ตร.ทางหลวงไล่ล่า 2 กระบะแต่งซิ่ง ขนต่างด้าว จับได้ 1 รอด 1 สารภาพทำมาแล้วหลายครั้ง
เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ต.ท.ปภินวิทย์ อุดมพร สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. กล่าวว่า ได้รับการรายงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สายตรวจรถยนต์ตำรวจทางหลวงอยุธยา ช่วงเวลาประมาณ 16.30 น. ออกตรวจอยู่บนถนนทางหลวงหมายเลข 340 บางบัวทอง-สุพรรณบุรี ขาเข้า พบรถกระบะโตโยต้า สีเทา หมายเลขทะเบียน 2 ฒร 9042 กรุงเทพมหานคร มีรถกระบะขับตามกัน อีกจำนวน 1 คัน ขับผ่านมาโดยใช้ความเร็วสูง และเปลี่ยนช่องทางกะทันหันไปมาซ้ายและขวา ลักษณะรถคล้ายกับบรรทุกสิ่งของมาหนัก แต่ภายในกระบะไม่มีสิ่งของบรรทุกอยู่
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขับติดตามไปพร้อมกับเปิดสัญญาณไซเรน และเสียง เรียกให้หยุด ทันทีที่เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ รถกระบะคันดังกล่าว ได้ขับหลบหนีด้วยความเร็ว เปลี่ยนเลนไปมา จนรถยนต์ของประชาชนที่สัญจรไปมาจะเกิดอุบัติเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดตามไปพร้อมกับวิทยุสกัดจับ
จนกระทั่งมาถึงบริเวณ กม.27-28 ต.สามเมือง อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา สามารถสกัดจับกุมเอาไว้ได้ โดยผู้ขับขี่ไม่ยอมลงจากรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำการเจรจา จึงยอมลงจากรถให้ตรวจสอบ พบว่ามี นายสมศักดิ์ แซ่ม้า อายุ 25 ปี ชาวจังหวัดตาก เป็นคนขับ ภายในรถพบแรงงานต่างด้าวจำนวน 9 คน เป็นชาย 4 คน หญิง 5 คน นั่งอัดแน่นกันอยู่ภายในรถ สภาพอากาศที่ร้อนจัด จากการตรวจสอบ พบว่าแรงงานต่างด้าวทั้งหมด ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใด ส่วนรถยนต์กระบะอีกคัน ที่วิ่งตามกันมา เจ้าหน้าที่พยายามใช้อุปกรณ์ในการเข้าไปสกัดหยุดรถ คนขับได้เลี้ยวหลบเข้าไปภายในซอย หลบหนีไปได้
นายสมศักดิ์ คนขับรถกระบะ ยอมรับว่า ก่อนหน้านี้เคยรับจ้างขนแรงงานต่างด้าวมาแล้ว 4-5 ครั้ง มีคนในหมู่บ้านชักชวนให้ขนแรงงานต่างด้าวเข้ามาส่งในพื้นที่ภาคกลาง โดยจะได้รับค่าจ้างคนละ 1,000 บาท แต่ละครั้งจะมากันเป็นขบวน ครั้งละ 3 คัน ส่วนเงินค่าจ้างที่ได้มาจะนำไปเที่ยวและใช้จ่ายต่างๆ
สอบถามแรงงานต่างด้าวที่ถูกจับกุมทราบว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินเท้าข้ามมา ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และจะมีคนพาออกมาจากป่า แล้วขึ้นรถที่มีการติดต่อว่าจ้างมารับ เพื่อไปส่งในพื้นที่ภาคกลางไปทำงานตามสถานที่ต่างๆ ทุกคนจะต้องเสียค่าใช้จ่าย คนละ 12,000-15,000 บาท เพื่อแลกกับการเข้ามาทำงานในประเทศไทย
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองพระนครศรีอยุธยา ร่วมสอบสวนขยายผล พร้อมทั้งควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ลาดบัวหลวง ดำเนินคดี และผลักดันกลับประเทศตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
