วันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.อ.สมัย ขำพันธ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่ายพิชัยดาบหัก พร้อมด้วย พ.ท.กฤษฎา ถาวรวัตร์ ผู้บังคับหน่วยฝึกวิชาทหาร ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.สมพงษ์ แจ้งจำรัส ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 35 จังหวัดอุตรดิตถ์ ให้นำคณะแพทย์ พยาบาล ทหาร กลุ่มนักศึกษาวิชาทหารรักษาดินแดน หรือ รด.จิตอาสา นักศึกษาวิชาทหารปีที่ 2 จำนวนกว่า 100 คน ออกจัดกิจกรรมให้บริการทำความดี เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา เนื่องในวันมาฆบูชา โดยตรวจสุขภาพพระภิกษุสงฆ์สามเณรจำนวน 7 รูป ตั้งแต่เจ้าอาวาสวัดจนถึงพระลูกวัด สืบเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงระหว่างอากาศหนาวสลับร้อนไปมา ส่งผลทำให้พระสงฆ์เกิดอาการเจ็บป่วยและอาจเป็นอุปสรรคต่อกิจของสงฆ์ในทางพุทธศาสนา อาทิ ออกบิณฑบาต ทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น รวมถึงเข้าร่วมกิจกรรมวันมาฆบูชา
หลังจากตรวจสุขภาพพระสงฆ์แล้วพบเจ้าอาวาสวัดและพระลูกวัด รวม 3 รูป ป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูงและโรคหอบหืด ส่วนที่เหลือพร้อมด้วยสามเณรมีสุขภาพแข็งแรงดี แพทย์ให้คำแนะนำในการฉันน้ำอุ่นเพื่อระบายเสมหะภายในลำคอ ช่วงอากาศที่เย็นให้ห่มผ้าอย่างหนา เนื่องจากจีวรที่สวมใส่สร้างความอบอุ่นให้ไม่เพียงพอพร้อมให้คำแนะนำในเรื่องของการฉันอาหารให้งดเค็มลง สำหรับผู้สูงอายุที่ป่วยความดันโลหิตสูงได้ถวายยาสามัญประจำบ้าน ยารักษาโรคแก้อาการป่วยให้กับพระสงฆ์ทุกรูป
จากนั้นนักศึกษาวิชาทหารรักษาดินแดน หรือรด.จิตอาสา พร้อมครูฝึกและหัวหน้าหน่วยร่วมกันนำอุปกรณ์ทำความสะอาดวัด ประกอบด้วย ไม้กวาด กระป๋องน้ำ รถบรรทุกน้ำพร้อมสายยาง เร่งฉีดและปัดกวาดทำความสะอาดมูลสัตว์หรือขี้ที่เกิดจากนกพิราบ ซึ่งมีเชื้อโรคหลายชนิดที่ก่อให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจ ระบบประสาทส่วนกลางที่เกิดจากกลุ่มเชื้อรา รวมถึงโรคไข้หวัดนก หากผู้สูงอายุหรือเด็ก หรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำสูดดมเข้าไปในปริมาณมาก อาจส่งผลทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยได้ ซึ่งนกพิราบได้ถ่ายทิ้งเอาไว้โดยรอบพระอุโบสถเป็นจำนวนมาก สร้างความน่าสะพรึงกลัวต่อผู้พบเห็น ทั้งระเบียงหน้าต่างด้านซ้าย ด้านขวา บันไดและประตูทางเข้าด้านหน้า ด้านหลังของพระอุโบสถ รวมไปถึงบริเวณโดยรอบอุโบสถ จึงเร่งทำความสะอาดด้วยการฉีดน้ำล้างและเก็บกวาดไม่ให้มีมูลนกพิราบหลงเหลืออยู่จนนำเชื้อโรคมาสู่คน เพื่อเตรียมให้ประชาชนทั่วไปและคนในชุมชนคุ้งตะเภาได้ใช้ทำกิจกรรมเวียนเทียนเนื่องในวันมาฆบูชา เพื่อส่งเสริมพระพุทธศาสนาสืบไป
ทั้งนี้ นักศึกษาวิชาทหาร หรือรด.จิตอาสา จำนวนเกือบ 100 คน ยังได้ร่วมกันทำแนวกันไฟบริเวณด้านหลังวัดคุ้งตะเภา ที่มีกองขยะจำนวนมากและเป็นป่าไผ่ หวั่นมีเหตุไฟป่าเกิดขึ้นแล้วลุกลามเข้าสู่วัดและบ้านเรือนราษฎรอยู่ใกล้เคียง รวมถึงมลพิษและค่าของฝุ่นละอองที่เกิดขึ้นจากเหตุไฟป่า ทำให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจ ด้วยการกำจัดเชื้อเพลิงที่ติดไฟง่าย อาทิ ใบไผ่แห้งและหญ้าแห้งออก เพื่อตัดช่วงความต่อเนื่องของเชื้อเพลิงที่จะเกิดขึ้น