเป็นก้อนๆ ตุงขึ้นมาภายในเสื้อที่สวมใส่ เมื่อชาวบ้านถลกเสื้อขึ้นพบลำไส้โผล่ออกมาจากท้องและเสียชีวิตแล้วซึ่งคาดว่าเสียชีวิตไปแล้วร่วม 2 ชั่วโมง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบพร้อมแจ้งแพทย์เวรโรงพยาบาลศรีบุญเรือง รุดไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ บริเวณลานหน้าบ้านเลขที่ 24 หมู่ 5 บ้านโนนประดู่ ซึ่งเจ้าของบ้านได้จัดให้มีการทำบุญอุทิศหาญาติที่เสียชีวิต โดยมีแค่เครื่องเสียงเปิดกันภายในบ้านไม่มีมหรสพอื่น หากแต่ชาวบ้านจะมีเครื่องเปิดเพลงและเครื่องดื่ม อาหารรับประทานกันตั้งแต่เช้าจรดเย็น
ซึ่งภายในงานมี นายวิญญู เนียงอาชา อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/2 ม.5 คนบ้านโนนประดู่ เป็นคนที่ชอบดื่มเหล้าซึ่งชาวบ้านจะให้สมญานามว่าขี้เมาประจำหมู่บ้าน ทุกๆ เช้าจรดเย็นจะมีอาการมึนเมาตลอดทั้งวัน เป็นภาพที่ชาวบ้านจะเห็นชายคนนี้เมาสุราตลอด สุดที่ชาวบ้านจะด่าว่าอย่างไร เป็นเรื่องปกติ พฤติการณ์ก่อนเหตุที่จะเสียชีวิต
ทางด้าน นายจุ้ย อันนคร พ่อเฒ่าวัย 80 ปี มือมีดให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ปกติตนเองจะไปนอนอยู่ชายทุ่ง พอดีทราบว่าวันนี้ภายในหมู่บ้านมีงานอุทิศหาผู้เสียชีวิตของคนในบ้านเดียวกัน เมื่อเวลาประมาณเที่ยงวันตนเองก็เข้ามาบ้านงาน ชาวบ้านก็ได้นำอาหารและเครื่องดื่มมาให้กินตามปกติ และภายในงานได้มีนายวิญญู เนียงอาชา เมาเอะอะโวยวายตามปกติ แต่ก็ไม่มีใครสนใจ
เมื่อช่วงค่ำๆ ผู้ตายก็ได้มาพูดจาก่อกวนตนเองและคนในวงของชาวบ้าน แต่ก็ไม่มีใครให้ความสนใจ และในเวลาดึกๆ ก็ได้มากระชากกระเป๋าสะพาย (เป้) ที่ตนคล้องไหล่ไปไร่นาเป็นประจำ เพื่อจะเอาบุหรี่และกระเป๋าเงินของตนไป ตนก็อยากได้สิ่งของคืนมา ในขณะนั้นตนก็เมาได้ที่เหมือนกัน เพราะไม่ดื่มเหล้ามาร่วม 8 ปี ก็เลยเมาพอสมควร สุดท้ายตนก็จำไม่ได้ว่าทำอะไรลงไปบ้าง ในขณะที่ในกระเป๋าเป้ของตนจะมีมีดปลายแหลมเล็กๆ ประมาณ 6 นิ้วที่พกติดตัวเวลาไปไหนมาไหน ใช้สำหรับปอกผลไม้หรือตัดสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน และจำไม่ได้ว่าใช้มีดแทงนายวิญญูผู้ตายไปกี่ครั้ง และปกติตนกับผู้ตายก็ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางอะไรกัน
ในช่วงดึกๆ คนในหมู่บ้านก็ไม่มีใครทราบข่าวว่านายวิญญูเสียชีวิตด้วยสาเหตุอะไร และหลังจากมีการยื้อแย่งกันเสร็จแล้วนั้น ชาวบ้านก็โทรไปหาลูกสาวของนายจุ้ย อันนคร ให้มารับไปนอนเพราะเห็นว่าเมาหนักพอสมควร จนดึกๆ ชาวบ้านเห็นนายวิญญู เนียงอาชา นอนอยู่บริเวณลานหน้าบ้านก็ไม่มีใครคิดว่าจะถูกแทงเสียชีวิต เพราะปกติถ้าเมาแกก็จะนอนไม่เลือกที่จนเป็นเรื่องปกติ
จนเมื่อเวลาประมาณ 23.30 น.ชาวบ้านมาปลุกนายวิญญ เนียงอาชา ไปนอนบ้าน ก็ทราบว่าเสียชีวิตแล้ว จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาตรวจสอบที่เกิดเหตุและแพทย์เวรได้มาชันสูตรศพพบถูกแทงด้านหลังและด้านหน้าท้อง ในขณะที่ชาวบ้านก็แปลกใจทำไมไม่เห็นเลือดออกมาก ก่อนที่กู้ภัยมังกรศรีบุญเรือง จะนำร่างของผู้ตายไปส่งพิสูจน์การเสียชีวิตอีกครั้งที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จังหวัดขอนแก่น
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ศรีบุญเรือง ได้รุดไปตรวจสอบพร้อมสอบพยานที่เห็นเหตุการณ์ และคาดว่าคู่กรณีน่าจะเป็นนายจุ้ย อันนคร จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้รุดไปตรวจสอบที่บ้านของผู้ก่อเหตุภายในหมู่บ้านโนนประดู่ เพื่อหาของกลาง ซึ่งนายจุ้ย อันนคร สะพายกระเป๋าเป้ไปมาตลอด พบคราบเลือดที่มีดในกระเป๋าสะพาย จึงนำมาเก็บเป็นหลักฐาน พร้อมนำตัวมาสอบปากคำ ซึ่งมีอาการเมายังไม่สร่าง ที่เป็นผู้ต้องสงสัยมาควบคุมตัวไว้ ก่อนที่เจ้าตัวจะฟื้นจากอาการเมาและมาสอบปากคำร่วมกับลูกสาว และทนายความ ตามระเบียบ
โดยเบื้องต้น ผู้ก่อเหตุรับสารภาพกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าได้ก่อเหตุใช้มีดแทงผู้ตายจริงเพราะพลั้งเผลอ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย หรือโดยไม่มีเหตุอันสมควร หรือพาไปในที่ชุมนุมชน ที่ได้จัดให้มีขึ้นเพื่อการรื่นเริงหรือการอื่นใด ก่อนนำตัวผู้ก่อเหตุส่งพนักงานสอบสวนเวร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป