ชาวบ้าน รับไม่ได้ เจ้าอาวาส ถูกหนุ่มคลั่งกัญชา บุกทำร้ายดับคาวัด ตร.แจ้งข้อหาหนัก

ชาวบ้าน รับไม่ได้ เจ้าอาวาส ถูกหนุ่มคลั่งกัญชา บุกทำร้ายดับคาวัด ตร.แจ้งข้อหาหนัก

จากกรณีที่ นายสิทธิชัย สุนทรวิสัย หรือ ปั๊บ อายุ 28 ปี ชาว อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี คลุ้มคลั่งก่อเหตุใช้เสียมด้ามเหล็กไล่ทำร้ายคนในหอพักแห่งหนึ่ง ข้างซอยหลังวัดอดุลแก้วมอดี บ.โนนม่วง ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ก่อนจะบุกเข้ามาทำร้ายพระครูปลัดต่วน ชุตินฺธโร อายุ 77 ปี เจ้าอาวาสวัด จนเสียชีวิต โดยมีคนมาพบศพบริเวณลานปูนหน้ากุฏิวัด ก่อนจะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาทำการจับกุมและควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 

เมื่อวันที่ 18 มีนาคม พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยว่า ขณะนี้นายสิทธิชัย หรือปั๊บ ผู้ต้องหายังคงรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ศรีนครินทร์ ซึ่งทีมกู้ชีพได้ฉีดยาระงับอาการคลุ้มคลั่งไว้ หลังถูกจับกุมตัวตั้งแต่เมื่อวานนี้ และทีมแพทย์ได้ทำการรักษาตัวให้กับผู้ต้องหา เนื่องจากได้รับบาดเจ็บจากกระจกบาดหลายจุด โดยเฉพาะที่บริเวณแขนขวา ถูกกระจกบาด จนทำให้เส้นเลือดใหญ่ฉีกขาด ทั้งนี้ ยังคงต้องรอให้แพทย์ลงความเห็นว่าสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ เจ้าหน้าที่จะได้ควบคุมตัวมาสอบคำปาก และส่งฝากขังผลัดแรกต่อศาลได้ ซึ่งในเบื้องต้นได้ตั้งข้อกล่าวหา “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเสียชีวิต” และคัดค้านการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน

Advertisement

ขณะที่ วัดอดุลแก้วมอดี บ้านโนนม่วงหมู่ 19 ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีญาติธรรมและลูกศิษย์ลูกหา รวมทั้งคนในครอบครัวของพระครูปลัดต่วน ทยอยเดินทางมาร่วมงานอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางบรรยากาศที่โศกเศร้า และเป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนขวัญชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างมาก

นายชัชชัย ธรรมเวียง อายุ 43 ปี หลานพระครูปลัดต่วน กล่าวว่า ครอบครัวยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและร้องขอให้ทุกหน่วยงานเอาจริงกับเรื่องนี้ และขณะนี้ทราบว่าผู้ก่อเหตุยังไม่ออกจาก รพ. จึงยังทำให้ไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ ซึ่งครอบครัวได้หารือร่วมกับคณะสงฆ์คณะกรรมการวัดและญาติธรรม ซึ่งคณะสงฆ์แจ้งว่าหลวงลุง เป็นเจ้าอาวาสให้ตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัด 7 วันและเก็บสรีระสังขารท่านไว้ 100 วัน ซึ่งทุกคนเห็นพ้องต้องกันและมอบหมายให้คณะสงฆ์ปกครอง กรรมการวัด และสำนักพระพุทธศาสนา นั้นดำเนินการตามขั้นตอนของสงฆ์

