เหลืองอร่าม! พลิกวิกฤตเปลี่ยนนาร้างเป็นทุ่งปอเทือง ดินดี เงินดี เป็นแหล่งท่องเที่ยว

วันที่ 20 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุทธิดล วงศ์จันฬา ผอ.สถานีพัฒนาที่ดิน จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนายรังสรรค์  โพธิ์ชัย กำนันตำบลหนองตอกแป้น  ประธานกลุ่มเกษตรอินทรีย์ อ.ยางตลาด  และเกษตรกรเข้าเยี่ยมชมแปลงปลูกปอเทืองแปลงใหญ่ของ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์  ที่มีพื้นที่ปลูกกว่า 2,000 ไร่ กระจายอยู่ตามในหมู่บ้านต่างๆ  หลังสถานีพัฒนาที่ดิน จ.กาฬสินธุ์ ให้การส่งเสริมเกษตรกรหันมาปลูกปอเทืองในช่วงหน้าแล้ง  ทดแทนการปลูกพืชชนิดอื่น ๆ ที่จะมีความเสี่ยงต่อภาวะขาดทุนเพราะเชื่อว่าปีนี้แล้งรุนแรงและยาวนาน เป็นผลกระทบจากภาวะโลกร้อน

โดยทุ่งปอเทืองภายใต้การสนับสนุนและการส่งเสริมของสถานีพัฒนาที่ดิน  จ.กาฬสินธุ์  กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากเนื่องจากเป็นช่วงที่มีความสวยงามอย่างมาก  เพราะปอเทืองกำลังออกดอกสีเหลืองทองเต็มท้องทุ่งกว้าง  โดยเฉพาะแปลงของนางอรอุมา ภูพาดสี  ที่รวมกลุ่มกับญาติพี่น้องมีที่นาติด ๆ กันพร้อมใจปลูกปอเทืองกว่า 70 ไร่  เต็มพื้นที่ เช่นเดียวกันกับของนางทองคำ ภูแข่งหมอก เกษตรกร อ.ยางตลาด ที่ปลูกปอเทืองในนาข้าวกว่า 30 ไร่  ซึ่งสถานีพัฒนาที่ดินได้จัดให้เป็นพื้นที่ศึกษาดูงานสำหรับเกษตรกรที่สนใจปลูกปอเมืองในหน้าแล้งนี้ และกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาถ่ายรูปและท่องเที่ยวตลอดทั้งวัน

นายรังสรรค์ โพธิ์ชัย กำนันตำบลหนองดอกแป้นประธานกลุ่มเกษตรอินทรีย์ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์  กล่าวว่า เพื่อสนองนโยบายของรัฐบาลในการลดต้นทุน ลดการใช้ปุ๋ยและหันมาบำรุงดินด้วยการใช้ปุ๋ยพืชสด  การปลูกปอเทืองได้ประโยชน์ถึง 3 เด้ง  ประโยชน์ต่อดิน  ช่วยกำจัดวงจรวัชพืชในนาข้าว เป็นปุ๋ยพืชสดบำรุงดินทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น  ต่อมาคือการมีรายได้จากการขายเมล็ดปอเทือง  ทั้งที่ขายให้กับเอกชนและขายคืนให้กับสถานีพัฒนาที่ดิน  และสุดท้ายคือการเป็นสถานที่ท่องเที่ยว มีการถ่ายภาพลงโซเชียล ทำให้หมู่บ้านเป็นที่รู้จักมากขึ้น  บรรยากาศในหมู่บ้านและชุมชน ก็คึกคัก เกิดความตื่นตัวของประชาชนที่จะหันมาปลูกเพิ่มมากขึ้น อย่างพื้นที่ ต.หนองตอกแป้น  มีการส่งเสริมมากกว่า 3 ปี เริ่มจาก 10 ไร่ เพิ่มขึ้นเป็น 500 ไร่ และขยายมากกว่า 1,200 ไร่ในปีนี้ 

