ครูเกษียณโรงเรียนดัง เสียชีวิตปริศนา ร่างแห้งเหลือแต่โครงกระดูกในบ้านพัก น้องชาย ติดต่อไม่ได้ 1 ปี พบอีกทีพี่สาวเหลือแต่กระดูก ซ้ำเพิ่งรู้พี่เขยตาย ตั้งแต่ปี 2553 แต่ไม่เคยบอกญาติ
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 12 มีนาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตภายในบ้านหลังหนึ่ง ในซอยสามัคคี 50 ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี จึงพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งและประสานแพทย์เวรจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ เป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว บริเวณภายนอกบ้านพบว่าต้นไม้สูงปกคลุมรถเก๋งที่จอดอยู่หน้าบ้าน 1 คัน ในบ้าน 1 คัน สภาพต้นไม้หน้าบ้านปกคลุมมีฝุ่นเกาะหนา ซึ่งรถทั้ง 2 คันเป็นของผู้เสียชีวิต
ตรวจสอบในตัวบ้านพบโครงกระดูกของนางพรรณทิพย์ อายุ 76 ปี อดีตครูโรงเรียนสตรีวิทยา เกษียณอายุแล้ว อยู่กลางบ้านท่ามกลางกองสมุดหนังสือและเสื้อผ้าจำนวนมาก สภาพศพแห้งเหลือแต่โครงกระดูก โดยภายในบ้านยังเปิดเครื่องปรับอากาศไว้ ทางแพทย์ตรวจสอบเบื้องต้นเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1 ปี
นายกนก อายุ 71 ปี น้องชายผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ได้เจอพี่สาวครั้งสุดท้ายเดือนมกราคม ปี 2566 เพราะปกติตนจะมีหน้าที่มานำรถของพี่สาวไปต่อภาษีตรวจสภาพให้เป็นประจำทุกปี แต่เกิดขัดใจกัน ตนบอกพี่สาวว่าไม่ต้องต่อ ไม่ต้องทำรถแล้ว เพราะทำไปก็ไม่ได้ใช้ แต่พี่สาวบอกจะเก็บไว้ให้สามีใช้ หลังจากนั้นตนก็ไม่ได้พูดคุยกันแต่ก็มีการส่งไลน์ไปทักสวัสดีทุกวันเป็นประจำ แต่พี่สาวไม่ยอมอ่านเลย โทรไปหาก็ไม่รับ
นายกนกกล่าวว่า จนกระทั่งครบปี ตนคิดว่าผิดปกติ ที่ไม่สามารถติดต่อกันได้เลยวันนี้ซึ่งครบปีกว่าจึงตัดสินใจเดินทางมา เมื่อมาถึงบ้านล็อกจึงใช้ช่างไขกุญแจเปิดเข้าไป พบว่าเหลือแต่กระดูกแล้ว จริงๆ แล้วเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมาตนได้ให้เพื่อนเช็กทะเบียนราษฎร์ ชื่อของนายมรกต พี่เขย เพื่อจะติดต่อพี่สาวอีกทางหนึ่ง แต่ผลปรากฏว่ามีการแจ้งตายไปแล้วตั้งแต่ปี 2553 ผมนี่เข่าทรุดเลยไม่รู้พี่สาวเล่นอะไรของแก
จากการสอบถามเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กันให้ข้อมูลว่า เมื่อประมาณเดือนพฤศจิกายน 2566 ยังเห็นคุณยายออกมายืนข้างนอกบ้านโดยมีชายคาดว่าเป็นคนงานมาตัดกิ่งไม้หน้าบ้าน แต่ต้องบอกก่อนว่าไม่แน่ใจว่าจะเป็นคนๆ เดียวกันกับที่เสียชีวิตไหมเนื่องจากตนไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน
ขณะที่เพื่อนบ้านอีกคนหนึ่งเผยว่า 4-5 เดือนที่แล้วเคยเห็นผู้เสียชีวิตตอนประมาณ 22.00 น. ลงมาจากแท็กซี่ก่อนจะเดินเข้าบ้านไป โดยปกติแล้วผู้เสียชีวิตเป็นคนไม่พูดคุยกับใครเก็บตัวเงียบ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการบันทึกภาพที่เกิดเหตุ สอบถามญาติของผู้เสียชีวิตไว้ ซึ่งยืนยันว่าติดต่อไม่ได้มาประมาณหนึ่งปี ซึ่งทางญาติก็ไม่ได้ติดใจในการเสียชีวิต แต่อย่างไรก็ตามจะต้องมอบโครงกระดูกให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำส่งสถาบันนิติเวชศาสตร์เพื่อชันสูตรต่อไป