พบผู้ป่วยโรคหัด พท.สคร.12  64 ราย เตือน ปชช.ระวังเด็กเล็ก อันตรายถึงชีวิต

พบผู้ป่วยโรคหัด พท.สคร.12  64 ราย เตือน ปชช.ระวังเด็กเล็ก อันตรายถึงชีวิต ย้ำผู้ปกครองนำบุตรหลานฉีดวัคซีนให้ครบตามเกณฑ์

เมื่อวันที่ 11 มีนาคม นายแพทย์เฉลิมพล โอสถพรมมา ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรค (สคร.) ที่ 12 จ.สงขลา เปิดเผยว่า สถานการณ์โรคหัดในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 12 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-24 ก.พ.67 พบผู้ป่วย 64 ราย สูงสุดใน จ.ปัตตานี 58 ราย รองลงมา จ.ยะลา 3 ราย และ จ.สงขลา 3 ราย พบผู้ป่วยสูงในช่วงอายุ 0-4 ปี และพบว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ที่กำหนดถึงร้อยละ 71.9

นายแพทย์เฉลิมพลเปิดเผยว่า โรคหัดเป็นโรคติดเชื้อไวรัสหัด (Measles) ในระบบทางเดินหายใจ ผู้ป่วยจะเกิดผื่นขึ้นตามผิวหนังพร้อมเป็นไข้ร่วมด้วย พบได้ทุกวัยและพบได้บ่อยในเด็กเล็ก อายุ 0-6 ปี โดยเฉพาะเด็กที่ไม่ได้รับวัคซีนสามารถแพร่เชื้อและติดต่อกันได้ง่ายมาก ผ่านทางอากาศหรือการสัมผัสน้ำมูกและน้ำลายของผู้ป่วยโดยตรง ผู้ป่วยโรคหัดมีแนวโน้มสูงขึ้นในพื้นที่ที่มีความครอบคลุมของวัคซีนต่ำ

Advertisement

“ผู้ป่วยโรคหัดจะเริ่มมีอาการไข้ หลังได้รับเชื้อประมาณ 10-12 วัน ในระยะเริ่มแรกจะมีอาการคล้ายไข้หวัด มักตัวร้อนและอาจมีไข้สูงถึง 40 องศาเซลเซียส มีน้ำมูกไหล ไอบ่อย เจ็บคอ ตาแดงเยิ้ม หลังจากนั้นประมาณ 3-5 วัน จะมีผื่นแดงขึ้นตามใบหน้า เหนือไรผม แล้วกระจายไปลำตัว แขน ขา บางรายอาจมีตุ่มแดงที่มีสีขาวตรงกลาง ขึ้นในกระพุ้งแก้ม ควรรีบไปพบแพทย์ หากมีภาวะรุนแรงและแทรกซ้อน เพื่อได้รับการรักษาทันท่วงที”

นายแพทย์เฉลิมพลเปิดเผยว่า โรคหัดป้องกันได้ ด้วยการนำบุตรหลานไปฉีดวัคซีน MMR (Measles-Mumps-Rubella Vaccine) จำนวน 2 เข็ม โดยฉีดเข็มแรก เมื่ออายุ 9-12 เดือน และเข็มที่ 2 เมื่ออายุ 1 ปี 6 เดือน ซึ่งวัคซีนดังกล่าวสามารถป้องกันทั้งโรคหัด คางทูม และหัดเยอรมัน ประชาชนที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนโรคหัด ควรพามาฉีดวัคซีนโดยด่วน ที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน ฟรี และหากเด็กในปกครอง มีไข้ ไอ ตาแดง และมีผื่นแดงบริเวณใบหน้าและร่างกาย ให้แยกเด็กออกไม่ให้สัมผัสกับเด็กอื่น เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ พร้อมยึดหลัก D-M-H เว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย และล้างมือบ่อยๆ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image