ลำปาง จมฝุ่นหมอกควัน พบจุดฮอตสปอตมากสุดในภาคเหนือ วอน รบ.แก้ปัญหาจริงจัง

ลำปาง จมฝุ่นหมอกควัน พบจุดฮอตสปอตมากสุดในภาคเหนือ จนท.ต้องควบคุมไฟป่าทั้งวันทั้งคืน วอน รบ.แก้ปัญหาจริงจัง

วันที่ 6 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ ที่ จ.ลำปาง คุณภาพอากาศแย่มาก ฝุ่นหมอกควันหนาแน่น จากการระบายอากาศที่ไม่ดีนัก ตามการแจ้งเตือนของสถานีอุตุนิยมวิทยาลำปาง ซึ่งเป็นผลมาจากสาเหตุหลักของการเกิดฝุ่น คือ การเผาในที่โล่งแจ้ง โดยเฉพาะการเกิดไฟป่า ซึ่งตามรายงานของศูนย์เฝ้าระวัง ในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน จังหวัดลำปาง ยังพบจุดความร้อน หรือจุดฮอตสปอต ในแต่ละวันที่มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ค่าฝุ่นหมอกควันในพื้นที่ จ.ลำปาง เกินค่ามาตรฐานต่อเนื่องติดต่อกันนานนับเดือน คุณภาพอากาศส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนโดยตรง จากฝุ่นที่สะสมในพื้นที่

โดยเมื่อวานนี้ (5 มี.ค.67) ตามภาพถ่ายดาวเทียม และตามรายงานของศูนย์ปฎิบัติการดับไฟป่าภาค 3 พบจุดความร้อนในพื้นที่ จ.ลำปาง จำนวน 244 จุด มากเป็นลำดับที่ 1 ใน 17 จังหวัดภาคเหนือ ที่ตรวจพบ 1,055 จุด รองลงมาที่ จ.เชียงใหม่ 168 จุด และ จ.ตาก 150 จุด เกิดขึ้นในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ป่าสงวนแห่งชาติ และเขตพื้นที่ ส.ป.ก. จึงส่งผลทำให้หน่วยปฏิบัติการ และควบคุมไฟป่าในแต่ละพื้นที่ของ จ.ลำปาง ต้องทำงานกันอย่างหนัก ในการเข้าตรวจสอบ และควบคุมดับไฟป่า

โดยหน่วยพิทักษ์ป่า มว.4 (แม่แสลม) รายงานผลการปฏิบัติงาน ได้เข้าควบคุมไฟป่าทั้งวันทั้งคืน จนสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ บริเวณป่ารอยต่อเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าถ้ำเจ้าราม จ.สุโขทัย และพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่วะ อ.เถิน จ.ลำปาง พบไฟไหม้ลุกลามเสียหายกับพื้นที่ป่าเต็งรังไปกว่า 30 ไร่ ส่วนเจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าแม่วะ อุทยานแห่งชาติแม่วะ ก็เข้าดับไฟอีก 3 จุดใหญ่ ในพื้นที่เขตบ้านแม่แสลม ต.เวียงมอก อ.เถิน ผืนป่าวอดไปอีก 46 ไร่ สาเหตุมาจาก คนหาของป่า และเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าแม่เลิม ก็เข้าดับไฟป่าอนุรักษ์ อุทยานแห่งชาติแม่วะ เขตบ้านแม่มอกหัวน้ำ จ.แม่มอก อ.เถิน จำนวน 1 จุดใหญ่ ผืนป่าเบญจพรรณเสียหายไป 48 ไร่

ทั้งนี้ พื้นที่อำเภอทางตอนใต้ของ จ.ลำปาง ขณะนี้ ถือว่าเกิดสถานการณ์ไฟป่าหนักมากที่สุด ตามการพบจุดความร้อน ได้แก่ พื้นที่ อ.เถิน 49 จุด, อ.แม่พริก 35 จุด, อ.แม่เมาะ 27 จุด และ อ.แจ้ห่ม 24 จุด รวมถึงในทุกพื้นที่ของ จ.ลำปาง อีก 9 อำเภอ ก็พบจุดความร้อน จากการเกิดไฟไหม้ป่า ในทุกพื้นที่ เฉลี่ย 5-20 จุด จึงทำให้สถานการณ์ฝุ่นหมอกควันเกิดขึ้น และปกคลุมไปทั่วทั้งจังหวัด กลายเป็นเมืองในหมอกฝุ่น มองเห็นขาวโพลนไปทั่วบริเวณ โดยค่าฝุ่น PM2.5 จากสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบอัตโนมัติของกรมควบคุมมลพิษ ใน ต.พระบาท อ.เมือง ซึ่งเป็นเขตตัวเมือง วัดได้สูงสุด 90.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร คุณภาพอากาศอยู่ในระดับสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพมาก

ส่วนพื้นที่ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ที่มีสถานีของกรมควบคุมมลพิษ ตั้งอยู่อีก 3 แห่ง ในพื้นที่ ต.บ้านดง, ต.แม่เมาะ และ ต.สบป้าด ค่าก็อยู่ในระดับสีแดงเช่นกัน ระหว่าง 80-82 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งประชาชนใน จ.ลำปาง ต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า ถึงแม้ทางจังหวัดจะออกประกาศห้ามเผาในที่โล่งแจ้ง และออกประกาศห้ามเข้าเขตป่าโดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดี แต่ก็ไม่ทำให้สถานการณ์คลี่คลายลง ปัญหายังคงเกิดขึ้นซ้ำซาก ที่ไม่สามารถแก้ไขได้อย่างจริงจัง โดยภาคส่วนราชการของจังหวัด จึงอยากร้องขอให้ทางรัฐบาลเข้ามาแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังกว่าที่เป็นอยู่

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่