Advertisement

“ครอบครัวยังคงรออย่างมีความหวังในการนำคนผิดมาลงโทษตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด ไม่ใช่มาระบุว่าคลุ้มคลั่งแล้วจบ หลวงลุงยืนรดน้ำต้นไม้อยู่หน้ากุฏิ และถูกคนร้ายบุกเข้าทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตคาที่ ผมเชื่อว่าเหตุการณ์เช่นนี้ถ้าไม่โดนกับตัวเอง หรือคนในครอบครัวตัวเอง ไม่มีใครรู้หลอกว่าจะรู้สึกอย่างไร ใครจะรับได้กับเรื่องแบบนี้ ทุกสัปดาห์ผมและครอบครัวจะมากราบหลวงลุง มาถวายของให้หลวงลุง และโทรศัพท์หาท่านตลอดเพราะท่านสุขภาพมากแล้ว และจำวัดที่นี่มากว่า 40 ปี เมื่อเกิดเหตุการณ์แล้วทุกคนก็อยากถามผู้ต้องหา หรือครอบครัวผู้ต้องหาว่าทำแบบนี้ทำไม หลวงลุงไปทำอะไรให้โกรธแค้นเช่นนี้ อย่างไรทุกคนก็ยังคงต้องการให้หน่วยงานเข้ามาดูแลและช่วยเหลือ ทั้งเรื่องของคดีความ เรื่องการอำนวยความยุติธรรม เรื่องเหยื่อของคดีอาญาและการจัดการในศาสนกิจของสงฆ์ เพราะทุกคนยังรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น”

ขณะที่ นางวาสนา จันทร์พุด อายุ 54 ปี กล่าวว่า พระครูปลัดต่วนเป็นทั้งนักปฏิบัติและพระนักพัฒนา ตั้งแต่ตนเองมาอยู่ตั้งแต่ปี พ.ศ.2529 ก็เห็นหลวงตามาตลอด และพัฒนาวัดจากไม่มีอะไร ก็มีการสร้างโบสถ์ สร้างเมรุ จนกลายเป็นวัดมีตราตั้งจนถึงปัจจุบัน หลักคำสอนของหลวงตานั้น ทุกคนทราบดีท่านเป็นคนมีเมตตา มีแต่ให้ ชาวบ้านไม่มีเงินจ่ายค่าไฟ ไฟตัดหลวงตาก็ช่วยโดยไม่หวังผลตอบแทน ทำให้ชาวบ้านทุกคนในพื้นที่และต่างพื้นที่เลื่อมใสศรัทธาหลวงตาเป็นอย่างมาก

นางวาสนา กล่าวต่อว่า ความรู้สึกตอนนี้ทุกคนยังเสียใจ เพราะหลวงตาป่วยไม่สบายอยู่แล้ว แต่กลับมาถูกฆ่าตาย ทำให้ชาวบ้านโมโห ทำไมถึงไม่ให้คนก่อเหตุตายไปด้วย ปกติหลวงตาอยู่วัดลำพังจะไม่เปิดกุฏิออกมา ใครมาก็จะเห็นหลวงตาล็อกกุฏิตลอด จนกว่าพระลูกวัดจะกลับมา วันเกิดเหตุไม่ทราบว่าเพราะอะไรทำไมจึงเปิดหรือมีใครไปเรียกหรือไม่ เพราะปกติจะรดน้ำต้นไม้แต่ไม่เปิดกุฏิและออกมาเช้าขนาดนี้ แต่ตนเองก็ได้แค่สงสัยเพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ หลังจากนี้ก็คุยกันอยากให้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพราะที่วัดไม่มีติดตั้ง และอยากให้ตำรวจออกมาตรวจบ่อยๆ ด้วย

“อยากจะฝากถึงเด็กๆ สมัยนี้ โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติด หรือกัญชาที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ไม่ใช่เสพจนมาฆ่าคนตาย ถ้าเลิกได้ก็เลิกซะ ถ้าว่าเสรีก็ปล่อยเสรีจนฆ่าคนตาย อีกสักหน่อยคงฆ่าพ่อฆ่าแม่ตัวเองตาย คำว่าเสรีแต่ปล่อยให้เด็กเสพเสรีจนฆ่าคนได้ขนาดนี้ สมัยก่อนได้ยินแต่ว่าเสพกัญชาแล้วจะหัวเราะเฮฮา แต่ทำไมทุกวันนี้มีแต่เสพกัญชาแล้วฆ่าคนตาย หรือมีอย่างอื่นผสมเราก็ไม่ทราบ ซึ่งก่อนที่หลวงตาจะมรณภาพนั้น หลวงตาดำริไว้จะสร้างโบสถ์ให้เสร็จเตรียมฉลองโบสถ์ใหม่ เพราะหลวงตาเป็นผู้หาเงินมาสร้าง ทั้งจากผู้มีจิตศรัทธา และพระผู้ใหญ่ซึ่งสร้างไปได้แล้ว 80% เตรียมที่จะฉลองโบสถ์ใหม่ร่วมกับชาวบ้านแต่ก็มาถูกฆ่าก่อน”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image