ไกล่เกลี่ยค่าเสียหาย 2.5 ล.ไม่ลงตัว ศาลเลื่อนอ่านคำพิพากษาคดีหมวดจรูญฟ้องครูปรีชา ทนายตั้มลั่นต้องมีคนติดคุก

หวย 30 ล้านอลเวง ยังสู้อีกยาว ไกล่เกลี่ยค่าเสียหาย 2.5 ล้าน ไม่ลงตัว ศาลเลื่อนนัดอ่านคำพิพากษา 20 มี.ค. ทนายตั้มลั่นครูปรีชาต้องติดคุก

ความคืบหน้ากรณีศาลนัดอ่านคำพิพากษาในคดีที่ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ ได้ยื่นฟ้อง ครูปรีชา กับนายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความส่วนตัว ในข้อหาหรือฐานความผิด “ร่วมกันเอาความอันเป็นเท็จฟ้องผู้อื่นต่อศาลว่ากระทำความผิดอาญา”

ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. นางสาวรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น และนางสาวพัชริดา พรมตา หรือเจ๊พัช ได้เดินออกมาจากประตูศาลจังหวัดกาญจนบุรี โดยเจ๊บ้าบิ่นได้แจ้งกับทางสื่อมวลชนว่า ศาลได้เลื่อนออกไป วันนี้ไม่ได้พิพากษาใดๆ เนื่องจากทางครูปรีชาใคร่ครวญ ได้รับสารภาพว่าเป็นการแจ้งความเท็จ ทำให้ศาลต้องเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 20 มีนาคม ส่วนเรื่องการไกล่เกลี่ยค่าเสียหายวงเงิน 2.5 ล้านบาทนั้น ตนกับเจ๊พัชไม่เกี่ยวข้องด้วย เพราะคงไม่มีเงินไปจ่าย เป็นเรื่องคนที่ทำอะไรไว้จะทราบดี และเรื่องการจ่ายพวกตนก็ไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย

“เราคงไม่สามารถไปก้าวล่วงคำตัดสินของศาล แต่ความจริงเรารู้อยู่แก่ใจว่า ใครผิด ใครถูก ในคดีนี้ แต่เราไม่สามารถที่จะพูดได้ แต่ในอนาคตก็ขอให้เป็นไปตามเวรตามกรรม”

Advertisement

ต่อมา นายวรยุทธ บุญวงษ์ใส ทนายความ และเป็น 1 ในจำเลยที่ถูกหมวดจรูญฟ้อง ได้เดินลงออกมาจากศาลเป็นรายที่ 3 พร้อมเปิดเผยว่า วันนี้ศาลท่านยังไม่ได้อ่านคำพิพากษา เนื่องจากว่าคู่กรณีไม่สามารถตกลงกันได้ ศาลท่านจึงส่งสำคำพิพากษาไปที่ภาคเพื่อร่างคำพิพากษาเสียก่อนและได้มีการเลื่อนอ่านคำพิพากษาอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 20 มี.ค.67 ซึ่งวันนี้ศาลท่านยังไม่ได้อ่านคำพิพากษาจึงยังไม่ทราบว่าใครผิดถูกอย่างไร

หมวดจรูญ-ทนายตั้ม

สำหรับกระบวนการไกล่เกลี่ยที่ยังไม่ลงตัวนั้นอยู่ที่เรื่องเงินเพียงอย่างเดียว เนื่องจากหากมีเงิน จำนวน 2.5 ล้านบาทมาให้ลุงจรูญก็พร้อมที่จะรับ แต่ปรากฏว่าครูปรีชาไม่สามารถที่จะนำเงินมาชำระได้ เมื่อเป็นเช่นนั้นจึงทำให้หมวดจรูญไม่ประสงค์ที่จะเจรจาอีกต่อไป ส่วนตัวตนไม่ขัดข้องหากคู่กรณีทั้งสองฝ่ายจะยอมเจรจากัน

ถามว่าคดีที่ถูกฟ้องจะส่งผลกระทบหรือไม่ในฐานะที่เป็นทนาย นายวรยุทธตอบว่าคงไม่ส่งผลกระทบอะไรและผมยังเชื่อมั่นในวิชาชีพของทนายความอยู่ การที่ผมต้องมาถูกฟ้องดำเนินคดีก็ทำในฐานะหน้าที่วิชาชีพของทนายความ

