เปิดวงจรปิดล่าหนุ่มซิ่ง จยย.ใช้มีดฟันหน้าสาวอุดรฯ 17 สาหัสเย็บ 17 เข็ม

เปิดวงจรปิดล่าหนุ่มซิ่ง จยย.ใช้มีดฟันหน้าสาวอุดร 17 สาหัสเย็บ 17 เข็ม

จากกรณีเพจเหยี่ยวข่าวโพสต์ภาพหญิงสาวนอนรักษาตัวที่ รพ.นายูง และข้อความว่า “เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 เกิดเหตุมีชาย ขี่ จยย.ฮอนด้าเวฟสีดำไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ใช้มีดฟันผู้หญิงที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เหตุเกิดที่ใกล้ร้านวัสดุฤกษ์ดี บ้านเชียงดี ต.โนนทอง อ.นายูง จ.อุดรธานี น้องคนที่บาดเจ็บ เป็นคนซ้อนท้าย ส่วนคนขับรีบนำตัวส่ง รพ.สต.บ้านเชียงดี หมอได้ทำการเย็บแผล 17 เข็ม ทราบชื่อผู้บาดเจ็บ ชื่อน้ำ ไทบ้านกุดเซือม วอน ตร.สภ.นายูง ช่วยติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายด้วยครับ ปล่อยไปจะเป็นอันตรายต่อบุคคลอื่น”

ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 ผู้สื่อข่าว พร้อมด้วย น.ส.พิมพิไล นามวงษ์ อายุ 33 ปี ชาวบ้านโสมสวรรค์ ม.2 ต.โนนทอง อ.นายูง พี่สาวสามีน้องน้ำ อายุ 17 ปี ผู้บาดเจ็บ ชาวบ้านกุดเซือม ม.4 ต.โนนทอง อ.นายูง ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจปิด ร้านฤกษ์ดีวัสดุก่อสร้าง เลขที่ 176 ม.3 บ.เชียงดี ถ.สายสามเหลี่ยม-อ.สังคม ต.โนนทอง อ.นายูง จ.อุดรธานี ที่อยู่ห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งเป็นทางโค้ง และอยู่ห่างจาก อ.สังคม จ.หนองคาย ประมาณ 10 กิโลเมตร และข้างทางส่วนมากจะเป็นสวนยางพารา เพื่อชี้ยืนยันตำหนิรูปพรรณและยานพาหนะคนร้าย ขณะหลบหนีไปทาง บ.เชียงดี

โดยกล้องวงจรปิดระบุเวลา 16.32 น. วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 พบคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 30-40 ปี รูปร่างผอมสูง ผิวดำแดง สวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาวสีดำ ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ตำหนิรูปพรรณคล้ายคนทำงานกรีดยาง ไม่นานก็พบรถจักรยานยนต์พี่สะใภ้ผู้บาดเจ็บขี่ซ้อนผู้บาดเจ็บไปส่งที่ รพ.สต.บ้านเชียงดี ที่อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุราว 2-3 กิโลเมตร ก่อนนำตัวส่งต่อ รพ.นายูง หลังจากให้ข้อมูลกับตำรวจสืบสวน สภ.นายูง และชี้ยืนยันในคลิปว่า คนก่อเหตุเป็นคนเดียวกันกับที่กล้องวงจรปิดร้านขายวัสดุก่อสร้างจับภาพได้ ขณะคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี

ADVERTISMENT

น.ส.พิมพิไล นามวงษ์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81 ม.2 บ.โสมสวรรค์ ต.โนนทอง อ.นายูง จ.อุดรธานี เล่าว่า ขณะที่ตนและผู้บาดเจ็บ ซึ่งเป็นน้องสะใภ้ กำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับมาจากตลาดนัดในพื้นที่ อ.สังคม จ.หนองคาย ที่อยู่ห่างจากบ้านประมาณ 15 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากตลาดประมาณ 10 กิโลเมตร เพื่อซื้อของมาขายที่บ้าน ซึ่งตนเป็นคนขี่ และมองกระจกข้างรถ สังเกตเห็นคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 30-40 ปี ขี่รถจักรยานยนต์สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ตำหนิรูปพรรณคล้ายคนกรีดยาง ขี่ขึ้นมาประกบรถของตน ทีแรกนึกว่าคนร้ายจะขี่แซง ตนจึงลดความเร็วลง พอคนร้ายขี่รถแซงไป น้องสะใภ้ก็ร้องบอกตนด้วยความเจ็บปวดว่า ถูกผู้ชายที่ขี่รถแซงไป ใช้มีดฟันบริเวณใบหน้าใต้หูด้านขวาจนเป็นแผลฉกรรจ์ และมีเลือดไหลออกมาจำนวนมาก

