200 ชีวิตระทึก! แพท่องเที่ยวติดจอกแหนกลางเขื่อน ผู้ว่าฯลำปางสั่งระดมช่วยเหลือ ล่าสุดปลอดภัยทุกคน

วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2567 - 16:44 น.

วันที่ 11 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาใช้บริการล่องแพท่องเที่ยว ของผู้ประกอบการท่องเที่ยว ในเขื่อนกิ่วลม จ.ลำปาง ในช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีน ได้ติดต่อขอความช่วยเหลือว่า แพท่องเที่ยว เกิดเหตุติดจอกแหน ไม่สามารถเคลื่อนแพออกไปขึ้นฝั่งได้ โดยติดอยู่กลางน้ำในเขื่อนกิ่วลม มาตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา จนถึงช่วงเที่ยงของวันนี้ ยังออกไปไม่ได้ รวม 4 ลำ นักท่องเที่ยวประมาณ 200 คน จึงติดต่อขอความช่วยเหลือ ท่ามกลางความตระหนกตกใจของนักท่องเที่ยวที่อยู่บนแพ

ทั้งนี้ ทางผู้ประกอบการแพท่องเที่ยว หลังได้รับแจ้งก็พยายามเข้าไปช่วยเหลือ จึงทราบว่า จุดที่แพติดอยู่ มีจอกแหน และวัชพืชน้ำติดอยู่หนาแน่นมาก และไม่สามารถที่จะเคลื่อนออกไปได้ ดังนั้นจึงติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อทราบ และเข้ามาช่วยเหลือนักท่องเที่ยวทั้งหมด ในเบื้องต้นมีการตัดเชือกที่กั้นแนวจอกแหน ในจุดที่แพติดคาอยู่ออก จึงทำให้แพ 2 ลำแรก สามารถเดินเครื่องยนต์ และออกมาได้ จนส่งนักท่องเที่ยวขึ้นฝั่งได้อย่างปลอดภัย

ส่วนอีก 2 ลำที่ยังติดอยู่ ในบริเวณที่มีจอกแหนหนาแน่นมาก ก็ได้รอการระบายของจอกแหน ที่กำลังไหลออกไปตามกระแสน้ำ จากแนวเชือกที่ขาดออก และล่าสุดสามารถเดินเครื่องยนต์ค่อยๆ ขับแหวกแนวจอกแหนออกไป

สำหรับเขื่อนกิ่วลม ขณะนี้ กำลังประสบปัญหาจอกแหน และวัชพืชน้ำ แพร่พันธุ์เร็ว ปกคลุมผิวน้ำในพื้นที่อ่างเก็บน้ำของเขื่อนกิ่วลม ที่ผ่านมาถึงแม้ทางชลประทานจะมีการเร่งกำจัดตักออก แต่ก็ไม่หมด ยังแพร่ลามอย่างรวดเร็ว จนมีเป็นจำนวนมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุการณ์ขึ้น ทางผู้ประกอบการแพท่องเที่ยว ก็ได้ระดมคนเข้ามารอ และช่วยเหลือ อยู่ที่จุดบริการท่าแพสำเภาทอง ต.บ้านสา อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง ซึ่งอยู่อีกฝั่งจากท้ายเขื่อนกิ่วลม โดยทราบว่า เป็นคณะนักท่องเที่ยวจาก จ.พะเยา และเชียงใหม่ ได้เช่าขึ้นแพท่องเที่ยวตั้งแต่เมื่อวาน และมีกำหนดพักค้างแรมในแพหนึ่งคืน แต่ขณะช่วงขากลับ พบว่าจอกแหนล้อมเต็มพื้นที่เดินแพ ทำให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถออกมาได้ มีทั้งเด็ก ผู้สูงอายุ ที่สำคัญอาหารที่เตรียมไป หมดแล้ว

โดยผู้ประกอบการ จะเอาเรือเล็ก หรือเรือยาว เข้าไปช่วยส่งอาหาร หรือทยอยนำคนออกมา ก็ไม่สามารถเข้าไปได้ เพราะจุดนั้นจอกแหนหนาแน่นมาก ซึ่งกลุ่มผู้ประกอบการที่อยู่จุดบริการสำเภาทองทั้งหมด 13 ราย พยายามที่จะช่วยเหลือทุกวิถีทาง เพื่อช่วยเหลือเอานักท่องเที่ยวออกมาให้ได้ก่อน นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังได้ใช้โดรนบินขึ้นไปสำรวจสภาพพื้นที่มุมสูงล่าสุด ก็พบแพท่องเที่ยว 2 ลำสุดท้าย ติดอยู่ ท่ามกลางจอกแหนที่อัดแน่นเต็มผิวน้ำ มีนักท่องเที่ยวพยายามโบกมือขอความช่วยเหลือ

ด้าน นางลำพึง อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการแพท่องเที่ยว เปิดเผยว่า จากการสอบถามคนดูแลแพข้างใน ทราบว่าเมื่อคืนเกิดลมแรงมาก ได้พัดเอาจอกแหนจากหลากหลายทิศมาล้อมแพ เป็นระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร จนแพไม่สามารถขับต่อไปได้ และออกมาไม่ได้ ส่วนสาเหตุที่มีจอกแหนเพิ่มขึ้นมาอีก เนื่องจากล่าสุดขณะนี้ ทางหน่วยงานชลประทาน ได้หยุดกำจัด และตักออก ทราบว่าไม่มีน้ำมันเติมเรือกำจัดจอกแหน และติดปัญหาเรื่องงบประมาณ ทำให้ที่ผ่านมา ทำๆ หยุดๆ บางครั้งหยุดไปนานนับเดือน ทั้งนี้ ถึงแม้ที่ผ่านมาทางกลุ่มผู้ประกอบการแพ จะมีการนำเชือกมามัดกับทุ่นลอยน้ำ เพื่อไม่ให้จอกแหนกระจาย แต่บางครั้งเชือกขาด ทำให้จอกแหนถูกลมพัดกระจายกีดขวางเส้นทางล่องแพ กระทบต่อผู้ประกอบการแพท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ เวลา 13.00 น. นายชาญ จูดคง นายอำเภอแจ้ห่ม จ.ลำปาง พร้อมด้วยนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ้านสา และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบ และติดตามการให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยว พบว่า จุดที่แพติด ห่างจากจุดบริการท่าแพสำเภาทอง ประมาณ 900 เมตร และเป็นการเกิดเหตุการณ์ติดอยู่จริง จึงได้รายงานไปยัง นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ทราบ

และผู้ว่าฯ สั่งการให้ทุกหน่วยงาน ทั้ง ปภ. และชลประทาน รีบเข้าช่วยเหลือ เบื้องต้นทางอำเภอรายงานว่า หลังมีการตัดแนวเชือกกั้นจอกแหนออก และเรือลากจูงจากผู้ประกอบการเรือแพในพื้นที่ เข้าช่วยเหลือ แพสามารถเข้าฝั่งได้ทุกลำ กลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งหมดปลอดภัย โดยเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีผู้รับบาดเจ็บ หรือเกิดความสูญเสียในชีวิต และทรัพย์สินแต่อย่างใด ในการนี้นายอำเภอแจ้ห่ม จะได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวอย่างยั่งยืนต่อไป