Advertisement

นายษิทรากล่าวว่า วันนี้มีทั้งหมด 3 คดี คดีแรกคือคดีที่ลุงจรูญฟ้องครูปรีชากับทนายวรยุทธ ในความผิดฐาน “ร่วมกันเอาความอันเป็นเท็จฟ้องผู้อื่นต่อศาลว่ากระทำความผิดอาญา” ซึ่งคดีนี้ศาลนัดอ่านคำพิพากษาในวันนี้ แต่บังเอิญว่าอยู่ในขึ้นตอนที่จะต้องส่งไปให้ท่านอธิบดีตรวจคำพิพากษาก่อน ซึ่งคดีนี้ถือว่าเป็นคดีหลักที่เรามั่นใจว่าครูปรีชาจะต้องติดคุก แต่ศาลท่านได้เลื่อนไปฟังคำพิพากษาในวันที่ 20 มี.ค.2567

คดีที่สองคือคดีที่ลุงจรูญ ยื่นฟ้อง ครูปรีชา ใคร่ครวญ รวมทั้งนางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น และนางพัชริดา พรมตา หรือเจ๊พัช คดีหมายเลขดำที่ อ.2185/2561 คดีหมายเลขแดงที่ อ.3355/2561 ในข้อหาความผิดฐาน “ร่วมกันเบิกความเท็จ” ซึ่งคดีนี้นั้นครั้งแรกครูปรีชาปฏิเสธแล้วเปลี่ยนมารับสารภาพในภายหลัง และในวันนี้ครูปรีชา จะขอปฏิเสธอีกครั้งหนึ่ง แต่ศาลท่านได้พิจารณาแล้วไม่อนุญาตเพราะมองว่าเป็นการประวิงคดี ครูปรีชาจึงต้องรับสารภาพไปแบบนั้น แต่ในส่วนของเจ๊บ้าบิ่นและเจ๊พัช ยังปฏิเสธอยู่ ดังนั้นศาลจึงเลื่อนอ่านคำพิพากษาในคดีที่ครูปรีชารับสารภาพในข้อหาเบิกความเท็จช่วงมีการอายัดเงินของลุงจรูญที่เป็นคดีแพ่งไปสืบพยานในเดือนกรกฎาคม เมื่อสืบพยานของเจ๊บ้าบิ่นกับเจ๊พัชแล้วเสร็จ ศาลท่านจะพิพากษาคำรับสารภาพของครูปรีชาไปในคราวเดียวกัน

ครูปรีชา

คดีที่สามคือคดีที่ ลุงจรูญ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องพยานจำนวน 10 คน คดีหมายเลขดำที่ อ.1558/2566 คดีหมายเลขแดงที่ อ.2707/2566 ในข้อหา “ความผิดต่อเจ้าพนักงานในการยุติธรรม” คดีนี้ลุงจรูญมองว่าเป็นการเบิกความเท็จ ศาลได้มีการนัดไต่สวนในวันที่ 1 เม.ย.2567

“วันนี้ผมได้ติดเอาคำพูดของครูปรีชามาคำหนึ่งเนื่องจากครูปรีชาได้เข้ามาตำหนิลุงจรูญว่า “ฟ้องพยานแบบนี้สังคมจะอยู่อย่างไร” หลังจากที่ลุงจรูญ ได้ยินคำที่ครูปรีชาพูดออกมาจึงเกิดความโมโหขึ้นมาทันทีเพราะที่ผ่านมาลุงจรูญถูกครูปรีชาฟ้องมาก่อนร่วม 10 คดี พยานที่มาเบิกความก็พูดไม่ตรงความจริงทำให้ลุงต่อสู้คดีมาอย่างยาวนานหลายปี แล้วครูปรีชายังกล้ามาบอกลุงจรูญว่าทำให้สังคมอยู่ยากอีก”

นายษิทรากล่าวว่า ถึงตรงนี้แล้ว ลุงจรูญก็คงจะไม่ไกล่เกลี่ยกันอีกแล้ว เพราะต้องการที่จะให้ผู้กระทำความผิดถูกลงโทษ ถึงแม้ครูปรีชาจะมาเสนอเงินให้เพื่อไกล่เกลี่ยก็คงจะลำบากแล้ว แต่หากครูปรีชารู้สึกสำนึกผิดก็ขอให้เอาเงินไปวางศาลจะดีกว่า เพื่อให้ศาลบรรเทาโทษให้ แต่ว่าในส่วนของคุณลุงคงจะไม่ยอมใจอ่อนไปถอนฟ้องให้

ที่สำคัญผมพึ่งทราบข่าวมากรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบทำคดีเรื่องแจ้งความเท็จ ได้มีการเรียกครูปรีชาไปที่อัยการแล้วจึงเชื่อว่าอัยการน่าจะมีการส่งฟ้องในเร็วๆ นี้ ซึ่งทุกการกระทำมันเป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระกันทั้งหมด ซึ่งครูปรีชาจะต้องรับโทษในสิ่งที่ทำมาในทุกๆ เรื่อง

