ประมง ขีดเส้นตายรื้อถอนโพงพาง ออกจากร่องน้ำทะเลสาบสงขลาภายใน 15 วัน
เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานประมง จ.สงขลา ร่วมกับ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล จ.สงขลา สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 4 สงขลา กองกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำ นำเรือออกไปติดประกาศแจ้งเตือนผู้ติดตั้งเครื่องมือโพงพางบริเวณร่องน้ำทะเลสาบสงขลา ตามคำสั่งสำนักงานประมง จ.สงขลา
“ให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่สร้างลงในที่จับสัตว์น้ำโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามประกาศสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสงขลา ซึ่งได้กำหนดแนวเขตร่องน้ำสงขลา (ร่องใน) ตั้งแต่บริเวณหัวพญานาคจนถึงท่าเทียบเรือประมงใหม่ (ท่าสะอ้าน) เพื่อความปลอดภัยในการเดินเรือและการคมนาคมทางน้ำ ประกอบกับพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ได้ตรวจพบเครื่องมือประมงโพงพาง ซึ่งเป็นเครื่องมือประมงที่ผิดกฎหมาย และอยู่ในลักษณะกีดขวางร่องน้ำเป็นอันตรายต่อการเดินเรือ ติดตั้งลงในที่จับสัตว์น้ำ บริเวณร่องน้ำทะเลสาบสงขลา”
นายเจริญ โอมมณี ประมงจังหวัดสงขลาเปิดเผยว่า จ.สงขลาเป็นจุดศูนย์กลางของภาคใต้ ที่มีเศรษฐกิจเกี่ยวพันกับการเดินเรือในการขนส่งสินค้า แต่ประสบปัญหาของสิ่งกีดขวางร่องน้ำ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการเดินเรือและเป็นปัญหาที่เรื้อรังมานาน นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการ จ.สงขลา จึงมีดำริให้บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหา
นายเจริญเปิดเผยว่า ในวันนี้เป็นขั้นตอนของการบังคับใช้กฎหมาย ติดประกาศแจ้งเตือนของกรมประมง โดยสำนักงานประมงจังหวัดสงขลา ให้รื้อถอนเครื่องมือโพงพางในร่องน้ำ ขนาดกว้าง 300 เมตร มีความยาวประมาณ 5 กิโลเมตร ตั้งแต่บริเวณหัวพญานาคจนถึงท่าเทียบเรือประมงใหม่ โดยจะดำเนินการติดประกาศไว้ 15 วัน เพื่อให้พี่น้องชาวประมงได้ดำเนินการรื้อถอนตามแนวร่องที่ได้กำหนดไว้
“ผมเข้าใจถึงความรู้สึกพี่น้องชาวประมงที่ทำเครื่องมือโพงพาง ในทางกลับกันภาครัฐจำเป็นต้องพัฒนาในภาพรวมของจังหวัดและของประเทศให้อยู่ภายใต้กฎหมายที่กำหนด ขอย้ำว่าภาครัฐมิได้ทอดทิ้งพี่น้องชาวประมง ซึ่งในอนาคตจะดำเนินการพูดคุยหารือเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือ”
