โคราชแล้งหนัก ชาวนาโอดขาดน้ำทำเกษตร ล่าสุดอ่างขนาดใหญ่เหลือน้ำไม่ถึงครึ่ง
เมื่อวันที่ 11 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นี่คือภาพของฝูงนกปากห่างที่บินมาหาแหล่งน้ำและอาหารบริเวณที่นาของชาวบ้านในอำเภอพิมาย ซึ่งเมื่อปีที่แล้วที่นาแห่งนี้เคยเป็นพื้นที่นาปรังที่มีน้ำและกุ้ง หอย ปู ปลา ซึ่งเป็นแหล่งอาหารของฝูงนกปากห่างที่จะมาเป็นประจำทุกปี แต่จากสถานการณ์ภัยแล้งที่ในปีนี้มาเร็วกว่าทุกครั้ง ส่งผลทำให้พื้นที่ที่เคยทำนาปรังนั้นแห้งแล้ง น้ำในแหล่งน้ำตามธรรมชาติรวมไปถึงน้ำในลำน้ำหลักในอำเภอพิมายเริ่มแห้งขอด ทำให้เกษตรกรในพื้นที่ได้รับผลกระทบขาดน้ำทำการเกษตร ซึ่งเกตรกรบางรายนั้นได้มีการไถแปลงเตรียมปลูกข้าวเอาไว้แล้ว แต่เนื่องจากปัญหาภัยแล้งเลยทำให้ไร่นาที่ไถเตรียมแปลงเอาไว้นั้นไม่สามารถปลูกข้าวได้
โดยนายสุพจน์ ไถเหล็ก อายุ 71 ปี เกษตรกรบ้านส่วย หมู่ 3 ต.เมือง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา บอกว่า ตนนั้นได้เตรียมพื้นที่ปลูกข้าวกว่า 40 ไร่ ได้มีการไถแปลงเตรียมดินเอาไว้แล้ว แต่เนื่องจากปัญหาภัยแล้งที่มาเร็วกว่าทุกปี ทำให้ฝนไม่ตก น้ำตามลำน้ำก็แห้งขอด รวมไปถึงน้ำในคลองชลประทานก็เหลือน้อย ทำให้ในปีนี้แทบไม่เหลือน้ำทำนา โดยที่ตนนั้นจำเป็นต้องใช้เครื่องสูบน้ำจากคลองย่อยของชลประทานที่ยังพอมีเหลืออยู่มาใช้แต่ก็ต้องเจอกับปัญหาค่าใช้จ่ายในการสูบน้ำเนื่องจากต้องเติมน้ำมันประมาณ 300-400 บาทต่อชั่วโมง แล้วก็ไม่รู้ว่าน้ำที่สูบมานั้นจะเพียงพอต่อการทำนาหรือไม่ แต่อย่างไรก็ต้องลองดูเนื่องจากถ้าไม่ปลูกข้าวแล้วตนก็ไม่รู้จะไปปลูกอะไร
ขณะที่สถานกาณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำสำคัญขนาดใหญ่ทั้ง 4 อ่างนั้นมีปริมาณลดลง โดยอ่างเก็บน้ำลำตะคองนั้นมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 138.285 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 43.97% อ่างเก็บน้ำมูลบนมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 68.048 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 48.26% อ่างเก็บน้ำลำแชะมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 125.150 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 45.51% และอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิงมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 93.783 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 60.51%