ด้าน หมวดจรูญเปิดเผยกรณีที่ครูปรีชาพูดว่าการที่ผมฟ้องพยานแล้วสังคมจะอยู่อย่างไรนั้น เรื่องนี้ความจริงผมจะต้องเป็นฝ่ายพูดให้เขาฟังมากกว่า เพราะที่ผ่านมาผมถูกฟ้องดำเนินคดีร่วม 10 คดีต้องต่อสู้มาอย่างยาวนานก็ไม่เห็นครูปรีชามาช่วยผมเลย แต่จ้องจะเอาผมเข้าคุกอย่างเดียว ซึ่งวันนี้คุยกันไม่รู้เรื่องแล้ววันหน้าก็ให้เลิกคุยกันดีกว่า และอยากให้สื่อมวลชนไปถามครูปรีชาว่ายังยืนยันหรือไม่กับคำพูดที่ว่า ความจริงก็คือความจริง ซึ่งผมอยากให้เขาพูดคำนี้บ่อยๆ หน่อย

เจ๊บ้าบิ่น

ครูปรีชาออกมาเปิดเผยว่า การไกล่เกลี่ยก็ยังไม่ลงตัว ศาลจึงเลื่อนนัดอ่านคำพิพากษาออกไปก่อน สาเหตุจากความเข้าใจยังไม่เป็นหนึ่งเดียวกัน ซึ่งก็คงต้องใช้เวลา ส่วนการที่ตนฟ้องพยานแบบนี้สังคมจะอยู่อย่างไร ทั้ง นี้ตามกฎหมายพยานคือ ผู้บริสุทธิ์ แต่อีกฝ่ายกลับฟ้องพยาน 10 ปาก แล้วต่อไปใครจะกล้าเป็นพยานในสังคม ยกตัวอย่างเช่น พลเมืองดีเห็นเหตุการณ์ฆ่ากันตาย แล้วเขาอยากช่วยบอกว่าคนๆ นั้นเป็นคนกระทำ แต่กลับต้องมาถูกฟ้อง แล้วต่อไปใครจะกล้าเป็นพยาน ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ก็คงไม่มีใครกล้าเป็นพยานหรอกจริงมั้ย

ทั้งนี้ ตนไม่ได้ให้การกลับไปกลับมา แต่เพียงเพื่อความยุติแห่งคดี มีความเป็นกัลยาณมิตร เราก็อยากจะยุติด้วยความเป็นมิตรและสมานฉันท์ต่อกัน เราไม่ได้ก้าวล่วงกัน เราสมานฉันท์ต่อกัน เราเดินถอยคนละก้าวมันก็จะทำให้สังคมสงบสุขแล้วทุกคนก็มีความสุข

ต่อข้อถามของผู้สื่อข่าวที่ว่า ถ้าสุดท้ายแล้วผลการพิพากษาไม่เป็นคุณ และเราไม่มีเงินเพียงพอจะจ่ายให้ฝ่ายโจทก์ ครูปรีชาตอบว่า ถ้าคุณพิสูจน์ได้ว่าเราเป็นเท็จ พิสูจน์อย่างไร การพิสูจน์เป็นเท็จก็คือ ต้องมีเรื่องจริง แล้วตรงไหนคือเรื่องจริง ทุกคนรู้อยู่ “ความจริงก็คือความจริง” มีจริงก็ต้องมีเท็จ ถ้าไม่มีจริงจะมีเท็จได้อย่างไร แต่เราควรถอยคนละก้าวเพื่อความสมานฉันท์ เราเป็นคนเมืองกาญจน์ด้วยกันในความรู้สึกของครู
การที่ทนายษิทราออกมาระบุว่า “งานนี้จะต้องมีคนติดคุก” ครูปรีชาตอบว่า ก็ยังไม่รู้ว่าใคร ยังไม่ต้องกำหนด และตนก็ไม่ได้มีความกังวล เพราะการที่ครูไปแจ้งความ ก็แจ้งความว่าลอตเตอรี่ครูหาย ครูไม่ได้แจ้งความว่าใครเอาลอตเตอรี่ไป แต่กระบวนการของตำรวจเป็นคนนำสืบ ตนไม่ได้ไปกล่าวโทษเขา ส่วนคดีที่กองปราบเป็นคดีตั้งแต่ปี 2560 แล้ว และคาดว่าจะส่งให้อัยการพิจารณาในเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งตนก็ใช้สิทธิของตน โดยจะได้นำหลักฐานเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และกล่าวทิ้งท้ายว่า “ตอนนี้ก็ชีวิตก็มีแต่ความสุขตามวิถี เพราะกำลังภายในของเราดี”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image