ป.ป.ช. เตรียมสอบที่มา ‘วิลล่าหรูหาดยามู’ หลังพบเอกสารสิทธิที่ดิน ไม่ระบุถนนสาธารณะ

ป.ป.ช. เตรียมสอบที่มา ‘วิลล่าหรูหาดยามู’ หลังพบเอกสารสิทธิที่ดิน ไม่ระบุถนนสาธารณะ

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 5 มีนาคม นายสุวัฒน์ เสาวรัญ ผอ.ป.ป.ช.ประจำจังหวัดภูเก็ต นายปัณยา สำเภารัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลป่าคลอก นายวิสุทธิ์ โรมินทร์ ปลัดอำเภอถลาง นายธะเนต นาวาล่อง ปลัดอำเภอถลาง พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.ป่าคลอก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมตรวจสอบพื้นที่บริเวณวิลล่าหรูริมหาดยามู กรณีมีสิ่งก่อสร้างรุกล้ำที่สาธารณะ ซึ่งอยู่ระหว่างทำการรื้อถอนตามคำสั่งประกาศของเทศบาลตำบลป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต

นายสุวัฒน์ ผู้อำนวยการ ป.ป.ช.ประจำจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า “การเข้าตรวจสอบครั้งนี้ดูความคืบหน้าดำเนินการของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทางท้องถิ่น และ อ.ถลาง ว่าดำเนินการไปถึงขั้นตอนไหน อย่างไรบ้าง และตรวจสอบดำเนินการว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ โดยประสานกับสำนักงาน ป.ป.ช.ส่วนกลางในเรื่องข้อมูลของการตรวจสอบตามขั้นตอน ภาพรวมในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดและในอนาคตจะดำเนินการทั้ง จ.ภูเก็ต

เมื่อเป็นประเด็นเหล่านี้ต้องทำให้เหมือนกันทั้งจังหวัด โดยมาดูจุดที่เป็นประเด็นตรงนี้ก่อนและจะขยายผลไปทั่วทั้ง จ.ภูเก็ต มีการรวบรวมข้อมูลไว้ทั้งหมดแล้ว ที่ผ่านมาตรวจสอบมาโดยตลอดไม่ปรากฏตามสื่อต่างๆ เช่น การตรวจสอบประเด็นการบุกรุกที่ดินอุทยานฯสิรินาถ เป็นต้น

Advertisement

การทำงานตรงนี้ไม่มีความหนักใจ ได้ทำตามอำนาจหน้าที่จริงๆ เพื่อประชาชน ถ้ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าเกี่ยวข้องในการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ ต้องอาศัยพยานหลักฐาน เป็นสำคัญ ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเต็มที่ ต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการตรวจสอบ คาดว่าไม่นาน

ขอเวลาให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ ทั้งเรื่องที่ดิน เรื่องปางช้าง และเรื่องอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยต้องประสานกับ ป.ป.ช.ส่วนกลาง ที่ดินจังหวัด และตำรวจภูธรภาค 8 ต้องรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเพื่อดำเนินการอย่างเต็มที่ และต้องให้โอกาสกับผู้ถูกกล่าวหาในการพิสูจน์ความบริสุทธิ์และความผิดต่างๆ ต้องให้ความเป็นธรรมและต้องใช้เวลาเพราะค่อนข้างจะละเอียด

ด้าน นายปัณยา สำเภารัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลป่าคลอก กล่าวว่า “เทศบาลตำบลป่าคลอกตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวมีการก่อสร้างรุกล้ำที่สาธารณะ จึงต้องตรวจสอบเพิ่มว่าที่ดิน ที่มีการก่อสร้างตามแนวเขตอย่างไร มีเจ้าหน้าที่ที่ดินอำเภอถลางและที่ว่าการอำเภอถลาง และเทศบาลตำบลป่าคลอกแจ้งความดำเนินคดีข้อหาบุกรุกที่สาธารณะในส่วนของ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ต้องสั่งรื้อถอน สั่งระงับการใช้บริเวณตรงนั้น ตามกฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ให้รื้อถอนภายใน 30 วัน แต่ผ่านมาได้ 5-6 วันเขาได้ทำการรื้อถอนเองแล้ว