201602201224071-20041021173804

ADVERTISMENT

นายสุทธิดล วงศ์จันฬา ผอ.สถานีพัฒนาที่ดิน จ.กาฬสินธุ์  กล่าวว่า ในช่วงหน้าแล้งนี้การปลูกปอเทืองน่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของเกษตรกร  นอกเหนือจากที่จะใช้เป็นปุ๋ยพืชสดเพื่อบำรุงดินแล้ว  ยังนำเมล็ดมาจำหน่ายให้กับทางสถานีพัฒนาที่ดินได้ด้วยโดยเปิดรับซื้อกิโลกรัมละ 21 บาท  ซึ่งเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ จะได้ผลผลิตประมาณ 180-250 กก. ขณะที่ต้นทุนอยู่ที่ประมาณ 1,000 บาทต่อไร่ ทั้งการเกี่ยวและไถกลบ  เกษตรกรจะมีรายได้เฉลี่ยประมาณ 3,000 บาทต่อไร่เมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้ว  ก็ดีกว่าที่เกษตรกรจะปล่อยทุ่งนาให้ร้างหน้าแล้งและดีกว่าที่จะเสี่ยงลงทุนปลูกพืชในช่วงหน้าแล้งปีนี้เพราะคาดการณ์ว่าจะแล้งรุนแรงกว่าทุก ๆ ปี  ทั้งนี้ในการปลูกปอเทืองเมื่อหว่านเมล็ดในแปลงแล้วปอเทืองจะเติบโตเองโดยไม่ต้องใช้น้ำและใส่ปุ๋ยใด ๆ  อายุ 120 วัน สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้โดยใช้รถเกี่ยวข้าว จากนั้นก็ใช้รถไถไถกลบทั้งตอซัง  เมล็ดพันธุ์นำกลับมาขายให้กับสถานีพัฒนาที่ดิน  ตอซังที่ไถกลบเป็นปุ๋ยบำรุงดิน  โดยเกษตรกรที่เริ่มปลูกปอเทืองมา 3-5 ปี จะเห็นข้อดีอย่างชัดเจนโดยเฉพาะนาข้าว ที่จะได้ผลผลิตเพิ่มขึ้น 10-20 นอกจากนี้นาข้าวที่ไถกลบด้วยปอเทืองแล้วไม่ต้องใส่ปุ๋ยทำให้ลดต้นทุนการทำนาไปได้มาก

ในส่วนของการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกปอเทืองในพื้นที่นั้นทางสถานีพัฒนาที่ดิน จ.กาฬสินธุ์ ได้ส่งเสริมในรูปแบบแปลงใหญ่ โดยมีกลุ่มเครือข่ายเกษตรกร  หมอดินหมู่บ้าน และหมอดินตำบล  เป็นแรงขับเคลื่อนให้เกษตรกรจับกลุ่มรวมตัวกันในพื้นที่ใกล้เคียงกัน ก่อนจะหว่านปอเทืองพร้อม ๆ กัน เพื่อให้เวลาออกดอกสีเหลืองอร่ามของปอเทืองจะดูสวยงามเป็นทุ่งปอเทืองกว้างสุดลูกหูลูกตา สวยงามอย่างมาก โดยสถานีพัฒนาที่ดินก็จะเข้าไปส่งเสริมให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวร่วมกับชาวบ้าน  ที่ถือว่ามีกระแสตอบรับดีบรรยากาศการท่องเที่ยวในพื้นที่คึกคักมากขึ้น  โดยเกษตรกรที่สนใจจะปลูกปอเทือง สามารถติดต่อสอบถามได้ที่สถานีพัฒนาที่จังหวัดกาฬสินธุ์ได้  ซึ่งมีเมล็ดพันธุ์แจกให้กับเกษตรกรฟรี  รวมถึงข้อแนะนำการปลูก การเก็บเกี่ยวและการรับซื้อผลผลิต  ที่ปีนี้ตั้งเป้าในพื้นที่ 12,000 ไร่  และรับซื้อผลผลิตประมาณ 85 ตัน” นายสุทธิดล กล่าว