สถานการณ์ไฟป่าเชียงใหม่ยังไม่ดับ กองทัพภาค 3 เสียใจ จนท.ไฟป่า เสียชีวิต 1 นาย
เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2567 สถานการณ์ไฟป่าเชียงใหม่ยังโหมแรงในหลายจุด โดยบางพื้นที่มีไฟลุกไหม้ต่อเนื่องติดต่อกันหลายวัน เช่น ไฟป่าบริเวณอุทยานแห่งชาติออบขาน บริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยมะนาว บ้านใหม่สวรรค์ ตำบลดอนเปา อำเภอแม่วาง
ชาวบ้านในพื้นที่ระบุว่า ไฟเริ่มไหม้หนักๆ มานานกว่า 5-6 วันแล้ว สาเหตุจากสภาพอากาศร้อน ลมพัดแรง และมีเชื้อเพลิงจำนวนมาก ส่วนไฟป่าที่ปะทุขึ้นใหม่บริเวณรอยต่ออำเภอฮอด-อำเภอจอมทอง บนภูเขาสูง ยังยากที่จะเข้าดับไฟได้ เจ้าหน้าที่พื้นที่ประสานความร่วมมือในการใช้เฮลิคอปเตอร์ช่วยสกัดไฟ
ทางด้านกองทัพภาคที่ 3 / กอ.รมน.ภาค 3 โดย พล.ต.วิทยา แก้วพรม รองแม่ทัพภาคที่ 3 / รองผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการดับไฟป่า ภาค 3 เป็นประธานประชุมผ่าน Video TeleConference สั่งการให้ กอ.รมน. 17 จังหวัดภาคเหนือ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันภาคเหนือ
พร้อมแสดงความเสียใจกรณี นายพันศักดิ์ ใจมงคล อายุ 31 ปี เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนและดับไฟป่า กรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เสียชีวิต 1 นาย ขณะออกปฏิบัติงานลาดตระเวนป้องกันการกระทำผิด และเฝ้าระวังไฟป่า ออกปฏิบัติงานลาดตระเวนในพื้นที่รับผิดชอบลำน้ำว้า บริเวณสบแปด บ้านผาสุก หมู่ 3 ตำบลภูฟ้า อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน เกิดอาการช็อกหมดสติล้มลงกะทันหัน เจ้าหน้าที่ร่วมชุดช่วยกันปั๊มหัวใจ แต่ไม่สำเร็จ ทำให้เสียชีวิต เวลาประมาณ 16.00 น. วานนี้ ศพอยู่ในป่าลึก ติดแนวชายแดน สปป.ลาว จัดเจ้าหน้าที่ 15 นาย ลำเลียงศพออกมาภายในวันนี้ นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บอีกหลายนาย
จึงเน้นย้ำให้กำลังพล ทั้งเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครทุกนาย ในการปฏิบัติงานเข้าพื้นที่การเกิดไฟป่าต้องมีความระมัดระวังและให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อป้องกันการสูญเสีย
ส่วนสถานการณ์ของจุดความร้อนในของภาคเหนือในวันนี้ พบจำนวน 470 จุด โดยจังหวัดที่มีจุดความร้อนมากที่สุด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ 109 จุด จังหวัดตาก 90 จุด และจังหวัดแม่ฮ่องสอน 76 จุด ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์, ป่าสงวนฯ และ เขต ส.ป.ก. ด้านค่าคุณภาพอากาศทั้ง 17 จังหวัดภาคเหนือ มีค่าคุณภาพอากาศอยู่ในระดับปานกลาง ถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ
โดยจังหวัดที่มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 สูงสุด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย 118.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จังหวัดแม่ฮ่องสอน 103.3 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เชียงใหม่ รายงานพบจุดความร้อน (Hotspot) รอบเช้า จำนวน 109 จุด หนักสุดในพื้นที่อำเภอฮอด 25 จุด เชียงดาว 19 จุด แม่แจ่ม 13 จุด ดอยเต่า 11 จุด แม่วาง 10 จุด สันทราย 7 จุด จอมทอง 6 จุด สันกำแพง 5 จุด สะเมิง 4 จุด แม่แตง 4 จุด อมก๋อย 1 จุด กัลยาณิวัฒนา 1 จุด แม่ออน 1 จุด ไชยปราการ 1 จุด และหางดง 1 จุด
สรุปสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน แม่ฮ่องสอน) พบ PM2.5 มีค่าระหว่าง 25.1-119.3 มคก./ลบ.ม. คุณภาพอากาศอยู่ในระดับปานกลางถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ พบพื้นที่ที่ค่าฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน คุณภาพอากาศอยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ
- ต.เวียงพาคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย PM2.5 = 119.3 มคก./ลบ.ม.
- ต.เวียง อ.เชียงของ จ.เชียงราย PM2.5 = 82.3 มคก./ลบ.ม.
- ต.เวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน PM2.5 = 107.3 มคก./ลบ.ม.
และพบพื้นที่ที่ค่าฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน คุณภาพอากาศอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
- ต.เวียง อ.เมือง จ.เชียงราย PM2.5 = 46.4 มคก./ลบ.ม.
- ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ PM2.5 = 39.1 มคก./ลบ.ม.
- ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ PM2.5 = 40.0 มคก./ลบ.ม.
- ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ PM2.5 = 40.2 มคก./ลบ.ม.
- ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ลำพูน PM2.5 = 42.3 มคก./ลบ.ม.
- ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน PM2.5 = 43.2 มคก./ลบ.ม.
คาดการณ์การสะสมของฝุ่นละอองภาพรวมภาคเหนือวันพรุ่งนี้ คุณภาพอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ แต่เนื่องจากในช่วงนี้มีกระแสลมตะวันตกพัดแรง ทำให้ฝุ่นกระจายตัวขึ้นสูง ส่งผลให้สภาพอากาศโดยรวมดีขึ้นมาก