Advertisement

ในส่วนบ้านใกล้เคียงกับวิลล่าดังกล่าว เทศบาลตำบลป่าคลอกได้ทำเรื่องไปยังที่ดินอำเภอถลางให้มาสอบแนวเขตพื้นที่บริเวณแนวไหนบ้างที่ก่อสร้างรุกล้ำที่สาธารณะ ซึ่งที่ดินเข้ามาสอบแนวเขตแล้ว แต่ยังไม่ออกแผนที่มาให้เราดำเนินการได้ เราอยู่ระหว่างรอข้อมูลแผนที่จากที่ดินอำเภอถลางเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป

สภาพพื้นที่เดิมตรงนี้เป็นสวนยางพารา เป็นที่ดินส่วนบุคคลตกทอดมาถึงบริษัทเอกชนรายนี้ และเขามาขออนุญาตก่อสร้าง หลักฐานที่ดินที่ออกเป็น น.ส.3 ก ที่มาขออนุญาตไม่มีระบุถนนสาธารณะ นี่คือปัญหา ในหลักฐานที่ดินเอกสารสิทธิที่ดินไม่ระบุเป็นถนนสาธารณะ ทางเทศบาลจึงไม่สามารถดูแลรักษาได้

แต่สภาพความเป็นจริง ประชาชนจะใช้เดินผ่านที่ดินแปลงนี้ลงทะเล เพื่อไปหากุ้งหอยปูปลา ซึ่งหลังจากนี้จะประสานกับเจ้าของโครงการเพื่อขอให้มอบที่ดินบางส่วนให้เป็นถนนสาธารณะ แต่ไม่ทราบถึงความเป็นไปได้อย่างไร แต่ที่ทราบมาเมื่อก่อนมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ อ.ถลาง และท้องถิ่น ได้พูดคุยกับเจ้าของโครงการ ซึ่งได้ทำเป็นภาวะจำยอมไว้ ให้ชาวบ้านได้ใช้พื้นที่ ทั้งนี้ มีความเห็นว่า ในเรื่องนี้ ป.ป.ช.จะต้องตรวจสอบที่มาของที่ดินเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ด้าน น.ส.ฐิติยา อายุ 52 ปี ชาวบ้านป่าคลอก กล่าวว่า ที่ดินชายหาดเป็นของสาธารณะ ของส่วนรวม อยากให้เป็นของประชาชน ให้ได้มีสิทธิมาได้ ใช้พื้นที่ร่วมกันในการพักผ่อนหย่อนใจของชาวบ้าน ที่ผ่านมาเขาไม่ให้เข้า ซึ่งได้เข้ามาครั้งนี้เป็นครั้งแรก

ด้าน นางสอางค์ บานเย็น อายุ 49 ปี ชาวบ้านป่าคลอก กล่าวว่า ชาวบ้านดีใจที่ได้เข้ามาท่องเที่ยวได้หลังจากที่ไม่สามารถเข้ามาได้เลย พวกเราต้องการเรียกร้องให้มีที่สาธารณะเกิดขึ้น เพื่อให้ได้ชายหาดกลับคืนมา ทุกคนรักธรรมชาติ รักเมืองไทย ไม่ใช่เป็นของใครคนเดียว เป็นของส่วนรวม

ในประเด็นชาวต่างชาติทำร้ายร่างกายแพทย์หญิง รู้สึกไม่พอใจ คิดว่าไม่น่าจะทำกันถึง แบบนั้น ถ้ามีปัญหาน่าจะต้องคุยกันก่อน ไม่ใช่ทำร้ายกันแบบนั้น ซึ่งผู้หญิงที่ถูกทำร้ายเขามานั่งบันได ไม่ควรทำร้ายกัน ปกติคนไทยใจดี มาคุยกันได้ ไม่ใช่เอาความคิดส่วนตัวเป็นใหญ่

ด้าน นายสมจิตร ทอนไชย อายุ 60 ปี ชาวบ้านใน จ.ภูเก็ต กล่าวว่า ชายหาดใน จ.ภูเก็ต ส่วนมากโดนยึดพื้นที่เป็นของส่วนบุคคลไปหมดแล้ว จึงอยากให้ภาครัฐจัดการเรื่องนี้อย่างจริงจัง ให้กลับคืนมาเป็นชายหาดสาธารณะโดยแท้จริงเพื่อประชาชน เช่น ที่ดินชายหาด เกาะสิเหร่ ตอนนี้ถูกปิดกั้นเข้าไม่ได้แล้ว มีการก่อสร้างโรงแรมปิดทางเข้าหาด ในพื้นที่เกาะสิเหร่ ต.รัษฎา อ.เมือง ซึ่งชายหาดต้องเป็นที่สาธารณะ ทุกคนต้องเข้าพื้นที่ได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image