“ตกใจมาก จึงจอดรถห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 20 เมตร เมื่อเห็นเลือดไหลอาบตัวน้องสะใภ้ จึงรีบขี่รถไปที่ รพ.สต.บ้านเชียงดี ที่อยู่ห่างไปประมาณ 3 กิโลเมตร ก่อนเจ้าหน้าที่จะนำตัวส่งต่อที่ รพ.นายูง เพื่อเย็บแผลรวม 17 เข็ม พบกรามด้านขวาร้าว และเสียเลือดมาก ต้องนอนรักษาตัวอีกหลายวัน ส่วนคนร้ายตนคิดว่า เขาอาจจะป่วยทางจิตจากการใช้สารเสพติด และความคึกคะนอง อยากให้ตำรวจจับตัวให้ได้โดยเร็ว เพราะมันเป็นภัยอันตรายต่อสังคม ตอนนี้ตนก็ยังตกใจไม่หาย รวมทั้งชาวบ้านก็ยังหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งทุกวันน้องสะใภ้จะเป็นคนขี่ แต่วันนั้นเขาคงเหนื่อยจากการทำงานบ้าน ไม่งั้นคงเป็นตนที่ถูกฟันอย่างแน่นอน และอยากถามคนร้ายว่าทำไมถึงมาใช้มีดฟันกัน ทั้งที่ไม่เคยมีเรื่องกัน และไม่รู้จักกันเลย”

ADVERTISMENT

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ รพ.นายูง พบกับ น.ส.น้ำ (นามสมมุติ) เล่าว่า ตนขอยืนยันว่าไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อน หลังจากแต่งงานอยู่กินกับสามีเกือบ 2 ปี ตอนนั้นตนตกใจมาก หลังถูกฟันจนหูด้านขวาอื้อ และร้องบอกพี่สะใภ้ว่าถูกคนที่ขี่รถแซงขึ้นไปใช้มีดฟัน คล้ายกับมีดพร้า หรือไม่ก็มีดดาบสั้น พอหมอเย็บแผลเสร็จ และเอกซเรย์ใบหน้าด้านขวา พบว่ากรามร้าว ต้องนอนรักษาตัวอยู่สักพัก เนื่องจากเสียเลือดมาก

นางศรีวิไล ผิวสว่าง อายุ 47 ปี แม่น้องน้ำ เล่าว่า ตนมีลูกชายหญิง 2 คน น้องน้ำเป็นลูกคนสุดท้อง และแต่งงานไปมีครอบครัวที่บ้านโสมสวรรค์ ทราบข่าวจากลูกชายคนโตว่า ลูกสาวถูกคนร้ายใช้มีดฟันหน้า ขณะซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์พี่สะใภ้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ตนและสามีจึงรีบมาดูอาการที่ รพ.สต.บ้านเชียงดี อยากให้ตำรวจจับตัวให้ได้โดยเร็ว และยากถามว่ามาทำลูกสาวตนทำไม เพราะไม่เคยมีเรื่องและรู้จักกันมาก่อน หากใครรู้เบาะแสแจ้งตำรวจไปจับกุมตัว ตนก็ยินดีที่จะให้สินน้ำใจ หากเป็นผู้ป่วยจิตเวช ก็อยากให้ญาติพี่น้องพ่อแม่เขามารับผิดชอบ ก่อนนำตัวไปบำบัดรักษาอาการ แต่ตนยืนยันจะดำเนินคดีกับคนร้ายรายนี้ให้ถึงที่สุด

ด้าน พ.ต.ต.สมิง โถทอง สว.สอบสวน สภ.นายูง เปิดเผยว่า วันนี้ได้ไปสอบปากคำผู้บาดเจ็บ และพี่สาวสามี ที่โรงพยาบาลนายูงแล้ว ซึ่งทั้ง 2 คน ให้การตรงกันว่า ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใครมาก่อน และไม่รู้จักคนก่อเหตุ ขณะนี้ตำรวจชุดสืบสวน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีเพิ่มเติม ส่วนสาเหตุที่คนร้ายก่อเหตุ ทางเราตั้งไว้ 2 ประเด็นคือ คึกคะนอง และมีอาการทางจิตประสาท จากการใช้สารเสพติดหรือของมึนเมา อย่างไรก็ตามทางตำรวจจะได้ติดตามจับคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด เนื่องจากก่อเหตุอุกอาจ และเป็นภัยอันตรายต่อสังคม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image